ตอนนี้กระแสกัญชา กัญชง กำลังเข้าขั้นฟีเวอร์อย่างมาก มีหลายๆ ภาคส่วนที่ให้ความสนใจ และเร่งคลอดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ออกมาสู่ท้องตลาดกันอย่างล้นหลาม ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยอ้างอิงรายงาน The Global Cannabis Report ของ Prohibition Partners คาดว่า มูลค่าตลาดกัญชาทั่วโลกจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ในปี 2567 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.039 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยในส่วนนี้ประมาณ 60% จะเป็นกัญชาเพื่อการแพทย์ และอีก 40% เป็นตลาดกัญชาเพื่อการสันทนาการ ด้วยกระแสที่มาแรงส่งผลให้ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ในปัจจุบันมีบริษัทยักษ์ใหญ่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของโลกสนใจที่จะใช้สารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้คาดว่า มูลค่าตลาดกัญชาโลกจะเติบโตและกระจายไปในหลายธุรกิจมากขึ้น
สำหรับประเทศไทยหลังจากภาครัฐได้ปลดล็อกแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากกัญชง กัญชา ได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ตลาดกัญชง กัญชา ในบ้านเรามาแรงแซงทุกโค้ง ไม่ใช่เฉพาะแค่วงการแพทย์เท่านั้น หลายๆ ภาคส่วน หลายอุตสาหกรรมต่างก็หันมาให้ความสนใจและพร้อมที่จะกระโดดเข้าร่วมศึกในตลาดกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร ผู้ผลิตเครื่องดื่มทั้งที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ ทำให้ตลาดกัญชง กัญชา มีความคึกคักกันเป็นพิเศษ
และหลายคนยังคาดหวังที่จะปั้นให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ เพราะทิศทางการตอบรับของธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ต่างเกาะเทรนด์ของกัญชง กัญชา มีทั้งที่เตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์ พัฒนาสินค้าที่มีส่วนประกอบของกัญชงมาวางขายในตลาด และบางส่วนก็ได้ออกมาแล้ว เพื่อหวังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
สำหรับภาคธุรกิจในประเทศไทยที่หันมาเล่นในตลาดนี้อาทิ คลาสคาเฟ่ ที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นำงานวิจัยทางกัญชาออกสู่สาธารณะ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ Khaoyai Calm เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มชา กาแฟ จากกัญชา
ทิปโก้ฟูดส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาสูตรและผลิตภัณฑ์ เพื่อเตรียมขอใบอนุญาตและขึ้นทะเบียน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และคาดพร้อมวางจำหน่ายในช่วงประมาณกลางปี 64 นี้, บริษัท ไลฟ์สตาร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.อาร์เอส ก็ได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำศึกษาและคิดค้นสูตรเพื่อนำกัญชงมาพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ทั้งในส่วนของสกินแคร์ เครื่องดื่ม และอาหารเสริม เช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมี บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน PT ก็เตรียมเจรจากับพันธมิตรที่ได้ยื่นขอใบอนุญาตปลูกกัญชา กัญชง กับ อย. รวมถึงมีความร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชน เช่นเดียวกับ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติรายใหญ่ ก็อยู่ระหว่างการขออนุญาตจาก อย. เพื่อจะปลูกกัญชงบนพื้นที่ 100-200 ไร่ ในภาคเหนือและภาคอีสาน คาดว่าเริ่มลงมือปลูกได้ภายในกลางปี 2564
เช่นเดียวกับกลุ่มอิชิตัน ที่เมื่อต้นเดือน เม.ย.นี้ ประกาศว่าได้พัฒนาสินค้าเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ออกมาแล้ว โดยใช้แบรนด์ “กรีน แลป” (Green Lab) รอเพียงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หรือ อย. อนุญาตให้มีการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ ก็พร้อมรุกเข้าไปจำหน่ายทันที คาดจะสามารถวางจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ปีนี้ หลังจากประกาศออกไปไม่นานก็มีข่าวลือสะพัดลั่นทุ่งว่า
"เป็นชาเขียวผสมสารสกัด "เทอร์พีน" แต่งกลิ่นกัญชง พร้อมออกแบบสลากเครื่องดื่มที่นำเอาใบไม้ 3 แฉก คล้ายใบกัญชามาแสดงข้างขวดบรรจุภัณฑ์เพื่อทำให้ผู้บริโภคหลงเข้าใจว่า เป็นเครื่องดื่มที่สกัดมาจากกัญชงโดยตรง ทั้งยังบรรยายสรรพคุณว่า สารสกัดเทอร์พีนที่ได้ช่วยรีแล็กซ์และบรรเทาอาการนอนไม่หลับอีกด้วย"
พร้อมระบุอีกว่า สรรพคุณที่ได้ ไม่ได้ทัดเทียมกับสารสกัดที่ได้จากกัญชงโดยตรง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนสำหรับผู้บริโภค ให้เข้าใจผิดว่า เครื่องดื่มชาเขียวผสมสารสกัดเทอร์พีนดังกล่าว มีสารสกัดจากกัญชงหรือกัญชาโดยตรง เรื่องนี้จะจริงเท็จแค่ไหน ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท้จจริงว่า มีการโฆษณาเกินจริงหรือไม่ เพราะสารสังเคราะห์นั้นยังไงก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างไม่อาจทัดเทียมของจริงได้แน่
การที่ภาคเอกชนแห่กระโดดเข้าสู่ตลาดนี้คิดในแง่บวกถือว่าดี เพราะช่วยกระตุ้นให้ตลาดคึกคักมากขึ้นหลังจากที่ไวรัสโควิด-19 ทำตลาดเงียบเหงามานาน และผู้บริโภคเองต้องเป็นคนแยกแยะเองว่าคุณประโยชน์ที่พึงได้นั้นเป็นสำคัญสิ่งที่สุด.
บุญช่วย ค้ายาดี
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |