ช่วงหลังๆ นี้...น่าจะหนักหนา-สาหัสอยู่พอสมควร สำหรับรัฐบาลของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ แม้จะ อยู่ได้ หรือ อยู่ๆ กันไป อยู่รอดปลอดภัยอย่างชนิดไม่น่าจะมีใครสั่นคลอน โยกคลอน ให้ถึงขั้นต้องหงายท้องหลับกลางอากาศได้ง่ายๆ แต่ก็นั่นแหละ...โดยน้ำเสียง หางเสียง โดยความหงุดหงิด รำคาญ งุ่นๆ ง่านๆ ของแต่ละฝ่าย แต่ละราย มันชักจะเพิ่มขึ้นๆ เรื่อยๆ โดยแทบไม่เห็นแนวโน้มว่าจะหาทางลดทอน บรรเทาเบาบาง ได้มั่งเลย!!!
---------------------------------------------------------
คือแทบไม่ต้องพูดถึงพวก กองหนุน ที่อดีตรัฐบุรุษ ป๋าเปรม ของหมู่เฮา เคยทัก เคยติง เอาไว้ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อหลายปีที่แล้ว เพราะหลังๆ นี้...น่าจะแปรสภาพกลายไปเป็น กองหลอน แทบทั้งกรม ทั้งกอง เหลือติดอยู่แต่เฉพาะพวกที่มีหน้าที่โดยตรงในการ สูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ประเภทสิร้ง สิระ แรมบ้ง แรมบ้า ฯลฯ อะไรทำนองนั้น กับพวกที่ยังมองไม่เห็นทางออก ทางไป ว่าจะหาอะไรที่มันพอเหมาะสม สอดคล้อง ยิ่งไปกว่านี้ หรือพวกที่จำต้อง ทนทู่ซี้ กับ บิ๊กตู่ ต่อไปเรื่อยๆ เนื่องจากมันยังมองไม่เห็นใคร? หรือมองไม่เห็นถึง จังหวะ และ เวลา ที่จะแทนที่ความ ไม่เข้าท่า ด้วยความ เข้าท่า ความไม่ดี-ไม่งามด้วยความเพียบพร้อมสมบูรณ์ อันเป็นสิ่งที่หายาก-หาเย็น ซะยิ่งกว่าหา หนวดเต่า-เขากระต่าย ไม่รู้กี่สิบ-กี่ร้อยเท่า...
---------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่เลยต้องถือเป็น โชคดี ของ บิ๊กตู่ แบบชนิดที่แทบหาผู้นำรายหนึ่ง รายใด ที่จะโชคช่วย โชคดี บุญบังเอิญ บุญหล่นทับ ฯลฯ เท่านี้ย่อมไม่มีอีกแว้วว์ว์ว์ เพราะไม่ว่าใครก็ตาม...ที่คิดจะหักๆ โค่นๆ ผู้นำอย่าง บิ๊กตู่ ในช่วงนี้ คงต้องตอบคำถามกันอีกเยอะแยะ มากมาย ว่าใคร? หรืออะไร? ที่มีศักยภาพ มีประสิทธิภาพ พอที่จะทดแทน พอบรรเทาเบาบางสิ่งต่างๆ ที่มันระดมสาดซัดเข้าสู่บ้าน สู่เมือง อย่างชนิดแทบไม่เหลือช่วงจังหวะให้หายใจ หายคอ ได้เลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าเรื่องการ ป่วยตาย หรือ อดตาย ที่แทบหาทางออก-ทางไป กันไม่เจอในระดับทั่วทั้งโลกนั่นแหละ ไม่ใช่แต่เฉพาะไทยแลนด์แดนสยาม ของหมู่เฮา เท่านั้น เรื่องของการต่อสู้เพื่อเอาชนะ แนวคิด ของประดา คนรุ่นใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ใจเร็ว ใจร้อน เผลอๆ...อาจหนักไปทางใจบาป หยาบช้า ซะอีกล่วย ไปจนถึงเรื่องการบริหาร จัดการ กับระบบการเมือง-การปกครองแบบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะใน มาตรฐานแบบสากล หรือ มาตรฐานเฉพาะแบบไทยๆ ที่หนีไม่พ้นต้องอาศัยความร่วมมือ-ร่วมไม้ของบรรดา นักการเมือง อันเป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะพิเศษโดยเฉพาะ คือมีเกล็ด มีงา มีเขี้ยวยาวเฟื้อยเลื้อยลากดิน แถมบางรายยังมีปีกงอก และอาจพ่นไฟได้ด้วย ฯลฯ...
-----------------------------------------------------
อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง...ที่ไม่เพียงแต่ยังมองไม่เห็น ใคร? แต่ยังแทบไม่อาจกำหนด จังหวะ และ เวลา ที่สอดคล้อง และเหมาะสม ได้แบบชนิดหลับตาเห็นภาพได้ง่ายๆ เพราะไม่เพียงแต่ ปัญหา ที่มันยังคงกองสุม หรือระดมสาดซัดเข้ามาแบบเป็นระลอกๆ เท่านั้น แนวโน้มที่มันกำลังจะเกิด ปัญหาใหม่ๆ ที่รอคอย รอท่า ในอันที่จะระเบิดเถิดเทิงออกมา แบบชนิดยิ่งกว่าข้าวตอกแตก ยังมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนแทบหาจังหวะ เปลี่ยนม้ากลางลำธาร แทบไม่ได้!!! อันนี้นี่เอง...ที่ทำให้แม้ว่าจะหนักหนา-สาหัส แม้ว่าจะเซไป-เซมา บางครั้ง-บางคราถึงขั้น คายฟันยาง ปล่อยให้กรรมการนับไปถึง 8 ก็แล้ว แต่สุดท้าย...เราคงต้อง อยู่กับบิ๊กตู่ ไปอีกตราบนานเท่านาน อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้เลย...
-------------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...แม้ว่าจะด้วย โชค ด้วย บุญ ที่บังเอิญหล่นทับหัวแม่ตีนข้างซ้าย ชนิดชักขาหลบยังไงยังหลบไม่ค่อยจะทัน หรือจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที แต่คงต้องยอมรับเช่นกันว่า...การที่ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ออกจะเป็นตัวเปิดช่อง เปิดโอกาส ให้ บิ๊กตู่ สามารถอยู่ไปได้อีกตราบนานเท่านานนั้น มันก็อาจกลายเป็นตัวเพิ่มจำนวน ปริมาณ ตลอดไปจนถึง คุณภาพ ของสิ่งที่เรียกว่า เงื่อนไข หรือ เหตุปัจจัย อันจะนำมาซึ่ง ความเปลี่ยนแปลง ไปสู่ทิศไหน ทางไหน ก็ยังมิอาจสรุปได้ ให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นๆ หรือ ตกตะกอนนอนก้น จนอาจนำไปสู่ อันตราย ต่อสิ่งที่ไม่ใช่เพียงแต่แค่ รัฐบาล เท่านั้น แต่อาจเตลิดเปิดเปิง เข้ารก-เข้าพง ไปสู่สิ่งที่อยู่นอกเหนือไปกว่านั้น ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...
------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่เลยทำให้ต้อง คิด กันแบบ 2 ชั้น 3 ชั้น หรือเผลอๆ อาจถึงขั้น 8 ชั้น 10 ชั้น เอาเลยก็ไม่แน่!!! จะไปคิดแบบ หยาบๆ-ง่ายๆ อย่างพวก เด็กๆ หรือพวก เลียร์ตูดเด็ก ออกจะลำบากเอามากๆ เพราะโอกาสที่ ความเปลี่ยนแปลง นั้นๆ มันจะออกไปทาง ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ย่อมมีความเป็นได้สูงเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ถึงได้ทำให้คำตรัส คำเตือน ของอภิมหาพระอีกราย อย่าง สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ปัจจุบัน ที่ทรงย้ำแล้ว ย้ำอีก เอาไว้รอบแล้วรอบเล่า จึงเป็นอะไรที่มี คุณค่า เอามากๆ นั่นก็คือ...การยึดถือ ยึดมั่น อยู่กับสิ่งที่เรียกว่า ขันติธรรม เอาไว้ให้จงหนัก การอดทน อดกลั้น ต่อสิ่งอันเป็นที่ปรารถนา หรือไม่พึงปรารถนาใดๆ ก็ตาม ที่มันสอดแทรกเข้ามา ปรุงแต่ง อารมณ์-ความรู้สึกของ ตัวกู-ของกู ไปเป็นระยะๆ...
------------------------------------------------------
ดังนั้น...แม้ว่าช่วงหลังๆ นี้ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านอาจก่อให้เกิดความหงุดหงิด งุ่นง่าน ความน่าเบื่อ น่ารำคาญ เพียงใดก็ตาม แต่จะถึงขั้นคิดไปหัก-ไปโค่น ให้ต้องพังพินาศฉิบหายลงไปต่อหน้า-ต่อตา อาจจะลำบาก!!! หรืออาจไม่ถึงกับสอดคล้อง เหมาะสม กับฉากสถานการณ์ความเป็นไปของสังคม หรือของโลก มากมายซักเท่าไหร่นัก อย่างมาก...คงได้แต่ ระบายลมผ่าน กันไปเป็นพักๆ พอให้หายเบื่อ หายเอียน ลงไปได้มั่ง แต่สุดท้าย...หนีไม่พ้นต้องหันมายึดมั่นต่อคำตรัส คำเตือน ของ พระ หรือของ สมเด็จพระสังฆราช เอาไว้ก่อนนั่นแหละดี...
----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon (อีกครั้ง...และอีกครั้ง)...“Patience is the virtue most need just when we run out of it.- ขันติธรรม ความอดทน คือคุณสมบัติที่เรามักจะขาด โดยเฉพาะในยามที่เราต้องการมันอย่างถึงที่สุด...”
-------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |