วันที่ 20 เม.ย. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมมลพิษ ครั้งที่ 3/2564 เพื่อรับทราบสถานการณ์และมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือ และพิจารณาเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลปกครองเชียงใหม่ กรณีสั่งให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติประกาศกำหนดให้จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และแม่ฮ่องสอนเป็นเขตควบคุมมลพิษ โดยมีคณะกรรมการฯ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนจังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผ่านระบบ video conference
นายจตุพร กล่าวว่า ตามที่ได้มีคำสั่งศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2564 พิพากษาให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ใช้อำนาจตามมาตรา 59 แห่งพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ประกาศให้ท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และแม่ฮ่องสอน เป็นเขตควบคุมมลพิษ จากผลการเปรียบเทียบสถานการณ์การติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ในปี พ.ศ. 2564 เทียบกับปี พ.ศ. 2563 (ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-19 เม.ย.) พบว่าจำนวนวันที่ค่าฝุ่น pm 2.5 เกินมาตรฐานลดลงร้อยละ 9 และจำนวนจุดความร้อนลดลงถึงร้อยละ 52 จากผลการดำเนินงานและกิจกรรมที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงสภาพอากาศ ถึงแม้สถานการณ์ภาพรวมจะดีขึ้น ขอให้ทุกหน่วยงานเน้นย้ำการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม
สำหรับการพิจารณาเรื่องคำพิพากษาของศาลปกครองเชียงใหม่ กรณีสั่งให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติประกาศกำหนดให้จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และแม่ฮ่องสอนเป็นเขตควบคุมมลพิษ ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อมฯ พ.ศ. 2535 นั้น ได้มีการประชุมหารือกับผู้เข้าประชุม เพื่อรวบรวมความเห็นในการดำเนินการอุทธรณ์ต่อคำพิพากษาดังกล่าว เนื่องจากยังมีความละเอียดอ่อนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นในพื้นที่ การจัดทำแผนปฏิบัติการและการบริหารจัดการหลังการประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ รวมถึงการคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของพื้นที่ที่จะประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษ โดยมอบหมายกรมควบคุมมลพิษเป็นผู้แทนในการรวบรวมข้อเท็จจริงและยื่นอุทธรณ์ต่อคำพิพากษาดังกล่าว ซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 8 พ.ค. นี้