เร่งสอบที่ดินสำนักหลวงปู่องค์ดำ


เพิ่มเพื่อน    

 

ทสจ.บุรีรัมย์ส่ง จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าเข้าตรวจสอบที่ดินสำนักปฏิบัติธรรม “หลวงปู่องค์ดำ” ชี้ถ้าบุกรุกสร้างในที่ป่าสงวนฯ หรือไม่ได้ขอใช้พื้นที่ถูกต้องตามขั้นตอน เอาผิดตาม กม.แน่ เจ้าตัวล่องหน ด้านพระมหาไพรวัลย์ดึงสติอย่าหลงเชื่อมหาโจร ทำตัวเหนือโลก อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ เป็นเห็บหมัดเกาะศาสนา

    ความคืบหน้ากรณีที่ชายอ้างตัวเป็นหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล หรือหลวงปู่องค์ดำ ที่นุ่งห่มผ้าคล้ายจีวรเหมือนพระแต่เป็นสีดำ อยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมหินเพิง ตั้งอยู่บนบริเวณป่าท้ายหมู่บ้านเขาย้อยพัฒนา ม.16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งหลังจากมีหญิงสาวชาวจังหวัดชัยภูมิได้เข้าแจ้งความในพื้นที่ชัยภูมิว่า มารดาซึ่งมีอาชีพเป็นข้าราชการครูหนีมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว เกรงว่าแม่จะถูกหลอกเพราะเงินเดือนแม่เกือบ 1 แสนบาทไม่เหลือ ถึงขั้นสร้างสำนักไว้หลังบ้านที่ จ.ชัยภูมิ ด้วย จนนำไปสู่การตรวจสอบว่า หลวงปู่พุทธะ หรือหลวงปู่องค์ดำตามที่ลูกศิษย์หรือชาวบ้านที่ศรัทธาเรียก เชื่อมโยงกับลัทธิใดหรือมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่ และพื้นที่ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมหรือที่พักสงฆ์ดังกล่าวถูกต้องหรือไม่นั้น
    วันที่ 20 เม.ย. นายสุรชัย แสงศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.1 (ปะคำ) ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณสำนักปฏิบัติธรรมหรือที่พักสงฆ์ของหลวงปู่พุทธะ หรือหลวงปู่องค์ดำ ว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ เพราะจากข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของ ส.ป.ก. ดังนั้นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ประเภทใด แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจริง และไม่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่อย่างถูกต้องตามขั้นตอน ต้องแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายเพราะถือเป็นการบุกรุกป่าสงวนฯ ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่สร้างในบริเวณดังกล่าวโดยไม่ถูกต้อง ต้องทำการรื้อทำลายตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศสำนักปฏิบัติธรรมหลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาลเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่มีลูกศิษย์เข้ามากราบไหว้เหมือนปกติ ส่วนบุคคลที่อ้างตัวเป็นหลวงปู่พุทธะนั้นเข้าไปธุดงค์ในป่าตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 20 เม.ย. และยังไม่กลับออกมาที่สำนักสงฆ์แต่อย่างใด  
    ส่วนเพจเฟซบุ๊ก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระภิกษุชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเตือนว่า #โปรดระวังพวกมหาโจร จากปรากฏการณ์ที่มีผู้วิเศษผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดอย่างที่พวกโยมได้เห็นกันแล้ว อาตมาอยากจะเตือนและขอร้องให้ช่วยกันจับตาดูคนพวกนี้ด้วยนะ คนพวกนี้ไม่เพียงแต่ทำตัวเป็นพวกเหนือโลก อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ร้อยแปดพันเก้า (ที่ฮิตสุดคือรักษาโรคได้โดยไม่ต้องใช้ยา) แต่คนพวกนี้ยังมีลักษณะเป็นมหาโจรในพระศาสนาด้วย
    คนพวกนี้มักจะขโมยธรรม ขโมยความเลื่อมใสศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อพระพุทธเจ้า ต่อพระศาสนา หรือแม้แต่ต่อพระอริยสงฆ์อย่างหน้าด้านๆ บ้างอ้างเป็นองค์หลวงปู่เกจิกลับชาติมาเกิด บ้างอ้างว่าเป็นพระโพธิสัตว์ลงมาจุติเพื่อช่วยมนุษย์ บ้างอ้างว่าได้บรรลุธรรมสิ้นกิเลสแล้ว
    พระมหาไพรวัลย์ระบุอีกว่า อาตมาอยากให้ช่วยกันสังเกตนะ คนพวกนี้แรกเริ่มมักใช้ความเชื่อของพระพุทธศาสนาทำให้คนศรัทธาหรือหลงเข้าใจผิด เช่น ทำตัวเหมือนคนเคร่งครัดในการปฏิบัติ ใส่ชุดมอซอ นุ่งผ้าสีเข้ม กินแปลก ทำตัวแก่ ไม่ใส่รองเท้า มีท่าทางเป็นเอกลักษณ์ จีบมือจีบปาก จากนั้นชวนให้ชาวบ้านมาร่วมปฏิบัติธรรมถือศีลนุ่งขาวห่มขาวอยู่สำนักกับตนเอง
    คนพวกนี้แรกเริ่มจะพูดธรรมพูดวินัยที่พระพุทธเจ้าประกาศสั่งสอน แต่หลังจากนั้นเมื่อเริ่มมีคนหลงศรัทธาแล้ว คนพวกนี้จะประกาศว่าสิ่งที่ตนเองสอนเป็นธรรมะของตนเอง เป็นสิ่งที่ตนเองค้นพบ และตรัสรู้ใหม่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องถูกต้อง หรือแม้แต่ตรงตามหลักศีลธรรมอะไรหลังจากที่มีคนศรัทธาแล้ว คนพวกนี้จะเริ่มสร้างตำนาน พูดถึงเรื่องเล่าและปาฏิหาริย์ต่างๆ ของตนเอง (ถ้าไม่พูดเองก็ให้ศิษย์ใกล้ชิดเป็นคนพูด) สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ สามารถรักษาคนป่วยให้หายเป็นอัศจรรย์ อย่างนี้เป็นต้น
    คนพวกนี้ไม่เพียงขโมยธรรมในพระศาสนาเท่านั้น แต่ยังขโมยความเป็นศาสดาด้วย และอาตมาเห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ชาวพุทธอย่างพวกเราไม่ควรนิ่งดูดายนะ อย่าปล่อยมหาโจรพวกนี้เกาะพระศาสนาเหมือนเห็บหมัด และใช้พระศาสนาในการหลอกลวงผู้คนเพื่อสร้างลัทธิของตัวเอง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"