26เม.ย.64-นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาฯ สกสค.) กล่าวว่า ตามที่มีครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ไปออกรายการสถานีประชาชน ทางสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยระบุว่ากำลังประสบปัญหาหนี้สินเข้าขั้นวิกฤติโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้สินที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา และต้องการให้หน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงสำนักงาน สกสค.ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาได้เข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนนั้น เท่าที่ตนได้พูดคุยกับตัวแทนครูที่มาออกรายการดังกล่าวทำให้ทราบว่าขณะนี้มีครูเป็นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากภาระหนี้สินเข้าขั้นวิกฤติ และเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องล้มละลาย ดังนั้นการช่วยเหลือเร่งด่วนที่จะต้องทำในทันทีก็คือสำนักงาน สกสค.จะต้องเข้าไปช่วยเจรจากับทางเจ้าหนี้ คือ สถาบันการเงิน และสหกรณ์ออมทรัพย์ต่าง ๆ โดยจะต้องนำปัญหาหนี้ที่มีอยู่มาพูดคุยตกลงกันทั้งสองฝ่ายให้ได้ข้อสรุปว่าจะปรับโครงสร้างหนี้ และมีการชำระหนี้กันอย่างไร เพื่อให้ครูตั้งตัวได้ และอยู่ได้จริง เป็นการยืดระยะเวลาของครูที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติให้สามารถต่อลมหายใจออกไปได้อีก  นอกจากนี้ตนยังได้ตั้งนายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาฯ สกสค. ซึ่งมีประสบการณ์และความรู้ความสามารถเกี่ยวกับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะการเป็นประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูบุรีรัมย์มาแล้วหลายสมัยเข้าร่วมเป็นคณะทำงานแก้ไขปัญหาหนี้สินครูร่วมกับกระทรวงการคลังด้วย

นายธนพร กล่าวอีกว่า จากปัญหาหนี้สินครูดังกล่าว  สกสค.ซึ่งเป็นองค์กรที่กำกับดูแลด้านการจัดสวัสดิการให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ ทั้งในและนอกประจำการ จึงประสานไปยังสำนักงาน สกสค.จังหวัดทั่วประเทศ ให้แจ้งครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้น ๆ ได้ทราบว่าขณะนี้สำนักงาน สกสค.ได้เปิดช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์ที่เกี่ยวกับหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ่านทางเว็บไซต์ www.otep.go.th โดยครูและบุคลากรทางการศึกษาคนใดที่ประสบปัญหาดังกล่าวสามารถส่งจดหมายร้องทุกข์เข้ามาได้ โดยสำนักงาน สกสค.จะพิจารณาให้การช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ที่ประสบปัญหาวิกฤติรุนแรงก่อน โดยให้ สกสค.จังหวัดเข้าไปเจรจากับเจ้าหนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินสาขาในจังหวัด หรือสหกรณ์ออมทรัพย์ ได้ประวิงเวลาขอให้ครูได้ตั้งหลัก โดยการปรับโครงสร้างหนี้ให้ครูจ่ายได้จริงและอยู่ได้จริงไม่ล้ม