ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยคาดว่าในปี 2568 ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ขณะนี้ที่มีการประเมินว่ามีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นปีละ 5แสน ทำให้ในแวดวงธุรกิจด้านสุขภาพ ไม่ว่าโรงพยาบาล รัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชน มีความเคลื่อนไหวหันมาริเริ่มธุรกิจสถานพักฟื้น หรือบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุกันอย่างคึกคัก และที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ก็คือ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งทำโครงการ"Jin Wellbeing Country "ภายใต้คอนเซ็ปต์" เมืองแนวคิดใหม่เพื่อคนวัยเกษียณ"ซึ่งจะมีทั้งบริการทางการแพทย์ครบวงจรผนวกกับที่พักอาศัย ที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยตรง บนเนื้อที่กว่า 140ไร่ ย่านรังสิต
นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) THGกล่าวว่า โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ มีจำนวน 1,380 ยูนิต ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสร้าง อาคารที่พักอาศัย สูง 7 ชั้น ซึ่งเฟสแรกเริ่มก่อสร้างก่อน 5 อาคาร จำนวน 494 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ส่วนพื้นที่แต่ละยูนิตจะมีขนาด 43 ตรม.และ 63 ตรม. ให้เลือก โดยขณะนี้มียอดจองและผ่อนเงินดาวแล้ว 120 ยูนิต ทั้งนี้อาคารทั้ง 5หลังจะแล้วเสร็จเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ในโครงการยังมี Aged Care Center รองรับการบริการผู้สูงอายุที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดจากบุคคลากรทางการแพทย์อีกด้วย รวมทั้งมีโรงพยาบาลขนาดประมาณ 50 เตียงอยู่ในพื้นที่โครงการเดียวกันอีกด้วย
การได้รับความสนใจ สามารถทำยอดขายพักคนวัยเกษียณแล้ว และคนกำลังจะเกษียณได้ถึง 120 ยูนิตจากการเปิดตัวเฟสแรก 494ยูนิต เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ถือว่าไม่น้อย นพ.ธนาธิป บอกว่า ผู้ที่มาจองโครงการ แบ่งเป็นพวกอายุ 50 อัพ ประมาณ 30%และสูงกว่า 60 ปี ประมาณ 50% ส่วนใหญ่เป็นพวกทำงานบริษัท ธุรกิจเอกชน เป็นพวกไวท์คอลาร์ มีทั้งกลุ่มการเงินและธุรกิจอื่นๆ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ หรือ Board Consult ข้าราชการ มีทั้งคนโสด และแต่งงานแล้วอย่างละครึ่งๆ
"ถามว่าทำไมคนโสด ถึงมาซื้อโครงการ ก็เพราะการเป็นสังคมผู้สูงอายุจะมีลักษณะเฉพาะ เช่น ผู้สูงอายุจะไม่สะดวกในการไปทัวร์เที่ยวโน่นนี่ กับคนรุ่นหนุ่มสาว หรือถ้าไปก็ต้องมีลูกหลานไปด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นทัวร์ผู้สูงอายุของฝรั่ง หรือญี่ปุ่น ที่มาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งต่อไปผมเชื่อว่าเมืองไทยต้องมีทัวร์แบบนี้เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังเชื่ออีกว่าจะต้องมีสินค้าที่เป็น ซัพพลาย เชนส์ เพื่อผู้สูงอายุอย่างครบวงจรที่จะตามมาอีกด้วย สำหรับทัวร์ผู้สูงอายุ หากอยู่คนละที่จะรวมตัวกันยาก แต่ถ้ากคนกลุ่มนี้ที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน มาอยู่ในบ้านพักสถานที่เดียวกัน การรวมตัวไปเที่ยวแบบผู้สูงอายุก็จะง่ายขึ้น เพียงเดินไปเคาะห้อง นัดแนะกัน ก็ทำได้แล้ว"
แล้วในกลุ่มคนที่มีครอบครัวและมีลูกหลานล่ะ ทำไมถึงเข้ามาเป็นสมาชิกโครงการบ้านพักผู้สูงอายุ นพ.ธนาธิป ให้เหคุผลว่า ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี พวกนี้จะเป็นคนรุ่น Baby Boom หรือคนรุ่นพ่อแม่มีลูกมาก คนรุ่นนี้จะเคยผ่านความยากลำบากในชีวิตมาก่อน บางคนเคยปากกัดตีนถีบ เคยจุดเทียนอ่านหนังสือ ช่วยพ่อแม่ทำงานก่อนไปโรงเรียน มาถึงวันนี้ฐานะมั่นคงแล้ว ลูกเรียนจบ แต่งงานแต่งการไปเรียบร้อย ซึ่งคนกลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มที่คิดว่า สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่อยากคิดพึ่งพาใคร และมีเงินทองพอที่จะใช้ดูแลตัวเองได้ จึงตัดสินใจที่มาอยู่บ้านพักแบบโครงการเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน
"คนรุ่นเบบี้ บูม จะเป็นพวกเก็บออมเงิน เพราะเคยผ่านความลำบากมาก่อน ส่วนคนรุ่นเจน วาย เริ่มสบายขึ้น แต่ก็ยังพอมีเงินออม แต่ที่น่าห่วงคือคนรุ่น เจน เอ็กซ์ หรือเด็กรุ่นปัจจุบัน พวกนี้ผมมองว่า จะก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต เพราะเป็นพวกไม่มีเงินออม ใช้เงินเพื่อความสุข ใช้ชีวิตชิลล์ ๆ ไม่มีเงินเหลือเก็บและอาจจะเป็นหนี้เป็นสินเยอะ "
การหันมาเปิดธุรกิจบ้านพักอาศัยผู้สูงอายุนับว่าเป็นการปรับตัวเชิงธุรกิจ ซึ่งบริษัท ธนบุรีเฮลท์แคร์ กรุ๊ปฯ ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลมา 40ปี มีโรงพยาบาลในเครือได้แก่ รพ.ธนบุรี 1และธนบุรี 2 รพ.ราษฎร์ยินดีหาดใหญ่ รพ.อุบลรัตน์ ธนบุรี ที่จ.อุบลราขธานี รพ.สิริเวช ที่จ จันทบุรี และยังเปิดรพ.ในต่างประเทศ คือ Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน ขนาด 150 เตียง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 สามารถรองรับคนไข้ 200 คน/ วัน และ 70 เตียง และรพ. Ar Yu International ในเมืองย่างกุ้ง เมียนมา เป็นรพ.อินเตอร์แห่งแรกของพม่า เปิดบริการในเดือนกรกฎาคมปปีนี้ ขนาด 200 เตียง และยังมีมีศูนย์โรคหัวใจ ไตเทียมอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังทำธุรกิจฟื้นฟูผู้ป่วย รับจ้างเหมาบริการทางการแพทย์ และให้ความสำคัญกับการบริการในรูปศูนย์แพทย์เฉพาะทางต่าง รวมทั้งยังขยายตัวไปทำธุรกิจจำหน่ายเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ การให้บริการด้านพัฒนาซอฟแวร์ เพื่อการบริหารโรงพยาบาล การเปิดศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วย บำรุงเมืองเฟสแรก , ศูนย์ผู้มีบุตรยาก , ทันตกรรม เช็คอัพ ศูนย์สุขภาพ เปิดให้บริการในเดือนตุลาคมปีนี้ เรียกว่าเป็นซัพพลายส์ เชนในกลุ่มบริการทางการแพทย์ที่ค่อนข้างจะครบวงจร
"คาดหลังดำเนินการ 7-8 ปี เราจะถึงจุดคุ้มทุน จากการลงทุนโครงการนี้ 3,500 ล้านบาท ซึ่งเราตั้งเป้าการเติบโตธุรกิจโรงพยาบาลปีนี้ เบื้องต้น 10 % จากปีก่อนที่มีรายได้ธุรกิจเฮลท์แคร์ 6,171 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้หลักส่วนใหญ่ 93 % ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลือ 7 % เป็นรายได้บริการและที่ปรึกษา โดยโรงพยาบาลธนบุรี 1 สร้างรายได้อันดับ 1 จากโรงพยาบาลทั้งหมด ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารรักษาพยาบาลและที่จอดรถเพิ่มเติม โดยใช้เงินจากการระดมทุนที่ได้มา"นพ.ธนาธิป กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |