หมอธีระ เผยข้อมูลวัคซีนโควิดใหม่ 'Bivalent' ลดการรักษาตัวใน รพ. ถึง 81%

10 ม.ค.66 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 191,994 คน ตายเพิ่ม 955 คน รวมแล้วติดไป 668,843,970 คน เสียชีวิตรวม 6,714,874 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน และฮ่องกง

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 89.49 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 89.31

…การเสียชีวิตจากโควิด-19

ประมาณวันนี้ เมื่อ 3 ปีก่อน มีรายงานคนเสียชีวิตรายแรกจากโควิด-19 ที่จีน

ผ่านมาจวบจนถึงปัจจุบัน ทั่วโลกมีคนเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 6.7 ล้านคนในระบบรายงาน

แต่ในความเป็นจริง หลายฝ่ายย่อมตระหนักดีว่า จำนวนเสียชีวิตที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะมากกว่าตัวเลขในระบบรายงานอย่างมาก
แม้แต่ทีมงานจากองค์การอนามัยโลก ก็ออกรายงานวิชาการ เผยแพร่ในวารสารระดับโลกอย่าง Nature เมื่อเดือนธันวาคมปี 2565 ที่ผ่านมา โดยนำเสนอข้อมูลว่า จำนวนเสียชีวิตส่วนเกินที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในแต่ละประเทศทั่วโลกนั้นสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาก่อนมีการระบาดอย่างชัดเจน มากน้อยแตกต่างกันไป

ทั้งนี้จากปีพ.ศ.2563-2564 หรือช่วงสองปีแรกของการระบาดนั้น ประเมินว่ามีคนที่ติดเชื้อแล้วเสียชีวิตไปมากกว่าที่อยู่ในระบบรายงาน (5.4 ล้านคน) อย่างน้อย 2.74 เท่า หรืออย่างน้อยราว 15 ล้านคน

…เฉกเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ไทยเรานั้น หากดูข้อมูลจาก Ourworldindata จะพบว่ามีจำนวนการเสียชีวิตส่วนเกิน (excess death) ต่อประชากร สูงกว่าหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาซึ่งเป็นยุค Omicron ระบาด

ข้อมูลข้างต้น สะท้อนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ควรประมาท เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของตนเองและครอบครัว

…อัพเดตความรู้วัคซีนโควิด-19 ชนิด Bivalent

ล่าสุด Arbel R และคณะจากประเทศอิสราเอล เผยแพร่ผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนชนิด Bivalent
ศึกษาในประชากรสูงอายุ ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จำนวนรวม 622,701 คน โดยเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้รับวัคซีน Bivalent จำนวน 85,314 คน และกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน Bivalent จำนวน 537,387 คน

สาระสำคัญ พบว่า วัคซีน Bivalent ช่วยลดความเสี่ยงที่จะป่วยจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 81% และลดความเสี่ยงเสียชีวิต 86% ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ติดตามผล

…ผลการวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นประโยชน์ในการใช้วัคซีน Bivalent สอดคล้องกับหลายการศึกษาก่อนหน้านี้

การอัพเดตความรู้อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เรารู้เท่าทันสถานการณ์รอบตัว และสามารถนำมาใช้ประเมินเราเองได้ว่า ณ จุดนี้ เราเป็นเช่นไร มีความเข้มแข็ง พร้อมรับมือกับภัยคุกคามจากไวรัสที่พัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ ได้หรือไม่

อาวุธที่มี ทั้งยาที่ใช้รักษา และวัคซีนที่ใช้ป้องกัน มีเพียงพอ ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของไวรัสมากน้อยเพียงใด และที่สำคัญคือ เข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและทันเวลาหรือเปล่า

คำถามข้างต้นนั้นสำคัญยิ่ง ท่ามกลางการเหยียบคันเร่งเศรษฐกิจ อ้าแขนรับการเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่เพิ่มความเสี่ยงในการใช้ชีวิตประจำวัน

…ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใช้ความรู้ที่ถูกต้องในการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติ ไม่ประมาท

ไม่ควรหลงเชื่อคำยุยงด้วยความเชื่องมงายที่จะให้เลิกใส่หน้ากาก ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะสุดท้าย ยามแจ็คพอตเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือสูญเสีย คนที่เผชิญกับความทุกข์คือคนที่หลงเชื่อจนเกิดความเสี่ยงต่อตนเองและครอบครัว

การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ระหว่างทำงาน เรียน หรือเดินทางท่องเที่ยว เป็นหัวใจสำคัญยิ่ง ที่จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
…ป้องกันตนเองให้ดีนะครับ…

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

‘หมอยง’ สะท้อนความรู้สึกโควิด-19 ปีที่ 2 'ยุ่งเหยิง-ดราม่าวัคซีน-เซียนคีย์บอร์ด'

หลังการระบาดใหญ่ทั่วโลก ในปีแรก ทุกคนมุ่งหวัง ที่จะยุติการระบาดด้วยวัคซีน จึงมีการผลิตคิดค้นวัคซีนกันมากมาย มากกว่า 10 platform

'คารม' บอกรัฐบาลเฝ้าระวังโรคไอกรนใกล้ชิดผู้ปกครองไม่ต้องห่วง

'คารม' เผยรัฐบาลร่วมบูรณาการเฝ้าระวังโรคไอกรนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในโรงเรียน เน้นย้ำเฝ้าระวัง ติดตามอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่ระบาด ขอผู้ปกครองอย่าเป็นกังวล