22 ก.พ.2565 - นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เข้าร่วมงานเสวนา Thai Politics Update: Polls, Players, Prospects ของ สถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (ISIS) คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเลือกตั้งทั่วไปและการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มีการคาดการณ์ว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้
โดยนางสาวพรรณิการ์ เชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจไม่ลอยลำเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้ง่ายดายในการเลือกตั้งครั้งหน้านัก
“ประยุทธ์บริหารประเทศมานานมาก และนานเกินไปแล้ว ประยุทธ์บริหารประเทศมา 8 ปี แล้วเป็นการบริหารประเทศมาผิดทาง ทำให้มีการทุจริตคอร์รัปชันในส่วนต่างๆ มากมาย และมีการบิดกฎหมายต่างๆ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์ นี่เป็นเหตุผลให้คนเรียกร้องการเลือกตั้งกันมากขึ้น”
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวต่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพล.อ.ประยุทธ์น่าจะจบไม่สวยนัก หากดูตามการแบ่งเขตใหม่ กรุงเทพมหานครมีถึง 33 เขต หมายความว่าใครสามารถครองพื้นที่ กทม. ได้ ก็จะได้เก้าอี้ ส.ส. ไปได้จำนวนมากพอสมควร ซึ่งพรรคพลังประชารัฐไม่น่าจะสามารถครองพื้นที่ กทม. ไปได้มาก หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใครชนะไปก็มีโอกาสสร้างโมเมนตัมส่งต่อให้ได้เก้าอี้ ส.ส. ในกทม. ด้วยซึ่งคราวนี้ก็เชื่อว่าผู้สมัครจากฟากประชาธิปไตยจะชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
“มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการเลื่อนให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อให้มีการต่อรองผลประโยชน์กันก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เราลองดูพรรคภูมิใจไทยที่จะพรรคขนาดกลางที่บอกว่าจะรวบรวมเสียงมาสนับสนุนประยุทธ์ แต่เขาอาจเปลี่ยนใจถอนตัวจากรัฐบาลก็ได้ ถ้าผู้ว่าฯ กทม. ไม่อนุมัติสัญญารถไฟฟ้า ถ้ามีการเลือกตั้งทั่วไปก่อนก็จะต่อรองกันได้ก่อน”
นอกจากนี้ การเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้งให้กลับมาใช้บัตร 2 ใบก็อาจไม่เป็นประโยชน์กับพรรคพลังประชารัฐอย่างที่ได้วางแผนไปตอนแรก เพราะปัจจุบัน พรรคพลังประชารัฐแตกออกเป็นหลายก๊กหลายเหล่า มีการแยกออกมาเป็นพรรคเล็กๆ เพราะฉะนั้น ประยุทธ์ก็จะต้องมาต่อรองผลประโยชน์กับพรรคกลางพรรคเล็กหลายทาง ถึงตอนนั้นก็ไม่แน่ใจว่าใครจะตั้งรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ไม่น่าจะมีการย้ายฝั่งมากนักในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะพรรคที่แยกออกมาเหล่านี้เป็นเพียงการแยกเพื่อต่อรองผลประโยชน์เท่านั้น
เธอ กล่าวยังกลายถึงตัวเองที่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปีว่าต้องอธิบายให้ชัดก่อนว่า นี่เป็นเพียงการแบนไม่ให้สมัครตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ เป็นเวลา 10 ปี แต่ไม่มีใครสามารถแบนพลเมืองไทยไม่ให้มีส่วนร่วมทางการเมืองได้ และการยุบพรรคอนาคตใหม่กลับยิ่งทำให้คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลเข้มแข็งขึ้น
“การยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของฝ่ายสนับสนุนประยุทธ์ เพราะยุบอนาคตใหม่แล้วยิ่งแข็งแกร่งขึ้น สมัยอนาคตใหม่เรามีเวลาก่อนเลือกตั้งแค่ 6 เดือน เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชูแกนนำของพรรคอย่างคุณธนาธร อาจารย์ปิยบุตร หรือตัวดิฉันเอง ทำให้พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่นำโดยแกนนำ ถ้าไม่ถูกยุบพรรคก็เชื่อว่าทั้งนักวิชาการ สื่อ และคนทั่วไปก็จะยังสนใจแต่แกนนำ แต่พอยุบพรรคแล้วกลายเป็นการเปิดทางให้ ส.ส. คนอื่นมีพื้นที่ให้แสดงความสามารถมากขึ้น ก็ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ทำให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ดีกว่าพรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคที่ยั่งยืนและสถาบันทางการเมืองมากขึ้น”อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าว
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวอีกว่าขณะเดียวกัน เมื่อยุบพรรคอนาคตใหม่แล้ว ในช่วงที่ผ่าน คณะก้าวหน้าก็ได้มีโอกาสมาโฟกัสที่การเมืองท้องถิ่นมากขึ้น มีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง อบต. อบจ. และเป็นครั้งแรกที่มีการส่งผู้สมัครทั่วประเทศภายใต้ชื่อกลุ่มเดียวกัน คือ คณะก้าวหน้า หาเสียงด้วยนโยบายหลักๆ เหมือนกันทั่วประเทศ ซึ่งก็ทำให้ได้เรียนรู้มากมายจากการเลือกตั้งท้องถิ่นช่วงที่ผ่านมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล
ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'ณัฐวุฒิ' ป้อง 'ทักษิณ' สวน 'ธนาธร' ปม 112
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมเป็นคนกำกับเวทีปราศรัยที่อุดร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ยืนอยู่ใกล้ๆ