เปิดเบื้องลึกวิบากกรรม 'ทักษิณ' ทำบุญใหญ่ประเทศ ประหนึ่งทำตัวเสมอพระเจ้าแผ่นดิน

ภาพ 10 เม.ย.2548 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น นั่งเป็นประธานในพิธีศาสนสัมพันธ์สมานฉันท์แห่งชาติ หรือ "ทำบุญประเทศ" ภายในโบสถ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว

13 ก.พ.2565 - นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความเรื่อง หลังม่านการเมืองไทย ตอนที่ 22 ทำบุญใหญ่ประเทศ เบื้องหลังปฐมวิบากกรรมของทักษิณสู่กับดัก ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ประเทศไทยทำบุญใหญ่ประเทศเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2548 ในช่วงรอยต่อที่พระอาทิตย์โคจรเป็นสงกรานต์ปีสู่มหาสงกรานต์ โดยก่อนหน้านั้นคุณทักษิณได้รับพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นอันมาก ทำการสิ่งใดก็ได้รับพระมหากรุณาสนับสนุนช่วยเหลือ และคุณทักษิณก็มีน้ำใจจงรักภักดี ทำการถวายสนองพระบรมราชปณิธานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการจัดงานใหญ่เนื่องในมหามงคลสมัยพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี แม้กระทั่งยามต้องคดีซุกหุ้น พระอริยเจ้า คือ หลวงตาพระมหาบัว ก็มีเมตตาระดมสานุศิษย์ช่วยปกป้องคุ้มครองจนผ่านพ้นเพทภัยมาได้

2. เหตุที่ต้องทำบุญใหญ่ประเทศ ก็เพราะบรรดาโหรานุโหรทุกฝ่ายตรวจพบชะตาเมืองตรงกันว่า แผ่นดินจะประสบวิกฤติใหญ่หลวง บ้านเมืองแตกแยกระส่ำระสายจะบาดเจ็บล้มตายเดือดร้อนกันเป็นอันมาก จะเกิดความเปลี่ยนแปลงหลายประการในบ้านเมืองเป็นเวลาถึง20ปี !!

ผมก็เป็นคนหนึ่งละที่เสนอรายงานเรื่องนี้และในที่สุดรัฐบาลก็กำหนดการทำบุญใหญ่ประเทศขึ้น เพื่อหวังป้องกันวิกฤติร้ายแรงทั้งหลายเหล่านั้น คุณทักษิณซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ตั้งคณะกรรมการจัดงานทำบุญใหญ่ประเทศขึ้นโดยมีลุงจิ๋วเป็นประธาน ทั้งนี้ก็เพราะคุณทักษิณเห็นว่าลุงจิ๋วเป็นผู้ใหญ่ในคณะรัฐมนตรี รู้การแผ่นดินหนักเบาตื้นลึกหนาบาง รอบรู้ราชนิติและเป็นคนในวังบูรพามาแต่ก่อนและรู้จักบรรดาผู้ทรงปัญญาวิชาคุณเป็นอันมาก

ลุงจิ๋วทำหน้าที่ประธานที่ประชุมคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยข้าราชการผู้ใหญ่ทุกภาคส่วน ซึ่งทุกคนก็ตั้งอกตั้งใจด้วยความบริสุทธิ์ใจหวังให้ประเทศมีความสวัสดี มีการประชุมหลายครั้งซึ่งสรุปความได้ว่างานทำบุญใหญ่ประเทศครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็น 2 พิธีการ คือ พิธีหลวงและพิธีราษฎร์

สำหรับพิธีหลวงนั้นจะทำที่โบสถ์วัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเป็นองค์ประธาน ซึ่งเป็นพิธีขององค์พระประมุขของแผ่นดินในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศ โดยมีเชื้อพระวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่พร้อมผู้แทนประชาชนที่สำคัญเข้าร่วมพิธี จะมีการเจริญมหาราชปริต พร้อมด้วยธัมมจักรกัปปวัตนสูตร อาทิตตปริยายสูตร และพรหมชาลสูตร รัตนสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรใหญ่ที่แสดงพระธรรมสำคัญ เพื่อความเป็นมงคลและความสวัสดีของประเทศชาติและราษฎร

