13 มิ.ย. 2565 – ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กลไกที่จะเกิดอาการทางจิตของกัญชา
อาการทางจิตประสาทที่เกิดเนื่องจากการใช้กัญชาเป็นที่ทราบทั่วกัน และจนกระทั่งเป็นหัวข้อของการประชุมระดับประเทศ ของนักวิทยาศาสตร์ทางสมองของสหรัฐอเมริกา ร่วมกับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในปี 2016 จัดโดย New York Academy of Science
และหลังจากนั้น มีการประมวลข้อมูลและหลักฐานรวมกระทั่งถึงการพิสูจน์เชื่อมโยงกลไกที่จะเกิดมีอาการทางจิต อันประกอบไปด้วย บุคคลนั้นๆ จะมีสภาวะเปราะบาง นั่นคือถูกกำหนดจากรหัสพันธุกรรม นอกจากนั้นยังสามารถอธิบายได้จากผลกระทบจากจุดประสงค์ของการใช้เพื่อการเสพสนุกเฮฮาอย่างเดียวโดยใช้ปริมาณสูง
ในส่วนของรหัสพันธุกรรมนั้น ใช้ประโยชน์จากการที่มีการรวบรวมรหัสพันธุกรรมของคนเป็น 100,000 คน ในช่วงเวลาเป็น 10 ปีที่ผ่านมาและในการศึกษารหัสพันธุกรรมนั้น จะมีรายละเอียดของบุคคลแต่ละคน วิธีการดำเนินชีวิต ประวัติการเจ็บป่วย อาหารการกิน การใช้ยาต่างๆ รวมกระทั่งถึงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ใช้สารเสพติด และการใช้กัญชา เป็นต้น
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หลอมรวมกันเป็น
…“บิ๊กดาต้า” ในการเชื่อมโยงดัชนีชี้วัดทางสุขภาพ ทางพันธุกรรม เข้ากับการศึกษาเชิงสมอง ในเรื่องของหน้าที่ ตำแหน่งที่แปรปรวน ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ รวมกระทั่งถึงภาพคอมพิวเตอร์สมองแบบพิเศษ เป็นต้น
ผลจากการศึกษาสามารถสรุปได้โดยสังเขปถึงอาการทางจิตที่เกิดเนื่องจากกัญชา จะประกอบไปด้วย
1.จะเกิดจากวัตถุประสงค์ที่ใช้เพื่อเฮฮา ดังนั้นปริมาณของการเสพ จะมีสาร THC เป็นจำนวนมากในครั้งเดียว
2.คนที่จะมีอาการทางจิตนั้นจะใช้เสพตามข้อ 1 และจะมีลักษณะถูกกำหนดโดยรหัสพันธุกรรมจำเพาะ
ก.โดยแบ่งออกเป็นเมื่อใช้แล้วจะถูกกำหนดให้ชอบและใช้บ่อยจนกระทั่งติด และเกิดมีการเปลี่ยนแปลงในสมองเฉพาะส่วนและในจำนวนนี้เมื่อใช้ต่อจะเกิดมีอาการทางจิตขึ้น หลักฐานทางสมองและมีรหัสพันธุกรรมเหล่านี้ค้นพบตั้งแต่ปี 2018
ข.สำหรับคนที่ไม่เคยใช้กัญชาเลยแต่ใช้ครั้งแรกและเจอกับ THC ในปริมาณสูงมาก เช่น 10 มิลลิกรัมหรือมากกว่าในครั้งเดียวและเกิดมีอาการทางจิตวิปลาสเกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นจากการที่มีรหัสพันธุกรรมที่หายากที่รายงานในปี 2019 AKT1 ยีน
ทั้งนี้ อาการทางจิตนั้นจะหายไปเองโดยที่ไม่ต้องรักษา และถือเป็นข้อห้ามไม่ให้ใช้กัญชาแม้ว่าจะเป็นทางการแพทย์ก็ตามที่มี THC ยกเว้นเสียแต่ว่าใช้ CBD dominant กล่าวคือมีอัตราส่วนระหว่าง CBD : THC มากกว่า 20 : 1 ในภาวะเช่นโรคทางสมองบางชนิดที่ดื้อต่อยาปัจจุบันและใช้ CBD dominant ยังควบคุมอาการได้ไม่ดี เช่นโรคลมชักที่ดื้อยาอาจค่อยๆปรับเปลี่ยนเป็น CBD rich คือ อัตราส่วนอยู่ที่ 10 : 1
ทั้งนี้ คำว่า CBD นั้นจะไม่ใช่ CBD เดี่ยวๆ ตัวเดียว แต่เป็น CBD และอนุพันธ์อื่นๆ จึงทำให้ได้ผลโดยไม่ต้องใช้ CBD ปริมาณสูงตามตำราต่างประเทศในสมัยก่อนซึ่งขณะนี้มีการปรับเปลี่ยนกันหมดแล้ว
ค.อาการทางจิตที่เกิดขึ้นหลังจากเสพโดยต้องการให้สนุกเฮฮา ตามข้อ 1 แต่เสพเกินเลยไปจนกระทั่งเมา (intoxication) จะมีอาการทางจิตได้สองแบบคือ
ค.1 เป็นอาการที่ไม่ใช่อาการทางจิตจริง และเป็นความแปรปรวนของการรับภาพ แปลภาพที่เห็นและมิติของภาพที่เห็น ทำให้บิดโย้ หรือมีความกว้างยาวและลึกแปรปรวน รวมทั้งสีผิดเพี้ยนไป ซึ่งเป็นผลจากความแปรปรวนของก้านสมองส่วนบนไปสู่สมองส่วนท้ายทอยซึ่งรับและแปลภาพที่เห็น โดยหายไปเองเมื่อหายเมา
ค.2 เป็นอาการทางจิตจริง เรียกว่าเป็น psychotic like experience และเกิดขึ้นจากการที่มีรหัสพันธุกรรมจำเพาะเช่นกัน แต่ต้องเสพกัญชาด้วยวัตถุประสงค์ตามข้อ 1 และใช้บ่อยและจนกระทั่งเกิดวิปลาสชั่วขณะได้ และหายไปได้เอง รหัสพันธุกรรมดังกล่าวสามารถอธิบายได้ 69.2 ถึง 84.1% โดยมีการรายงานในปี 2018 (คนละรายงานจากข้างต้น)
ลักษณะตามข้อนี้จะมีลักษณะอาการทางจิตอยู่นานกว่าแม้ว่าจะหายเมาแล้วก็ตาม โดยที่มีการทรงตัวเป็นปกติแล้วเป็นต้น ซึ่งในกรณีของข้อ ค.2 เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้กัญชาทางการแพทย์ให้ปฏิบัติตามข้อ ข.
อย่างไรก็ตาม อาการติดกัญชา โดยที่จะมีอาการทางจิตหรือไม่มีก็ตาม สามารถหยุดกัญชาได้ทันที โดยที่จะกลับเป็นปกติได้ในระยะเวลาประมาณ 28 วัน ทั้งนี้ อาจจะช่วยให้การติดนั้นดีขึ้นเร็ว ด้วยการใช้ CBD และอนุพันธ์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาโรคจิตหรือยาสงบประสาทอื่นๆ
ในกรณีที่ใช้ส่วนอื่นที่ไม่ใช่ช่อดอกมาใช้ในวิถีชีวิตประจำวันและใช้ในการประกอบอาหารนั้น ปริมาณของส่วนที่จะออกฤทธิ์ทางจิตประสาทนั้นมีปริมาณน้อยมาก และเป็นที่รับทราบกันดีในผู้สูงอายุในประเทศไทยที่นำใบสดมาทำเป็นใบปั่น โดยจะร่วมหรือไม่ร่วมกับผลไม้อื่นก็ตาม
หรือทำเป็นใบแห้ง โดยจะทำให้แห้งโดยไม่ถูกความร้อนหรือจะถูกความร้อนก็ตามและนำมาบดใส่ถุงชาและดื่มเป็นน้ำชาไปตลอดทั้งวัน และรวมกระทั่งนำมาประกอบอาหาร
ทั้งนี้ “วิถีไทย” ในการใช้ใบกัญชาและส่วนอื่นที่ไม่มีช่อดอก ใส่เพื่อรสชาติของอาหารและเพื่อ “ความสุข” โดยไม่ถึงกับเมา และในครอบครัวคนไทยไม่ได้มีจุดประสงค์ให้กินอาหารแล้วเกิดเมาอาเจียนเวียนหัวบ้านหมุน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น คือทำอาหารไม่เป็น และจะผิดจุดประสงค์ของการใช้เพื่อวิถีไทยและการทำอาหารโดยสิ้นเชิง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หมอธีระวัฒน์’ แนะอาหารช่วยชีวิต นมไม่พร่องไขมันกลับดี
อาหารสุขภาพช่วยชีวิต และทำให้มนุษย์เรา ไม่ต้องเป็นหม้อยาที่โดนโยนยาเป็นกำเข้ามา และแน่นอนโด๊ปยาเป็นกำก็ไม่รอด
'หมอเดชา ศิริภัทร' ทวงสัญญา 'แอ๊ด คาราบาว' อย่าทำแบบไม่แยแสเรื่องงานที่คุยกันไว้
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ มีข่าว(ฉาว)เกี่ยวกับ คุณแอ๊ด คาราบาว (ภาพบน) ซึ่งยังไม่ตัดสินว่าร้านถูกดีฯ (
บิดสะบัดคอระวังอัมพฤกษ์! ‘หมอธีระวัฒน์’ แนะวิธีแก้เมื่อยคอด้วยตัวเองที่ถูกต้อง
เรื่องใกล้ตัวที่เป็นท่าบริหารประจำหรือที่ทำ เวลาเมื่อย หรือเป็นกระบวนการในการนวดคลายเมื่อย ดัดเส้น รวมทั้ง เป็นกรรมวิธีในการบำบัดทางกายภาพและจัดกระดูก
หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน
นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด
‘หมอธีระวัฒน์’ อธิบายชัด ภาวะที่นอนแล้วลุกขึ้น มีความดันโลหิตร่วง
การตรวจโดยให้นอน 20 นาที และค่อยๆลุกขึ้น เปรียบเทียบความดันขณะนอนและขณะลุกขึ้น
'เส้นเลือดแตกในสมอง' ทำไมพบบ่อยมากและรุนแรงขึ้น
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและสมอง และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เส้นเลือดแตกในสมอง