11 ส.ค. 2566 – ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความว่า วิกฤตโลกร้อนไม่ใช่มีเพียงโรคร้าย
สภาวะโลกร้อนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอากาศสุดขั้ว (drastic climate change) แห้งแล้ง ร้อนสุดขีด ฝนตกหนัก น้ำท่วม บางพื้นที่กลับหนาวเย็น
เหล่านี้กระทบระบบนิเวศทั้งมนุษย์และสัตว์รวมทั้งแมลง ทำให้มีการย้ายถิ่นฐานเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันนำเชื้อที่ซ่อนอยู่ในตัวออกไปแพร่ รวมทั้งเชื้อต้องมีวิวัฒนาการ ในการปรับตัวกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ และกระโดดข้ามสิ่งมีชีวิตจากตระกูลเดียวกันเป็นตระกูลอื่น
นอกจากนั้นยังมีเชื้อแฝงที่อยู่ในขั้วโลกน้ำแข็งและละลายตัว รวมทั้งเชื้อที่มีอยู่เดิม เช่น แหล่งน้ำในถ้ำโบราณที่มีอายุเป็นล้านปี โดยพบว่ามีแบคทีเรียมากมายโดยที่แต่ละกลุ่มดื้อยาปฏิชีวนะที่มนุษย์ใช้อยู่ขณะนี้เรียบร้อยแล้ว เป็น antimicrobial resistance
ทั้งนี้ เนื่องจากแบคทีเรียแต่ละกลุ่มนั้น ต้องสู้กันเองและแต่ละกลุ่มปล่อยพิษที่จะทำลาย กันและกัน ดังนั้นต้องมีกลไกในการไม่ให้ตนเองสูญพันธุ์
จุดวิกฤตที่สำคัญของมนุษย์
1.ต้นทุนสุขภาพอ่อนด้อยลงอย่างมาก เต็มไปด้วยโรค NCD (noncommunicable disease) หรือ เมตาบอลิค ซินโดรม ที่ทำให้เปราะบางและติดเชื้อง่ายและตายง่ายแม้เชื้อที่เข้ามาไม่ได้รุนแรงนัก โดยถึงไม่ได้ติดเชื้ออวัยวะพังก็หนักอยู่แล้ว
2.มนุษย์ที่ติดเชื้อโควิดจะมีความอ่อนด้อยหรือแปรปรวนของระบบภูมิคุ้มกันไม่มากก็น้อย
โรคเดิมที่เคยคุมอยู่กลับรุนแรงขึ้นใหม่ โดยเฉพาะโรคแพ้ภูมิตนเองที่เป็นทั้งตัว เช่น โรคพุ่มพวง หรือเป็นเฉพาะในสมองหรือเส้นประสาทหรือที่เกิดขึ้นกับกระดูกข้อต่อและเส้นเอ็น รวมถึงโรคเมตาบอลิคทั้งหลาย เบาหวานความดันหัวใจโรคหลอดเลือดต่างๆ และมะเร็งเกิดปะทุขึ้นมาง่ายๆ หรือรักษาสงบไปแล้วเกือบโผล่ขึ้นมาอีก
ที่ไม่ควรเกิดในอายุน้อยกลับพบมากขึ้น ไม่ว่างูสวัด โรคผิวหนังต่างๆ และติดเชื้อต่างๆ ได้มากขึ้นง่ายขึ้น
และงูสวัดที่เกิดขึ้น ยังเพิ่มความเสี่ยงของหัวใจวายและอัมพฤกษ์หลังจากนั้นเป็นเวลาอีกหลายปี
สมองเสื่อมที่ควรเห็นแสดงอาการเมื่ออายุ 60 หรือ 65 ไปแล้วกลับแสดงให้เห็นตั้งแต่อายุ 40 กว่า ถึง 50
ทั้งนี้ยังรวมถึงมนุษย์บางคนที่คราวเคราะห์ร้ายฉีดวัคซีนไปเกิดแพ้ ทำให้มีปรากฏการณ์ ภาวะอ่อนด้อยสุขภาพเหมือนกับที่ติดเชื้อโควิดไปทุกประการดังขัางต้น
เช่น รายงานในวารสาร PLOS NTD (4/8/2023) จากประเทศอังกฤษ พบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อน หลังจากได้วัคซีน กลับมีการปะทุของโรคเรื้อน หรือมีอาการลุกลามขึ้น
3.ความแออัดของการบริการในระบบสุขภาพทั้งในผู้ป่วยนอกและในหอผู้ป่วยใน โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ ที่มีปัญหามาเนิ่นนานและถ้ามีเชื้อถูกนำเข้าในสถานพยาบาลที่แออัดอยู่แล้วจะกลายเป็นหม้อเพาะเชื้อใบใหญ่ เกิดติดต่อลุกลามได้ง่ายและแพร่ออกไปสู่ชุมชนภายนอก
เชื้อโรคที่เบ่งบานมากขึ้นทั้งโรคเก่าปะทุใหม่โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมให้เก่งขึ้นรวมทั้งโรคใหม่เอี่ยมที่วิวัฒน์มาจากสภาวะโลกร้อน เมื่อเข้ามนุษย์ที่อ่อนแอและสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้จะยิ่งระบาดได้ง่ายขึ้น
ทางแก้ที่ง่ายที่สุด
1.ทำสุขภาพแต่ละคนให้แข็งแรง ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าต้องกินอาหารสุขภาพผักผลไม้กากไย ลดแป้ง งดเนื้อสัตว์บก แทนด้วยปลา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดบุหรี่เด็ดขาด ถ้ายังดื่มๆ ในปริมาณสุขภาพแอลกอฮอล์ไม่เกิน 30 กรัมต่อวัน
2.คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วทั้งที่สุกงอมหรือกำลังจะสุกงอม อวัยวะเริ่มจะพังหัวใจเริ่มจะวายรวมทั้งไต ให้หันกลับไปดูข้อหนึ่งและไม่พึ่งแต่ยาอย่างเดียว ซึ่งตัวเองจะกลายเป็นสนามรบของยา และยาตีกันเอง
3.การวินิจฉัยโรคติดเชื้อต้องควบรวมศูนย์บัญชาการหนึ่งเดียวประสานข้อมูลจากท้องถิ่นและโรงพยาบาลทุกระดับเพื่อให้ทราบสถานการณ์ที่ยกระดับขึ้นอย่างผิดปกติ และที่สำคัญคือต้องได้มาซึ่งกระบวนการวินิจฉัยเชื้อทั้งที่มีอยู่แล้วและชื่อที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนอย่างรวดเร็วที่สุด และแน่นอนถ้าราคาถูกเข้าถึงได้
ไม่ใช่ลงไปลุยหาเชื้อไม่รู้จักชื่อในสัตว์ป่า กลับกลายเป็นนำเชื้อร้ายจากป่าสู่ชุมชนมนุษย์และเอาเชื้อในมนุษย์ กลับใส่เข้าไปในสัตว์ป่าเกิดผสมรวมกันเป็นเชื้อใหม่
ในมนุษย์ที่ติดเชื้อเกิดโรคไปแล้ว ปัจจุบันมีไม่ต่ำกว่าครึ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นเชื้ออะไรโดยเฉพาะไวรัส
ดังนั้นการได้มาถึงสาเหตุของโรคถึงชนิดของเชื้อในคนที่เกิดโรคแล้วเป็นเรื่องสำคัญที่สุด รู้เร็วรักษาเร็วช่วยชีวิตและกันไม่ให้เกิดระบาดในวงกว้าง
และแน่นอนต้องทำให้โรงพยาบาลเป็นโรงพยาบาลร้าง ไอซียูเงียบเหงา ศูนย์หัวใจศูนย์ล้างไตเจ๊งกันระนาว นั่นหมายถึงสุขภาพของมนุษย์คนไทยถึงจุดที่สามารถปกป้องตนเองได้จากโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อแล้ว
ความฝันหลังจากดูคนไข้เสร็จ วันที่ 11 สิงหาคม 2023.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พยากรณ์ 10 วันล่วงหน้า ตั้งแต่ 18 พ.ย. อากาศเริ่มเย็นลงอีกครั้ง
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 15 -24 พ.ย. 67
กรมอุตฯ ประกาศเตือนพายุ 'โทราจี' ฉบับสุดท้าย
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “โทราจี” ฉบับที่ 10 โดยมีใจความว่า
อุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง 31 จังหวัด 'เหนือ-อีสาน' อุณหภูมิสูงขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบนมีฝน/ฝนฟ้าคะนอง