ไม่มีจัดฉาก! “ศรีวราห์” แฉเครือข่ายเสื้อแดงค้าอาวุธสงคราม จับได้แค่ 1 ใน 3 โยงก๊วนโกตี๋ มีกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์เคลื่อนไหวจะใช้อาวุธก่อความวุ่นวายช่วงชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จับตาต่อเนื่องอิมพีเรียลลาดพร้าวและม็อบธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาสารภาพรับอาวุธมาแล้วส่งต่อไปลาว ยอมรับทหารเคยเรียกเข้าค่ายเมื่อปี 2560 "กำธร" เผยระเบิดแบบขว้างสังหารเลขนัมเบอร์ตรงกับที่ใช้ก่อเหตุในช่วงการชุมนุมปี 53 จำนวน 5 คดี
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.11 นำตัวนายวิชาญ รักชาติ อายุ 34 ปี, นายวินัส ปริกเพชร อายุ 34 ปี, น.ส.ประคองศรี ศิริมั่น อายุ 39 ปี, นายประดิษฐ์ทอง ชัยปัญหา อายุ 58 ปี และนายสมบัติ แก้วสุข อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันค้าหรือจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ซึ่งร่วมรับมอบ เปิดเผยว่า ว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ค.61 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด บริเวณถนนหน้าวัดโค้งงาม ม.7 ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ตรวจค้นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน กพ 4475 เชียงราย ซึ่งมีนายพงศ์พัฒน์ ใจอินต๊ะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205 ม.7 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย เป็นผู้ขับขี่ ผลการตรวจค้น พบกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 10,000 นัด บรรจุในกล่องกระดาษ จึงจับกุมนายพงศ์พัฒน์ดำเนินคดีในความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.ศรีวราห์เผยต่อว่า จากการสอบปากคำ นายพงศ์พัฒน์ ให้การซัดทอดว่าอาวุธของกลางดังกล่าวถูกส่งพัสดุมาจากนายวิชาญ รักชาติ ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา บูรณาการกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร นำกำลังตรวจค้นบ้านพักของนายวิชาญ พบ กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ปลอก กริปกระสุนปืนกล M60 ขนาด 7.62 ประมาณ 15 กก.
จากการสอบปากคำนายวิชาญให้การเพิ่มเติมว่า ได้มีการสั่งซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนมาจาก “จ่าโก” และได้แบ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปซุกซ่อนที่บ้านพักของนายวินัส ปริกเพชร อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.6 ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย พบกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 4,542 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 25 นัด, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 25 นัด, อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อซีแซด ขนาด 6.35 มม. จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก อยู่ในรถนิสสันรุ่นพัลซาร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กษ 2482 กทม. ส่วนการเข้าตรวจค้นบ้าน น.ส.ประคองศรี ที่บ้านเลขที่ 196 ม.4 ต.เริงราง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ผลการตรวจค้นพบวัตถุระเบิดขว้าง M26 A1 จำนวน 5 ลูก
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นจากการสอบสวน นายวิชาญได้จำหน่วยอาวุธและเครื่องกระสุนปืนให้กับบุคคลอื่นอีกหลายคน แต่ละคนกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระในหลายพื้นที่ต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิด จึงได้อนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดหลายคน โดยเฉพาะพื้นที่ สภ.ฉะเชิงเทรา เข้าตรวจค้นบ้านนางอภิสรา โภควัฒน์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 ม.1 ต.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา พบอาวุธปืน อาวุธสงคราม ชิ้นส่วนอาวุธสงคราม (M16) จำนวนมาก
ขณะที่นายวิชาญ ผู้ต้องหาคนสำคัญเปิดเผยว่า ในการซื้อขายอาวุธปืนมีคนติดต่อมาทางไลน์ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร บอกแต่ว่าเป็นการ์ด ส่วนผู้ต้องหาที่จับได้ในวันนี้ก็เคยส่งให้นายประดิษฐ์ทองส่งกระสุนปืนเอ็ม 60 จำนวน 4 ครั้ง ส่วนนายสมบัติเคยส่งกระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 2 ครั้ง
