คิวบาสิ้นยุคสมัยการปกครองโดยพี่น้องตระกูลคาสโตรยาวนานกว่า 6 ทศวรรษแล้วเมื่อวันจันทร์ เมื่อราอูล คาสโตร เกษียณจากตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์คิวบาอย่างเป็นทางการด้วยวัย 89 ปี โดยมิเกล ดิอาซ-กาเนล ได้รับเลือกเป็นผู้นำสูงสุดของคิวบาแทน

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีมิเกล ดิอาซ-กาเนล โบกธงชาติคิวบา ขณะยืนใกล้กับราอูล คาสโตร เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คิวบา ขณะชมขบวนพาเหรดวันแรงงาน 1 พฤษภาคม 2562 ที่กรุงฮาวานา (Photo by Yander Zamora/Anadolu Agency/Getty Images)

    เอเอฟพีรายงานว่า มิเกล ดิอาซ-กาเนล วัย 60 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของคิวบามาตั้งแต่ปี 2561 แต่ตอนนี้เขาได้ขึ้นสู่ตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศนี้แล้ว คือตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คิวบา (พีซีซี) ตามคำประกาศของพรรคผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมใหญ่พรรค

    "มิเกล ดิอาซ-กาเนล เบร์มูเดซ ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนที่ 1 ของคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์คิวบา" พีซีซีกล่าว

    ดิอาซ-กาเนลเป็นผู้นำพลเรือนคนแรกของคิวบาและเป็นคนแรกที่ไม่อยู่ในตระกูลคาสโตรที่ได้ครองอำนาจสูงสุดนี้ในรอบ 60 ปี นับแต่ยุคของฟิเดล คาสโตร ที่ปกครองคอมมิวนิสต์คิวบาระหว่างปี 2502-2549

    ราอูล คาสโตร วัย 89 ปี ซึ่งรับตำแหน่งต่อจากพี่ชายที่วางมือเพราะอาการป่วย กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมพรรคครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยืนยันถึง "ความเต็มใจที่จะดำเนินการเจรจาด้วยความเคารพและสร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่กับสหรัฐอเมริกา" ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรคิวบามาตั้งแต่ปี 2505 ขณะเดียวกัน เขาย้ำว่าคิวบาจะไม่ละทิ้ง "หลักการแห่งการปฏิวัติและสังคมนิยม" 

    คาดกันว่าการเปลี่ยนตัวผู้นำของคิวบาจะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายครั้งใหญ่ ขณะที่คิวบากำลังต่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ทั้งอัตราเงินเฟ้อสูงลิ่ว, การขาดแคลนอาหารและปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น และความไม่พอใจเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการจำกัดเสรีภาพ.