ทุบทิ้งรูปปั้นหัวขาด จ่อฟันอำพรางศพ!


เพิ่มเพื่อน    

 ตร.พบเครื่องประหารกิโยตินที่วัดแห่งหนึ่ง จ.อุดรฯ เร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 13 ปาก ก่อนดำเนินคดีร่วมเคลื่อนย้ายอำพรางศพพระบั่นคอตัวเอง โทษหนักจำคุก 4 ปี ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภูลั่นต้องทุบทิ้ง "รูปปั้นหัวขาด" หวั่นเลียนแบบ วอนทุกฝ่ายที่ปฏิบัติธรรมให้ใช้สติ รมน.หนองบัวลำภู เตรียมรื้อรูปปั้นออกจากพื้นที่ ห้ามก่อสร้างสิ่งเพิ่มเติม

        เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่บริเวณที่พักสงฆ์ภูหินกอง บนเทือกเขาภูพาน ต.หนองบัว อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ยังคงมีประชาชนเดินทางเข้ามาภายในวัด เนื่องจากข่าวสะเทือนใจประชาชน กรณีอดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม หรือ นายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง ฆ่าตัวตายโดยการก้มให้ใบมีดบั่นคอตัวเองออกจากร่างตามความเชื่อว่าเป็นการถวายเป็นพุทธบูชาจะได้ตรัสรู้เป็นปัฐเจกพุทธเจ้าในภพชาติต่อไป
         พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ทางคดีเริ่มมีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น ยืนยันตำรวจจะไม่ทำงานตามความเชื่อที่ว่าตัดหัวถวายพระพุทธเจ้า แต่ตำรวจจะทำหน้าที่ตามกฎหมาย เมื่อมีการตายผิดธรรมชาติก็จำเป็นที่จะต้องสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้ไปพบเครื่องประหารกิโยตินแล้วภายในวัดแห่งหนึ่งที่ จ.อุดรธานี แต่ยังไม่มีใครออกมายอมรับว่า ใครเป็นคนที่นำเครื่องตัดศีรษะนี้เข้ามาทิ้งเอาไว้แน่ การดำเนินคดีจึงต้องแยกออกเป็น 3 ส่วน ที่ต้องหาตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน
         "ไม่ว่าจะเป็น 1.เรื่องของศพ ทั้งก่อนที่จะเป็นศพและหลัง ว่าในช่วงเกิดเหตุนั้นมีใครบ้าง 2.ที่เกิดเหตุ จะต้องรู้ในเรื่องว่าใครอยู่ในที่เกิดเหตุ และ 3.ใครเป็นคนร่วมจัดหาอุปกรณ์ และรวมไปถึงการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ ที่ต้องครอบคลุมตามหลักกฎหมาย ป.วิอาญา ที่ไปเกี่ยวข้องกับการตาย ที่กฎหมายวางหลักไว้ว่า ผู้ใดกระทำการใดแก่ศพและสภาพแวดล้อมก่อนชันสูตร ทำการเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนแปลงสภาพที่เกิดเหตุ ทำให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี ปรับตั้งแต่ 1 หมื่น ถึง 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าเป็นการกระทำโดยทุจริต เพื่ออำพรางคดีต้องระวางโทษขึ้น 2 เท่า"
           ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำพยานภายในวัดไว้แล้วจำนวน 13 ปาก มีลูกศิษย์ แม่ชี ญาติโยม และญาติคนตาย ที่ให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก ที่บางส่วนก็เริ่มที่จะเข้าใจแล้วว่ามีใครเกี่ยวพันบ้างก็ขอเวลาในการดำเนินการและคาดว่าเมื่อชัดแจ้ง พนักงานสอบสวนก็จะเชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหา หรือหากไม่มาก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป
         ด้าน นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญของประชาชนภายในจังหวัด รวมไปถึงคนไทยที่นับถือพุทธศาสนา การคลี่คลายปัญหาแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.เมื่อมีปัญหาและหลายคนมองว่าเป็นเรื่องของลัทธิความเชื่อ เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายนั้นในช่วงที่บวชเป็นพระ ก็ไม่ได้พูดคุยกับญาติโยมในเรื่องนี้อย่างใด แต่จะไปพูดคุยกับคนสนิทเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ เนื่องจากยังมีรูปปั้น ที่ดูแล้วอาจจะทำให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบได้ จึงได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองนำผ้าไปคลุมเอาไว้เพื่อรอการทุบทำลาย ส่วนรูปปั้นจะต้องมีการรื้อและทุบทำลายอย่างแน่นอน กรณีที่ 2.ทางตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู กำลังดำเนินการสืบสวนและสอบสวนเอาไว้แล้ว ที่จะต้องติดตามเอาเครื่องมือกิโยตินเอามาให้ได้
           "รูปปั้นที่เห็นนี้จะต้องทุบทำลายทิ้งแน่นอนในสัปดาห์นี้ เพราะในขณะนี้ทราบจาก ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เข้าไปกราบเรียนเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภูฝ่ายธรรมยุต ก็อนุญาตให้ทุบทำลายทิ้งได้ ก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกฝ่ายที่ปฏิบัติธรรมให้ใช้สติ" นางศิวพรกล่าว
    ส่วน นางจิราภรณ์ บุญโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนา จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า สำนักพุทธศาสนาไม่มีอำนาจที่จะไปทำลายหรือรื้อวัตถุใดๆ เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงที่พักสงฆ์ ไม่ได้เป็นสำนักสงฆ์ หรือวัดเขตพื้นที่ดังกล่าวก็เป็นของทหาร น่าจะเป็นอำนาจหน้าที่ของทหารและเจ้าคณะจังหวัดที่จะพูดคุยกันว่าเห็นสมควรจะทำอย่างไรบ้าง
    วันเดียวกัน พ.อ.พุทธิวัฒน์ สิริพงศ์พล รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วยนายประยูร อรัญรุท นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู นำกำลังเจ้าหน้าที่ อส. นำผ้าขาวไปห่มปิดบังรูปปั้นที่มีลักษณะตัดหัว ที่พักสงฆ์ภูหินกอง เพื่อรอการขนย้าย หรือรื้อถอนออกจากพื้นที่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทางทหาร ทางจังหวัดหนองบัวลำภูจึงขอส่งพื้นที่ดังกล่าวให้กับทางกองทับบกพิจารณาดำเนินการ โดยได้หารือกับทางสำนักพุทธกับพระผู้ใหญ่ในพื้นที่เห็นชอบร่วมกันว่าให้เอารูปปั้นออกนอกพื้นที่ห้ามก่อสร้างสิ่งเพิ่มเติมที่มีอยู่นี้ ส่วนที่เหลือก็ให้คงไว้ก่อน ในระยะยาวจะดำเนินการอย่างไรต้องรอทางกองทัพบกแล้วแต่เห็นสมควร.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"