คู่มือฉบับเร่งด่วนที่เจ้าของควรรู้ 'ไข้หวัดนก' ในแมว-สุนัข

9 ก.ย. 2567 – ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “31 รัฐ ในสหรัฐ เผชิญไข้หวัดนกในแมวและสุนัข : คู่มือรับมือฉบับเร่งด่วนที่เจ้าของควรรู้” โดยระบุว่า

ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ปีก เป็นโรคที่น่ากังวลสำหรับนกและสัตว์ปีกมานาน แต่ล่าสุดมีการระบาดอย่างฉับพลันในแมวและสุนัขใน 31 รัฐของสหรัฐอเมริกา ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเกิดความวิตกกังวล บทความนี้จะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับไข้หวัดนกและผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยง เพื่อให้คุณสามารถปกป้องเพื่อนขนฟูของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไข้หวัดนก หรือ Influenza สายพันธุ์ H5N1 เป็นไวรัสที่แพร่กระจายในนกเป็นหลัก แต่สามารถกระโดดข้ามไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ การแพร่กระจายเกิดจาก : การสัมผัสโดยตรงกับนกติดเชื้อ การสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนอุจจาระ น้ำลาย หรือน้ำมูกของนกติดเชื้อ

สถานการณ์การระบาดในสหรัฐอเมริกา พบใน 31 รัฐ โดยเฉพาะในรัฐโคโลราโด มิชิแกน และรัฐในภาคตะวันตกกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุที่รัฐเหล่านี้ได้รับผลกระทบหนักเนื่องจาก : อยู่ใกล้เส้นทางอพยพของนก มีพื้นที่ชนบทที่สัตว์เลี้ยงอาจสัมผัสกับนกป่าติดเชื้อได้ง่าย

อาการทั่วไปในแมวและสุนัขที่ติดเชื้อ ได้แก่ : หายใจลำบาก อ่อนเพลีย ไอ มีไข้ เบื่ออาหาร อาการคล้ายไข้หวัดอื่นๆ ในกรณีรุนแรง อาจถึงแก่ชีวิตได้ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

แมวและสุนัขมักติดเชื้อจาก : การสัมผัสกับนกป่าติดเชื้อ เช่น เป็ดหรือห่าน การกินนกติดเชื้อ การหากินในสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน เช่น บริเวณใกล้ทะเลสาบหรือสระน้ำ ซึ่งสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ชนบทมีความเสี่ยงสูงกว่า

ความแตกต่างระหว่างแมวและสุนัข

-แมว: มีความอ่อนไหวต่อไข้หวัดนกมากกว่า เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะล่าหรือไล่ตามนก อาจแสดงอาการเร็วกว่า โดยเฉพาะหากอาศัยใกล้แหล่งน้ำที่นกป่าชอบไปมา

-สุนัข: มีแนวโน้มติดเชื้อน้อยกว่า แต่ยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะสุนัขที่อยู่ใกล้ฟาร์มสัตว์ปีกหรือพื้นที่ชนบท มักมีอาการเบากว่าแมว

สายพันธุ์ H5N1 ได้กลายพันธุ์ ทำให้แพร่กระจายไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ง่ายขึ้น ซึ่งน่ากังวลเพราะอาจแพร่กระจายไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสปีชีส์อื่นๆ มากขึ้น

วิธีป้องกันสัตว์เลี้ยง

1.หลีกเลี่ยงการปล่อยสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ที่อาจสัมผัสกับนกป่า

2.ให้แมวอยู่ในบ้าน และสุนัขอยู่ในสายจูงเมื่อพาออกนอกบ้าน

3.ทำความสะอาดชามอาหาร ของเล่น และที่นอนของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ

ความเสี่ยงต่อมนุษย์ ไม่มีหลักฐานว่าไวรัสจะแพร่จากสัตว์เลี้ยงสู่มนุษย์ได้ง่าย แต่ควรรักษาสุขอนามัยที่ดี เช่น ล้างมือหลังจับต้องสัตว์เลี้ยง

สถานะการฉีดวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกสำหรับแมวและสุนัขที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐอเมริกา การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ผลกระทบต่อสัตว์ป่า ไข้หวัดนกยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่า เช่น สุนัขจิ้งจอก สกั๊งค์ และแรคคูน ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของไวรัสในการข้ามพรมแดนระหว่างสปีชีส์

สิ่งที่ควรทำหากสัตว์เลี้ยงแสดงอาการ

1.ติดต่อสัตวแพทย์ทันทีหากพบอาการสงสัย

2.แยกสัตว์เลี้ยงที่สงสัยว่าติดเชื้อออกจากสัตว์อื่นๆ

การติดตามข้อมูล เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรติดตามข้อมูลอัปเดตจากกรมอนามัยในท้องถิ่นและสมาคมสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

การระบาดของไข้หวัดนกในสัตว์เลี้ยงเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล แต่ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและการป้องกันที่เหมาะสม เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยปกป้องสัตว์เลี้ยงของตนได้ การเฝ้าระวังและการดูแลสุขอนามัยที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับการระบาดนี้

https://www.animalsaroundtheglobe.com/sudden-surge-of…/

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์จีโนมฯ จับตาโอมิครอน KP.2.3/XEC ลูกผสมพันธุ์ใหม่ แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โอมิครอน KP.2.3/XEC : ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า

เปิดผลสอบ 'ฝีดาษลิง' ธรรมชาติรังสรรค์ หรือมนุษย์ประดิษฐ์!

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "การสอบสวนฝีดาษลิงธรรมชาติสร้างสรรค์หรือมนุษย์ประดิษฐ์"

มูลนิธิหัวใจบริสุทธ์ จับมือกลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป รวมพลังเครือข่าย มอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัยชาวแพร่

วันที่ 31 สิงหาคม 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ จำนวน 200 ชุด เพื่อช่วยเหลือและเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดแพร่ โดยมี