หวาดเสียวเพราะโควิดยกสุดท้าย


เพิ่มเพื่อน    

 

ภาพลัคนาเมือง (และโลก) รับมือโควิด-19 ระลอกที่สาม-และคาดหมายการแปรเป็นสถานการณ์ปกติ

                แม้ในบทความแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 371 ผู้เขียนจะคาดหมายถึงสถานการณ์การรับมือโรคระบาดโควิด-19 รอบที่สามจากสถานบันเทิงเอฟเฟ็กต์ว่า ระหว่าง 14 เมษายน-8 พฤษภาคม 2564 ตัวเลขจะหวาดเสียว แต่ผลปรากฏว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติรายวันสูงกว่าการรับมือสองรอบใหญ่ที่ผ่านมา หวาดเสียวมากกว่าที่คิด

            บทความและภาพของแม่หมอสมัครเล่นตอนนี้จึงขออธิบาย เพิ่มเติม ถึงปรากฏการณ์ทางโหรที่ บ่งบอกความแรงของโควิด-19 ที่เป็นอยู่ และ คาดหมายถึงการจะแปรเป็นโรคปกติ ดังนี้

            A1. เริ่มตั้งแต่ 6 มีนาคม 2559 มฤตยูจร (0) เจ้าของภัยอาเพศ+การปฏิวัติใหญ่+โรคระบาดใหญ่เข้ามาเดินในราศีเมษ ทับลัคนาดวงเมือง (และโลก) เป็นสื่อล่อเป้ารอดาวร้ายมาผสมโรง ให้เกิดโรคระบาดใหญ่

            ถ้ายังจำกันได้ วันที่ 6 มีนาคม 2559 เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร หรือปัจจุบันคือ “สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี” หรือ “สมเด็จธงชัย” “เจ้าคณะใหญ่หนกลาง” เคยพาสวดเจริญพระพุทธมนต์สร้างขวัญ-กำลังใจมาแล้ว-เพียงแต่คงละลืมกัน

            และแล้วผ่านไปตั้งนาน ครั้นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 จีนก็พบผู้ป่วยโควิด-19 หมายเลข 1 ที่อู่ฮั่น

            แล้วโรคนี้เข้าไทยครั้งแรกจากนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 เมืองต้องสู้ยก-ระลอกแรก เกิดความแตกตื่น-วุ่นวาย-ล็อกดาวน์ทั้งประเทศแต่รับมือได้ดีจนได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลก (ทางโหรคือพฤหัสบดีจร (5) หัวหน้าเทวดาประจำเมืองกำลังอยู่ในระหว่างเข้มแข็ง เป็นฐานสำคัญสำหรับรับมือ)

            แต่เป็นเพราะ มฤตยูจร (0) ยังเดินอยู่ในราศีเมษ ที่ ลัคนาเมือง (และโลก) ตั้งอยู่ จึงเป็นสื่อรอให้โรคเกิดได้เป็นระยะๆ ตัวเลขติดเชื้อขึ้นๆ ลงๆ แบบสามวันดี สี่วันไข้

            A2. เกณฑ์ร้าย (กว่ารอบแรก) ผสมโรงรอเกิดอีกหนึ่งเกณฑ์เพื่อรอดาวอื่นมาช่วยกันบีบเมือง เริ่ม 10 กันยายน 2563 เป็นต้นไป-29 มีนาคม 2565 (ราหูจร 8 ที่เดินตามเข็มนาฬิกาสวนกับดาวอื่นเข้าราศีพฤษภ ค้นทรัพย์ดวงเมือง-รอดาวดวงอื่นที่เดินทวนเข็มนาฬิกามาบีบลัคนาเมืองที่ราศีมีน)

            ผลจากที่เกณฑ์ร้าย A2.นี้เข้ามาผสมโรง (กับมฤตยูจร 0) ทำให้การระบาด-ยก-ระลอกที่สองจากตลาดกลางกุ้ง+บ่อนการพนันภาคตะวันออกหนักกว่าระลอกแรก

            แต่แม้จะสาหัสขึ้น เคยติดเชื้อสูงสุดเมื่อ 26 มกราคม 2564 ที่ 959 คนก็ตาม เมืองก็ค่อยๆ ผ่านมาได้ทุกองศาที่เกณฑ์ร้ายเคลื่อนไป

            A3. เกณฑ์ระลอกสามเริ่ม 14 เมษายน 2564 เป็นผลร้ายจากความบันเทิงเกินเหตุส่งต่อจากย่านทองหล่อไปทั่วประเทศ (พระอาทิตย์จร 1 ร่วมกับพระราหูจร 8 ช่วยกันบีบลัคนาเมือง)

            A4. ระลอกสามเกิดเกณฑ์-ร้ายมาก-กว่าระลอกแรกและระลอกสอง (เป็นเพราะรอบนี้เกิดขณะมฤตยูจร 0 ที่เดินทวนเข็มนาฬิกาอยู่ในราศีเมษ อ้อยอิ่งล่อเป้ามานาน เข้าประชิดองศาใกล้ลัคนาเมืองที่ตั้งอยู่ในราศีเมษประมาณ 24 องศา 10 ลิปดาทุกขณะ คือ นอกจากจะช่วย พระราหูจร 8 บีบ-แล้วมฤตยูเองก็กดทับลัคนาเมือง เพิ่มเกณฑ์ร้ายขึ้นอีกหนึ่งเท่า)

            ผลคือ ขณะปิดต้นฉบับนี้ 23 เมษายน 2564 ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันทำสถิติสูงสุดทะลุเกิน 2 พันคนขึ้นไปแล้ว เป็นที่หวาดเสียวจริงๆ ต้องสร้าง โรงพยาบาลสนาม และ หาวัคซีนเพิ่มจ้าละหวั่น แถมคนดัง-ดารา-คนสำคัญติดเชื้อกันเพียบ สร้างความระทึกใจไปทั่ว โดยสถานการณ์จะบีบคั้นเมืองไปอีกระยะหนึ่ง

            ฐานการสู้ยกที่สาม ระหว่าง 29 มีนาคม-17 มิถุนายน 2564 ระบบและบุคลากรทางสาธารณสุขของเมืองยังเข้มแข็งพอจะพารอดได้-มีเพื่อนช่วย เช่น ได้ซื้อวัคซีนจากรัสเซีย ฯลฯ (พฤหัสบดีจร 5 เดินอยู่ในราศีกุมภ์ภพสิบเอ็ดของเมือง-เหมือนพิเภก ไม่ว่าจะเจอหนักแค่ไหนก็รอดจากศึกมหาบาล เพราะหนุมานดั้นเมฆมาช่วย) เพื่อยันสถานการณ์ไว้พอให้เกณฑ์จากดาวร้ายค่อยๆ เคลื่อนไป คือ

            B1. ระลอกสามเริ่มคลี่คลายขั้นแรก จะเริ่มเห็นตั้งแต่ประมาณ 8 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป-เหมือนที่เคยทำนายไว้ในแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 371 (พระอาทิตย์จร 1 ยุติการร่วมกับราหูจร 8 บีบลัคนาเมืองทางองศา)

            B2. คลี่คลายสองเริ่มประมาณ 15 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป (พระอาทิตย์จร 1 ย้ายเข้าราศีพฤษภ หยุดการช่วยพระราหูจร 8 บีบลัคนาเมืองทางราศี)

            B3. คลี่คลายขั้นสาม ความร้ายแรงสุดๆ ค่อยๆ จาง เริ่มประมาณ 25 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป (มฤตยูจร 0 เดินอยู่ในราศีเมษประมาณ 24 องศา 12 ลิปดา หยุดร่วมพระราหูจร 8 บีบ+กดลัคนาเมืองทางองศา)

            แต่ถึงอย่างไรบรรยากาศของโรคยังอ้อยอิ่งล่อเป้ารอเกณฑ์ร้ายผสมโรงเกิดใหม่พอให้ได้รับมือ-ปรับแผนไปเรื่อย (มฤตยูจร 0 ยังเดินอยู่ในราศีเมษ) เพียงแต่ความรุนแรงจะไม่เท่ารอบที่สามที่จะหนักที่สุดสำหรับโรคระบาดนี้ อีกทั้งเมืองจะสามารถรับมือข้ามปีไปได้ดี

            B4. เริ่มตั้งแต่ประมาณ 8 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป วาระเมืองและโลกลาจากมฤตยูจร คือ การปฏิวัติใหญ่+ภัยอาเพศ รวมทั้งจากโควิด-19 ที่เป็นมา 7 ปี (มฤตยูจร 0 ย้ายจากราศีเมษเข้าไปเดินในราศีพฤษภ)

            จึงคาดว่าหลังจากสู้ไปจนถึงบัดนั้น โควิด-19 จะกลายเป็น-โรคสามัญประจำโลก-ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และยา รวมทั้งวัคซีน

            แต่แม้มฤตยูจร (0) จะย้ายจากเมษไปแล้ว เมืองและโลกก็จะมีปรากฏการณ์ปฏิวัติเรื่องใหม่-โรคใหม่ท้าทายอยู่เรื่อย เอาไว้ใกล้ๆ จะได้บอกเค้าโครงให้ทราบต่อไปเพื่อเป็นคู่มือให้ใช้ไปอีก 7 ปี.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"