ในขณะเดียวกัน นายประดิษฐ์ทองยอมรับว่าเคยซื้อของจากนายวิชาญจริง เมื่อรับของมาแล้วส่งต่อไปยังฝั่งลาว พล.ต.อ.ศรีวราห์ถามว่า ส่งให้โกตี๋หรือไม่ นายประดิษฐ์ทองให้การว่า ไม่ทราบว่าเป็นใคร ทราบแต่เพียงชื่อแอร์ โดยไม่มีความเกี่ยวพันกับคนเสื้อแดง แต่ยอมรับเคยถูกทหารเรียกเข้าค่ายเมื่อปี 60 ที่ทหารบอกว่าให้การกลุ่มฮาร์ดคอร์หลบนีไป สปป.ลาว ตนเพียงมีเรือหางยาวรับจ้างส่งข้ามฝั่งเท่านั้น
รอง ผบ.ตร.ย้ำว่า ในการสั่งระดมกวาดล้างอาวุธ เนื่องจากการข่าวความมั่นคงได้มีกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์มีการเคลื่อนไหวจะใช้อาวุธก่อความวุ่นวายในที่ชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยเฉพาะนายประดิษฐ์ทอง เคยส่งอาวุธไปยังฝั่งลาว ฝ่ายความมั่นคงสันนิษฐานว่าเป็นเขตอิทธิพลนายโกตี๋ แต่ไม่ได้ยืนยันว่ากลุ่มไหนจะก่อเหตุ แต่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์เสื้อแดงที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างอาวุธที่ยึด ที่ไม่ว่าจะเป็น จ.เชียงราย พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา มันเขตใคร ถ้าตามสันนิษฐานต้องเป็นอย่างนั้น
ประกอบกับแหล่งข่าวยืนยันมาว่า มีการว่าจ้างให้มาก่อเหตุในวันชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง วันนี้มีผลการดำเนินการทั้งอาวุธและตัวผู้ต้องหา ไม่มีการจัดฉาก
นอกจากนี้ นายวิชาญยังรับว่า เคยส่งอาวุธไปหลายพื้นที่ ทั้งภาค 1, 2, 4, 5, 6 ทำมาแล้วประมาณ 3-4 เดือน ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการประท้วง อาวุธจึงมีการเคลื่อนไหว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะนี้มีกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์เคลื่อนไหวอีกหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ตอบว่า มีที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เราสังเกตเป็นพิเศษ และม็อบที่ธรรมศาสตร์ มีความเชื่อมโยงกัน ฟ้องด้วยภาพบอกเลยว่าอาวุธยังมีอีกมาก ที่ยึดมาได้ทั้งหมดแค่ 1 ใน 3 ยังเหลืออีกเยอะ
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบอาวุธของปืนสั้นแบบออโตเมติกในพื้นที่ สภ.ฉะเชิงเทรา พบว่ามีการคัดแปลงให้สามารถยิงเป็นชุดได้ ส่วนที่เก็บเสียงไม่มีการใช้ในราชการทหาร ลักษณะการใช้เป็นการใช้เพื่อลอบสังหาร
พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (รอง ผบก.สปพ.) เผยว่า ในการตรวจสอบของกลางพบว่าระเบิดแบบขว้างสังหารเอ็ม 26 เอ 1 ของ สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี จากการตรวจสอบในสารบบพบว่าระเบิดเอ็ม 26 เอ 1 ถูกใช้ในการก่อเหตุในพื้นที่ตั้งแต่ปี 53 จนถึงปัจจบัน จำนวน 15 เหตุ ในปี 53 จากการตรวจสอบล็อตนัมเบอร์ที่ตรงกันในล็อตที่จับได้ประมาณ 5 เหตุ เพราะตัวลูกระเบิดแต่ละชุดจะหมายเลขนัมเบอร์ไม่เหมือนกัน และพบว่าตัวเลขดังกล่าวตรงกันกับล็อตเมื่อใช้ก่อเหตุเมื่อปี 53 ระหว่างมีการชุมนุม จำนวน 5 คดี
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า กรุณาอย่าสร้างเรื่อง อย่ายัดเยียด อย่าใส่ร้ายป้ายสีซ้ำๆ ซากๆ กันอีกเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข่าวว่าจับอาวุธสงครามได้จำนวนมาก คราวนี้จะมายัดเรื่องอาวุธสงคราม หวังกวาดทีเดียวกินรวบทั้งกระดาน ทั้งคนอยากเลือกตั้ง ทั้ง นปช. ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย แล้วนี่จะปฏิรูปประเทศกันอย่างนี้ หรือจะปฏิรูปประเทศโดยอาศัยหน่วยงานรัฐยัดความผิดให้ฝ่ายเห็นต่าง ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการฟาดฟันปรปักษ์ทางการเมืองให้บรรลัยวายวอดไปเช่นนั้นหรือ
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นำสำนวนพยานหลักฐาน พร้อมความเห็นสมควรฟ้องแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ชุด MBK39 กรณีจัดกิจกรรมรวมพลประชาชนคนอยากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณสกายวอล์กแยกปทุมวัน ใกล้ห้างสรรพสินค้า MBK ส่งมอบให้นายบุญส่ง เนตรปฐมพรกิจ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4
นายบุญส่ง อัยการ นัดให้ผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟังคำสั่งคดีครั้งแรก ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ส่วนนายวีระ สมความคิด ที่ยังไม่ได้มารายงานตัวกับอัยการและเซ็นรับทราบนัด เราก็นัดให้มาพบวันที่ 4 มิ.ย.นี้ ก่อนนัดสั่งคดีพร้อมกันทั้งหมดตามที่นัดไว้ 28 มิ.ย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |