ผลวิจัยชี้ 'รอบเดือน' สตรี มีผลต่อสมอง 'หมดระดู' เสี่ยงอัลไซเมอร์

13 พ.ย. 2566 – ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รอบเดือนสตรีมีผลต่อสมอง

ฮอร์โมนมีผลหรืออิทธิพลโยงใยไปกับการทำงานของสมอง ทั้งนี้ที่เห็นได้เด่นชัดก็คือในสตรี โดยที่พบความเกี่ยวข้องเมื่อหมดระดู ดูเหมือนว่าจะมีความสุ่มเสี่ยงในการเกิดสมองเสื่อมโดยเฉพาะแบบอัลไซเมอร์ได้สูงขึ้น

การศึกษาก่อนหน้าที่ผ่านมานั้นในสัตว์ทดลอง พบว่าฮอร์โมนเพศมีความเกี่ยวพันกับสมอง Cornu ammonis (CA1) และเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์ในระบบทางด้านความจำ บูรณาการ และการให้ฮอร์โมน estradiol จะช่วยทำให้มีการเชื่อมโยงของเส้นใยประสาทในสมองส่วนนี้ดีขึ้นในสัตว์ทดลองที่ตัดรังไข่ ในขณะที่ฮอร์โมน progesterone จะยับยั้งผลนี้ การศึกษาในสัตว์ทดลองยังได้พิสูจน์ไปจนถึงสัตว์ในตระกูลลิงตั้งแต่อายุน้อยถึงอายุกลาง

สมองอีกตำแหน่งที่มีการศึกษาไม่มาก แต่มีการเหี่ยวในระยะเริ่มต้นของสมองเสื่อม คือ perirhinal area 35 ซึ่งเป็น trans– entorhinal region และ medial perirhinal cortex

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ยังมีประจำเดือนอยู่นั้น ตั้งแต่ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะมีการเปลี่ยนแปลงระดับของฮอร์โมนขึ้นลง (hormonal oscillat ions) ในช่วงเดือนอยู่ตลอด โดยเฉพาะฮอร์โมน estradiol และ progesterone

จุดประเด็นนี้เองที่เป็นที่มาในความสนใจความเชื่อมโยงระหว่างความเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนขึ้นๆ ลงๆ ว่ามีความสัมพันธ์กับการทำงานของสมองหรือไม่ ทั้งนี้ รวมถึงทางด้านจิตอารมณ์ ภาวะหดหู่ ซึมเศร้าและสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ลี้ลับพอสมควร

โดยที่มีการศึกษาและมีรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะสมองในด้านประสิทธิภาพในการจดจ่อเรียนรู้ จดจำน้อยมาก โดยมีเพียง 0.5% ที่มีการตีพิมพ์ โดยมีการประมวลวิเคราะห์ภาพคอมพิวเตอร์สมองมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้

รายงานนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Mental Health ในวันที่ 5 ตุลาคม 2023 จาก Mark Planck Institute for human cognitive and brain sciences และ the University Clinic in Leipzig เยอรมนี

การศึกษานี้มีสตรีอาสาสมัคร 27 คน ในหกจุดเวลาของรอบประจำเดือน (mens pre- และ Ovula tion post O Mid- L และ Pre-M) การระบุรอบและกรอบช่วงเวลาต่างๆ ของประจำเดือนนั้น ใช้อัลตราซาวด์เพื่อดูการเติบโตของ follicle ในรังไข่ ในการบอกเวลาตกไข่ และทำการตรวจสมองด้วยคอมพิวเตอร์แม่เหล็กไฟฟ้าที่มีพลังสนามแม่เหล็กสูงถึง 7 เทสล่า โดยวิเคราะห์เจาะลึกลงไปถึงส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทำงานทางพุทธิปัญญาและความจำ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นความจำปัจจุบัน (episodic memory) ที่ถูกกระทบในระยะแรกเริ่มของสมองเสื่อม

โดยเครื่องที่เราใช้ในผู้ป่วยตามปกตินั้นจะอยู่ที่ 3 เทสล่า และพลังระดับเจ็ดนี้เป็นมาตรฐานในการศึกษา cognitive และ Behavioral Neuroscience

