ส่งสัญญาณอะไร! "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" พร้อมใจขอโทษประชาชนแทนตำรวจที่ทำให้เสียความรู้สึก  หลังถูกวิจารณ์หนักทำเกินกว่าเหตุ กองปราบฯ ติดอาวุธ ขนกำลังไปเป็นกองทัพ บุกวัดอ้อน้อย พังประตูจับอดีตหลวงปู่คนเดียว "ไก่อู" เผยนายกฯ เตือนไปแล้วต้องไม่เกิดอีก ส่วนโฆษกกลาโหมระบุฝ่ายความมั่นคงเรียกตำรวจมาตักเตือนแล้ว "เสก โลโซ" เหลือขอโพสต์ FB เจอหน้า "พุทธะอิสระ" จะตบสักที
    หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามบุกเข้าจับกุมอดีตพระพุทธะอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ ในขณะที่ยังเป็นพระที่กุฏิในวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ล่าสุดผู้นำในรัฐบาลพากันออกมาขอโทษแทนตำรวจแล้ว
    พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอโทษแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเสียความรู้สึก โดยได้ว่ากล่าวตักเตือนและกำชับไปแล้วว่าต้องไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก รวมทั้งยังได้ฝากขอโทษนายสุวิทย์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
    โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจดีถึงเจตนาของทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความรัดกุมรอบคอบ แต่จะต้องปรับวิธีการให้เหมาะสม รวมถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะยึดหลักกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกคนอย่างเต็มที่
    ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ทางฝ่ายความมั่นคงไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีดังกล่าว โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตักเตือนการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ 
    เขากล่าวว่า พล.อ.ประวิตรรู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะไปกระทบต่อความรู้สึกของศิษยานุศิษย์และประชาชนฝ่ายความมั่นคงก็ต้องขอโทษ ทั้งนี้ ยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงพร้อมให้ความเป็นธรรมอดีตพระพุทธะอิสระตามกระบวนการยุติธรรม
    "พล.อ.ประวิตรอยากขอโทษประชาชนแทนตำรวจต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมภายในเขตวัด และได้เน้นย้ำไปแล้วว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก"  พล.ท.คงชีพกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครค่อนข้างเงียบเหงา ขณะที่นายมหัศจักร โสดี ทนายอดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ เปิดเผยว่า วันนี้ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระ แต่ยังมีลูกศิษย์บางส่วนเดินทางมาจากต่างจังหวัดไปที่หน้าเรือนจำเลยได้ขอความร่วมมือให้ไปอย่างสงบ
ยังไม่ขอยื่นประกันตัว
    ทนายความผู้นี้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เท่าที่ได้พูดคุยกับอดีตพระพุทธะอิสระ ยังได้รับการยืนยันว่า ยังไม่ต้องการให้มีการยื่นประกันตัวแต่อย่างใด โดยอยากขอรอดูทางพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีว่าอย่างไรบ้าง และจึงค่อยยื่นประกันตัวในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้อดีตพระพุทธะอิสระยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย กินได้ตามปกติในเรือนจำ ไร้สีหน้ากังวล มีสมาธิดี
    ส่วนกระแสข่าวการยอมรับสารภาพของอดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ เรื่องการปลอมแปลงพระปรมาภิไธยนั้นนายมหัศจักรตอบว่า อดีตหลวงปู่พุทธะอิสระบอกว่ายินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 
    ขณะที่เรื่องการตรวจพบหมีขอสีดำ 2 ตัว และกวางดาว 4 ตัวในวัดอ้อน้อย ก็มีเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่ 3 บ้านโป่ง ราชบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบแล้ว โดยทางวัดได้นำใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราวมาแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
    วันเดียวกันนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงได้แสดงความเห็นด้วยการโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เช่น พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบก.ป. โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยข้อความระบุว่า "คอมมานโดออกงาน เรามีแค่เครื่องแบบชุดนี้ชุดเดียว จะอยู่จะตายก็ในชุดแบบนี้  ที่สำคัญทุกภารกิจต้องมีผมอยู่ ไม่มีไม่ใช่ เข้าใจตรงกันนะ จับพระ นายเขาไม่ใช้พวกผมหรอก เอาซามูไรไปไดร์หญ้า เสียของ"
    ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจกองปราบปรามชุดที่เข้าจับกุมหลวงปู่พุทธะอิสระนั้น ไม่ใช่กำลังคอมมานโด กก.ปพ.บก.ป.อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจกัน
    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ”นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ระบุว่า เมื่อศาสนจักรอ่อนแอ รัฐก็ทำเหมือนเอาไปกระทืบเสียให้ตาย-ประเทศไทย ศาสนจักรกับอาณาจักร ต่างโอบอุ้มดูแลซึ่งกันและกันมาตลอด ยามที่อาณาจักรอ่อนแอ ศาสนจักรก็เข้าโอบอุ้ม ยามศาสนจักรอ่อนแอ อาณาจักรก็เข้าโอบอุ้ม 
    ศาสนิกทุกศาสนาจึงอยู่ด้วยความอบอุ่น เราผู้อยู่ในแวดวงการเมืองก็มิควร "ถือฝ่าย" ด้วยการเชียร์ หรือค้านกับการปฏิบัติของรัฐที่มีต่อฝ่ายศาสนจักรอย่างไม่เหมาะสม เพราะมีแต่จะทำให้ศาสนจักรอ่อนแอลงไปอีก แต่ควรเรียกร้องให้รัฐกำหนดท่าทีที่ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา 
ศาสนจักรกับอาณาจักร 
    เสียดาย ในพุทธศักราช 2561 เราเริ่มเห็นเค้าลางความอ่อนแอของศาสนจักรแล้ว แต่แทนที่รัฐซึ่งเป็นฝ่ายอาณาจักรจะโอบอุ้ม กลับใช้อำนาจและท่าทีที่ดุดัน แข็งกร้าวต่อศาสนจักร มิได้โอบอุ้มคุ้มครอง ทั้งที่สามารถกำหนดท่าทีและการปฏิบัติที่ดีกว่านี้ได้
    ผมเปรียบเทียบว่า แม้ผู้ต้องโทษประหารชีวิต เดิม กฎหมายบัญญัติว่า "ให้เอาไปยิงเสียให้ตาย" แต่ต่อมารัฐหรือฝ่ายอาณาจักรเห็นว่าการยิงเสียให้ตายเป็นการทารุณ ก็ได้บัญญัติใหม่เป็น "ฉีดยาหรือสารพิษเสียให้ตาย" ก็ด้วยวัตถุประสงค์มิให้ผู้ที่ต้องโทษ บาดเจ็บหรือทรมาน แม้การทำให้ตายก็ทำให้นอนหลับตายไปเลย แต่สิ่งที่รัฐทำกับศาสนจักรขณะนี้ ก็เหมือน "เอาไปกระทืบเสียให้ตาย"
    สืบเนื่องจากกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามนำกำลังบุกเข้าจับกุมอดีตพระพุทธะอิสระว่า การปฏิบัติการของตำรวจก็ต้องระมัดระวังตัวเอง การดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอน เหมือนกรณีการจับกุมเสก โลโซ และ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แค่ประชาชนไม่ชินกับการควบคุมตัวหรือดำเนินการกับพระเท่านั้น
     นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ "หงา คาราวาน" ศิลปินแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความว่า "ขอเถียงหน่อยเถอะ ผมว่า ไม่เหมือนกันนะครับเจ้านาย"
     หงา คาราวาน แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า "ไม่เหมือนกัน อย่างน้อยก็ท่าทีท่วงทำนองของผู้ปฏิบัติการ ท่าน ผบ.ตร ลองย้อนไปดูคลิปให้ดีสิครับ คดีความก็ต่างกัน ใช้เวลาต่อรองเกลี้ยกล่อมรอคอยก็ต่างกัน ผู้ต้องหา มีอาวุธครอบครองก็ต่างกัน
     ที่สำคัญ ความกระเหี้ยนกระหือรือต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่ไม่นับความเป็นจริงของสถานะผู้ต้องหานะครับ พระเจ้าอาวาส นักร้องดัง อดีตตำรวจที่ผันตัวเองออกจากเครื่องแบบ ถามอีกทีครับว่าเหมือนกันตรงไหน?" 
เถื่อน โลโซ
    ขณะที่นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ "เสก โลโซ" นักร้องผู้เต็มไปด้วยเรื่องฉาวโฉ่ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก "SEK LOSO" ว่า “อันนี้ส่วนตัวนะ ไม่เกี่ยวกับการเมือง" ถ้ามันไม่ได้ห่มผ้าเหลืองนี่โดนข้าด่าเลอะไปนานแล้ว  เดี๋ยวถ้าเจอจะตบซักที ไอ้นี่สารเลว ที่มันเคยทำนั้นไม่บังควรเป็นอย่างมาก!! ไม่ใช่กิจของสงฆ์ มารศาสนา!!!”"
    ส่วน "ดี้" นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Nitipong Honark ว่า กรณีคลิปการเข้าบุกจับกุมพุทธะอิสระ ด้วยท่าทีเข้มแข็ง หนักหน่วง บึกบึนของตำรวจ...
    ฉันอยากทำโพล...ให้แม่ประไพพ่อทิดเอิบเดาใจผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ...เดาว่า...ผบ.ตร. คิดในใจว่าอย่างไร...(ไม่ว่าจะถูกหรือไม่)
    1.นี่แหละ...ถูกต้องแล้วไอ้น้อง ทำแบบนี้เหมาะสม พี่ภูมิใจ
    2.พวกมึงหาเรื่องให้กูอีกแล้ว...กูต้องตอบคำถามนักข่าวนะ
    ส่วนนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า "แม้จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการจู่โจมของตำรวจ แต่ผมก็ไม่เคยชื่นชมจนเรียกว่า "ท่านพุทธะอิสระ" มันก็แค่ "คนในผ้าเหลือง" เท่านั้น"
    ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร ออกมาขอโทษต่อสังคมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความผูกพัน รวมทั้งความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ทำให้สังคมตั้งข้อกังขาเรื่องความสัมพันธ์ที่บ่งชี้ว่ามีความสนิทกัน
    "การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ถูกกล่าวหานั้น เป็นไปตามกระบวนการปกติ ไม่ได้กระทำการอะไรที่เกินเลย เพราะผู้ถูกกล่าวหาถูกสงสัยว่ามีคนคุ้มกันพร้อมกับอาวุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าไปด้วยอาวุธครบมือ เชื่อว่าหากส่งตำรวจเข้าไปเพียงไม่กี่นาย พร้อมกับหมายศาล อาจจะจับกุมพุทธะอิสระไม่ได้ก็เป็นได้ และหากเทียบเคียงกับกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง ถือว่าหลายคนถูกจับด้วยวิธีการหนักกว่านี้ ทั้งถูกมัดมือ มัดเท้า ไม่เห็นว่าจะมีใครออกมาโวยวายหรือขอโทษบ้างเลย" นายก่อแก้วกล่าว
    นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามหน้าที่ วิธีการเข้าจับกุมก็ถูกฝึกมาแบบนั้น ตอนตำรวจเข้าจับกุมพระอีกฝ่ายก็ทำแบบนี้ แม้แต่กับกลุ่มคนเสื้อแดงก็ถูกกระทำทั้งจากตำรวจและทหารหนักกว่านี้อีก ทั้งบุกเข้าค้นบ้าน โดนจับมือไพล่หลัง ดังนั้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาขอโทษและปรามเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบนี้ อาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานน้อยใจได้ และหาก พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติกับทุกกลุ่มเท่าเทียมกัน แล้วกลุ่มอื่นๆ ที่ถูกกระทำเหมือนกัน พล.อ.ประยุทธ์จะว่าอย่างไร 
    "ไม่ว่าจะยากดีมีจนหรือชนชั้นสูงต่างก็เสียภาษี จ่ายเงินเดือนให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เหมือนๆ กัน ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ออกมาขอโทษแต่กับคนที่ตัวเองเคารพเพียงฝ่ายเดียว" นายวรชัยกล่าว.