'ธปท.' อัด3.5 แสนล้านบาท ช่วยธุรกิจฝ่าโควิด


เพิ่มเพื่อน    

 

21 เมษายน 2564 นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า พระราชกำหนดกการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก. ฟื้นฟูฯ) วงเงินรวม 3.5 แสนล้านบาท ประกอบด้วย2มาตรการช่วยเหลือ ได้แก่ 1. มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท และ2. มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ (โครงการพักทรัพย์ พักหนี้) วงเงิน 1 แสนล้านบาทได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่10 เม.ย. 2564 ถือเป็นมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ มาตรากรดังกล่าวได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทำให้การออกแบบมาตรการในการให้ความช่วยเหลือในรอบนี้มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับความไม่แน่นอนได้ และครอบคลุมการแก้ปัญหาที่หลากหาย รวมถึงยังตอบโจทย์ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่มทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงเป็นการช่วยเหลือฟื้นฟูภาคธุรกิจ ทั้งผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายใหญ่ ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 

“ธปท. มองว่ามาตรการที่ออกมาไม่ใช่ยาขนานวิเศษที่จะแก้ปัญหาที่เกิดจากโควิด-19 ได้ทั้งหมด ดังนั้นการทำมาตรการจึงจำเป็นต้องร่วมกันในหลายส่วน ซึ่งที่ผ่านมามีการหารือพูดคุยกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้มาตรการที่ออกมาในครั้งนี้มีความยืดหยุ่น เพื่อรองรับความไม่แน่นอน ครอบคลุมการแก้ปัญหาที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นหากวงเงินในมาตรการใดเหลือก็สามารถเอาไปปรับเปลี่ยนกับวงเงินในอีกมาตรการได้ แต่เมื่อรวมแล้วต้องไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท” นางสาวสุวรรณี กล่าว

นางสาวสุวรรณี กล่าวอีกว่า สถาบันการเงินสามารถยื่นคำขอกู้เงินจาก ธปท. ตามมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อฟื้นฟู และโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.2564 เป็นต้นไปโดย ธปท. ไม่ได้คาดหวังว่าเม็ดเงินจากมาตรการทั้งหมดจะออกไปอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นจึงได้มีการออกแบบรนะยะเวลาของมาตรการไว้ค่อนข้างยาว คือ 2 ปี ซึ่งเม็ดเงินจากมาตรการจะค่อย ๆ ทยอยออกตามความต้องการใช้เงินของผู้ประกอบธุรกิจ 

อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้จะยังไม่เปิดให้ยื่นกู้ แต่ ธปท.ได้กำชับไปยังสถาบันการเงินว่าหากมีลูกค้าติดต่อเข้ามา ให้รับคำขอของลูกค้าไว้ก่อน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าพอจะมีการตกลงเงื่อนไขกันบ้างแล้ว โดยเชื่อว่ามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมทั้ง 2 มาตรการนี้ จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยเม็ดเงินลงไปในลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงได้มากกว่า พ.ร.ก.ซอฟท์โลน เดิมได้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างการประเมินความเปราะบางของธุรกิจเอสเอ็มอีจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19ระลอกใหม่ที่กระจายไปในวงกว้างกว่ารอบที่ผ่านมา ส่วนผลกระทบจะมีมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องขอไปรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจนก่อน พร้อมมองว่า หากมีความจำเป็นต้องปรับหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นนั้น ธปท. ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ในชั้นของประกาศ ธปท.ได้เลย
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"