ในแต่ละเดือนของสตรีนั้น ฮอร์โมน estradiol จะขึ้นสูงในครึ่งแรกและสูงสุด ในขณะที่ไข่ตกและฮอร์โมน progesterone จะอยู่ในครึ่งหลัง โดยทำหน้าที่เตรียมมดลูกให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และยังมีผลในการทำให้สงบ มีอารมณ์ผ่อนคลาย ไม่วิตกกังวล และหลับได้สบายขึ้น

ทั้งหมดนี้คล้ายกับคลื่นน้ำที่มีการสลับสับเปลี่ยนอยู่ตลอด โดยสมองในสตรีนั้นจะมีความเชื่อมโยงกับจังหวะของฮอร์โมนเหล่านี้

โดยที่ผลของการศึกษานี้พบว่า สมองกลีบขมับทางด้านในที่ควบคุมความจำปัจจุบัน (episodic memory) รวมทั้งการเรียนรู้และจดจำ สถานที่ ทิศทางตำแหน่ง การหาทิศทาง (spatial cognition: landmarks route และ survey knowledge) มีการขยายตัวขึ้นตามจังหวะของ estradiol และลดลงในช่วง progesterone

ตำแหน่งของสมองที่ศึกษานี้เป็นตำแหน่งย่อยของสมองกลีบขมับทางด้านใน และส่วนจำเพาะที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนดังกล่าว ได้แก่ Estradiol สัมพันธ์กับปริมาตร ของ parahippo campal cortex และ progesterone สัมพันธ์กับปริมาตรของ subiculum และ perirhinal area 35 และในส่วนของ CA1 จะเชื่อมโยงกันทั้งฮอร์โมนทั้งสองตัว

ความสำคัญของรายงานนี้ชี้ชัดว่า ฮอร์โมนเพศมีความสัมพันธ์ลึกล้ำกับส่วนจำเพาะของสมอง ซึ่งในการศึกษานี้แม้ว่าจะเจาะจงในตำแหน่งของสมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำและทิศทางก็ตาม แต่จะเป็นพิมพ์เขียวเพื่อการศึกษาต่อในอนาคตเพื่อทำให้สามารถเชื่อมโยงกับการปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์และจิตใจ

และที่สำคัญก็คือความยืดหยุ่นของสมอง (resilience) เพื่อให้คงประสิทธิภาพและมีความต้านทาน (resistance) ต่อปัจจัยไม่ดีต่างๆ ทั้งนี้ น่าจะรวมถึงการใช้ฮอร์โมนในรูปแบบต่างๆ และยาคุมกำเนิดและฮอร์โมนทดแทน ว่าจะมีผลอย่างไรกับการทำงานของสมอง อารมณ์และจิตใจบ้างหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เส้นเลือดแตกในสมอง' ทำไมพบบ่อยมากและรุนแรงขึ้น

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและสมอง และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เส้นเลือดแตกในสมอง

ไขข้อข้องใจ! ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วสุขภาพดี

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กินช็อกโกแลตแล้วสุขภาพดี…… สนใจมั้ย?

'หมอสมอง' เตือน! 'บิด เอียง สะบัดหมุน ดัดคอ' เสี่ยงอัมพฤกษ์

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและสมอง และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า บิด เอียง สะบัดหมุน ดัดคอ…แล้วก็เสี่ยงอัมพฤกษ์

‘หมอธีระวัฒน์’ ยกรายงานญี่ปุ่น ประเมินผลวัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง

วัคซีนนั้นทำให้ระบบการตรวจตราเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดมะเร็งนั้นถดถอยลงโดยเฉพาะในระบบ ที่เรียกว่า innate immunity และความบกพร่องห่วงโซ่ ในระบบภูมิคุ้มกัน

หมอธีระวัฒน์ เตือนแจกยาผู้ประสบภัย ระวังตัวยาเดียวกันคนละชื่อ อาจทานซ้ำซ้อน

หมอธีระวัฒน์ เตื่อนสถานการณ์วิกฤตอาจต้องระวัง ยาและเวชภัณฑ์ที่ส่งให้ผู้ประสบภัยว่าอาจเป็นยาตัวเดียวกันแต่คนละชื่อและอาจทานซ้ำซ้อนเกินขนาด