26 เม.ย.64 - นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีและโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ดังนี้
ดึงหน้ากากไว้ใต้คาง ใส่หน้ากากปิดปากแต่ไม่ปิดจมูก ผิดกฎหมาย..!! ปิดมิดชิดปากและจมูก ให้ถูกต้อง..!!
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เซ็นประกาศแล้ว คนกทม. คนสงขลา และทุกจังหวัดที่ประกาศแล้ว.. ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออกจากบ้าน อย่างถูกต้องหรือถูกวิธี..ฝ่าฝืนปรับสูงสุดไม่เกินสองหมื่นบาท มีผลตั้งแต่วันนี้เหมือนคำสั่งจังหวัดที่ให้ สวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เจตนารมณ์ ของกฎหมายที่รองรับคำสั่ง คือป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ การสวมหน้ากากจึงต้องสวมให้ถูกต้องเพื่อป้องกันโรคระบาด ไม่ใช่เพื่อป้องกันถูกจับปรับไม่เกิน 20,000บาท เท่านั้น หน้ากากจึงมีไว้เพื่อป้องกันตัวท่านเองไม่ให้ติดเชื้อโควิด ไม่ใช่มีไว้เพื่อป้องกันตำรวจจับ ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามถือว่ามีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2554 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
คนที่ไม่อยากใส่ คนที่รู้สึกต่อต้าน ขอให้ไปอ่านข่าวกันบ้างว่าผู้ติดเชื้อโควิด นำเชื้อกลับเข้าไปติดคนที่บ้าน โดยเฉพาะวัยรุ่นที่นำเชื้อไปติดคุณพ่อคุณแม่ที่สูงอายุ ท่านระมัดระวังไม่ออกนอกบ้าน มีวินัยป้องกันตนเองอย่างสูง แต่ลูกหลานเข้ามาหา นำเชื้อมาติดคนสูงอายุในบ้านหลายรายแล้ว เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ คงต้องมานั่งเสียใจแล้วคิดกันแบบเดิมๆว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเรา จึงไม่ควรประมาท ร่วมมือกันอย่างมีวินัยอย่างเคร่งครัด เราปลอดภัย ทุกคนที่ใกล้เราปลอดภัยด้วย จึงจะรอดไปด้วยกัน
อัยการจึงขอให้ปฎิบัติตามประกาศ ใน ทุกจังหวัดโดยเคร่งครัด ออกจากบ้านใส่หน้ากากทันทีนั่งรถโดยสารสาธารณะ รถเมล์ รถแท็กซี่ ก็ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลานะครับ จังหวัดไหนที่ยังไม่ประกาศ ก็ใส่ได้นะครับ ถ้าอยากจะรอดไปด้วยกัน แม้กฎหมายนี้จะดูเป็นการบังคับให้เราใส่หน้ากาก แต่ใส่แล้วก็ดีกับเราปลอดภัยกับเรา เรียกได้ว่าดีมากกว่าเสีย แล้วทำไมเราจะไม่ใส่หน้ากากกันละครับ
ท่านประเสริฐ อธิบดีอัยการภาค 8 ได้ส่ง บันทึกคำฟ้อง คำรับสารภาพ คำพิพากษาศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ซึ่งศาลท่านได้ระบุกฏหมายครบถ้วนทุกฉบับทุกมาตรา ให้ดูเป็นตัวอย่างแม้ศาลใช้ดุลพินิจปรับ 4,000 บาทรับสารภาพลดครึ่งเหลือ 2,000 บาท แต่ในจังหวัดอื่นๆ ศาลท่านก็ใช้ดุลพินิจลงโทษตามความเหมาะสมในพฤติการณ์แห่งคดี หากมีพฤติการณ์ไม่ยอมใส่หน้ากากแบบท้าทายกฎหมาย ศาลอาจใช้ดุลพินิจลงโทษหนักกว่านี้ได้ ...อัตราโทษปรับอย่างสูงไม่เกิน 20,000 บาท ขอบคุณท่านประเสริฐอธิบดีอัยการภาค8 ที่ช่วยให้ความรู้ประชาชน ประชาชนจะได้ร่วมมือกันปฏิบัติอย่างถูกต้องไม่ให้เกิดประเด็นความขัดแย้งทางสังคม ในการปฎิบัติตามกฏหมาย ครับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |