‘จัสติน’ติดเชื้อศาล-คุกวุ่น


เพิ่มเพื่อน    

 

วุ่นทั้งคุกทั้งศาล "นุ๊ก-จัสติน" ผู้ต้องหา ม.112 ติดโควิด กักตัวกันถ้วนหน้า 14 วัน ทั้งผู้พิพากษา จนท. ผู้ต้องหา รอผลตรวจ "ไผ่ ดาวดิน" ส่วน "จัสติน" ราชทัณฑ์เผยย้ายเข้า รพ.แล้ว  พร้อมสั่งกักตัว-ตรวจเชื้อในเรือนจำอีก 35 คนเพราะเสี่ยงสัมผัส

    จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ นุ๊ก-จัสติน ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตาม ป.อาญา ม.112 ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ ซึ่งนายชูเกียรตินอนห้องเดียวกับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์นั้น
    เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2564 ศาลอาญาได้เบิกตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายจตุภัทร์ สองแกนนำกลุ่มราษฎร มายังห้องพิจารณาคดี 912 เพื่อไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและอนุญาตให้ประกันตัวในวันดังกล่าว เบื้องต้นภายหลังได้รับการประสานงานจากราชทัณฑ์และทนายความถึงข่าวดังกล่าว ทางศาลอาญาได้มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว โดยหลังการใช้ห้องพิจารณาเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ก็ได้ทำความสะอาดแล้ว
    แต่เมื่อได้รับรายงานว่ามีผู้เสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อโดยตรงมาขึ้นศาลที่บัลลังก์ดังกล่าว ในส่วนของศาลอาญาก็ได้มีการประสานให้ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ ตำรวจศาล และคนที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในห้องพิจารณาดังกล่าวทำการกักตัวเองไว้ เพื่อรอผลตรวจของนายจตุภัทร์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาห้องพิจารณาคดีดังกล่าว
    นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ส่งตัวนายชูเกียรติไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อรับการรักษาตัวแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. ทั้งนี้ ได้ให้ทางทีมแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตรวจสอบผลโดยละเอียดเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
    ส่วนห้องที่ใกล้ชิด?กับนายชูเกียรติ? ก็จะทำการตรวจโควิดให้หมดทุกคน? และกักตัวตามมาตรการ?ป้องกันโควิด-19 เบื้องต้นมีประมาณ 9 คน และหลังจากนี้จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุที่มาของการติดเชื้อโควิด-19 ว่ามาจากแดนกักโรคหรือที่ใด เพราะก่อนหน้านี้นายชูเกียรติอยู่ในแดนกักโรค และได้ไปรับการผ่า?ตัดเอาฝีออกมา
    ขณะที่นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า นายชูเกียรติซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และอยู่ในระหว่างแยกกักโรค เป็นระยะเวลา 14 วันหลังกลับจากศาล ได้มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จริงตามที่เป็นข่าว โดยเมื่อวันที่ 23 เม.ย. เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากบริเวณหลังโพรงจมูกของนายชูเกียรติไปตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นบวก  พบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ภายในวันเดียวกัน
    โฆษกกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า จากการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ของนายชูเกียรติ ทำให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต้องแยกกักตัวเจ้าหน้าที่ 9 ราย และผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงในห้องแยกกักโรคและสถานพยาบาลเรือนจำฯ จำนวน 26 ราย พร้อมดำเนินการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากบริเวณหลังโพรงจมูกเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจเชื้อ ซึ่งในระหว่างนี้ทางเรือนจำได้มีการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำขึ้น เพื่อรองรับการรักษาผู้ต้องขังที่มีการติดเชื้อแต่ไม่มีอาการหรือมีอาการป่วยเล็กน้อย
    "กรมราชทัณฑ์ยังคงเน้นย้ำและเพิ่มมาตรการคัดกรอง ป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด จึงขอให้พี่น้องประชาชนและญาติผู้ต้องขังมั่นใจในการควบคุมดูแล อย่าได้วิตกกังวล กรมราชทัณฑ์พร้อมรายงานสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่องต่อไป" นายธวัชชัยกล่าว
    นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ศาลอาญาได้รับการประสานงานจากราชทัณฑ์และทนายความจำเลยถึงกรณีข่าวดังกล่าวแล้ว ในเบื้องต้นศาลอาญาได้ประสานให้ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ ตำรวจศาลซึ่งประจำอยู่ที่ศาลอาญาที่เกี่ยวข้องในคดีซึ่งอยู่ในห้องพิจารณาดังกล่าวในช่วงเวลาไต่สวนคำร้องเมื่อวานนี้ เพื่อแจ้งข้อมูลและให้งดการเดินทางเพื่อสังเกตอาการทำตามที่สาธารณสุขให้คำแนะนำ โดยกลุ่มบุคลากรเหล่านี้ถือว่าความเสี่ยงอยู่ในระดับไม่สูง เหตุที่งดการเดินทางหรือกักตัวเองก่อนก็เพื่อรอผลการตรวจหาเชื้อของนายจตุภัทร์เสียก่อน เนื่องจากตามที่มีการรายงานข่าวแจ้งว่านายจตุภัทร์มีความใกล้ชิดกับผู้ที่ถูกระบุว่าตรวจพบเชื้อโควิด และศาลอาญาได้รับแจ้งจากทนายความของนายจตุภัทร์ว่าวันนี้นายจตุภัทร์ได้ไปตรวจหาเชื้อแล้ว จะทราบผลวันพรุ่งนี้
    โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวตอนท้ายว่า สำหรับมาตรการป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ของศาลอาญานั้น ศาลอาญาดำเนินการคัดกรองผู้ที่เข้ามาในบริเวณศาลอย่างเคร่งครัดตลอดมา อีกทั้งยังประสานสำนักการแพทย์ สำนักงานศาลยุติธรรม ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในห้องพิจารณาคดีทุกห้องเป็นประจำทุกวันศุกร์หลังการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น นอกจากนี้ บุคลากรศาลอาญาจำนวน 350 คน ได้ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าผลเป็นลบทุกคน
    ส่วนเฟซบุ๊กเพจ "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration" ที่มีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เป็นแกนนำจัดการชุมนุม โพสต์ข้อความโจมตีกรมราชทัณฑ์ว่า หลายครั้งมาตรการกันโควิดถูกนำมาอ้างไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยม ไม่ให้ทนายเข้าไปปรึกษาคดี จากเหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงมาตรการที่ตอแหล นำเอาสถานการณ์ไวรัสระบาดมาเป็นข้ออ้าง  การขังโดยไม่ให้ประกันระหว่างพิจารณาคดีเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่เหล่าผู้ถูกกล่าวหาถูกลิดรอนอิสรภาพ ซ้ำร้ายพวกเขายังเจอคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ เสี่ยงโรคเสี่ยงภัย เราขอเรียกร้องให้ตุลาการมีกระดูกสันหลังบ้าง มีความเป็นคนบ้าง.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"