ส่วนพิธีราษฎร์ จัดที่ท้องสนามหลวงและศาลาว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดพร้อมกัน เป็นพิธีสวดมนต์ของประชาชนไม่ยาวนัก โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเสร็จงานจากพิธีหลวงแล้วก็จะมาเป็นประธานพิธีราษฎร์ที่ท้องสนามหลวง เสร็จพิธีแล้วก็จะมีการจุดพลุให้เป็นที่เบิกบานใจของคนทั้งหลาย

ลุงจิ๋วแกเป็นคนรู้ราชนิติ รู้การแผ่นดิน และประสานงานอยู่กับฝ่ายราชสำนักเป็นประจำ ดังนั้น ความคิดเห็นและการประชุมแต่ละครั้ง ลุงจิ๋วก็ทำเรื่องถวายรายงานเป็นการภายในเป็นขั้นเป็นตอน จนกระทั่งได้ข้อยุติความทั้งหลายที่เตรียมการได้ทราบถึงเบื้องพระยุคลบาทตลอด แบบแผนพิธีการต่าง ๆ จึงดำเนินไปอย่างราบรื่น

3. คณะกรรมการประชุมเกือบจะครั้งสุดท้ายซึ่งเหลือเพียงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เกิดเหตุทางการเมืองขึ้น เพราะไม่รู้ว่ามีผีสางตนใดสิงใจคุณทักษิณอยู่ ๆ ก็ปลดลุงจิ๋วออกจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมและปลดป๋าเหนาะออกจากประธานวิป และในเรื่องนี้ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้น

คณะกรรมการชุดใหม่ท่านจะคิดอ่านประการใดไม่อาจทราบเบื้องลึกเบื้องหลังได้ และในที่สุดได้สรุปการพิธีใหม่โดยยกเลิกแบบแผนพิธีที่คณะกรรมการชุดลุงจิ๋วได้ทำไว้ทั้งหมด และกำหนดให้เหลือพิธีการเดียว คือ พิธีราษฎร์ที่ท้องสนามหลวง แต่ให้คุณทักษิณเข้าไปทำพิธีสวดมนต์ถวายสักการะพระแก้วมรกตในพระบรมมหาราชวังก่อน มีคนเป็นผู้แทนคณะกรรมการเป็นเจ้ากี้เจ้าการไปสั่งเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง โดยอ้างฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้บังคับบัญชาสำนักพระราชวังตามกฎหมายในขณะนั้นและกำหนดการแต่งกายของคุณทักษิณ และคณะที่เข้าไปร่วมทำพิธีให้แต่งชุดลำลองที่ทำกันทั้งหมดนั้นไม่เป็นไปตามหลักไตรเพท ในส่วนที่เป็นแบบพิธีกรรมและไม่เป็นไปตามแบบแผนพิธีพุทธมนต์ในพระพุทธศาสนาเลย ประหนึ่งคนไม่รู้ความ คิดอ่านทำการหรือถ้าเป็นคนรู้ความก็ถือว่าเป็นการวางหมากวางกลที่พิลึกพิกลอยู่ แต่ก็ไม่มีใครทราบกำหนดแบบแผนพิธีเช่นนั้น

ในขณะที่การสั่งการเจ้าหน้าที่กองพิธีการสำนักพระราชวังที่ผิดเพี้ยนวิปริตประหนึ่งนายกรัฐมนตรีทำตัวเสมอด้วยพระเจ้าแผ่นดินก็ไม่เป็นที่ต้องใจของชาวการราชพิธี ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นข่าวคราวพูดคุยกันในพระราชสำนัก ซึ่งใคร ๆ ได้ยินได้ฟังได้รู้ก็ไม่มีใครที่จะเห็นด้วยหรือต้องใจเพราะโบสถ์วัดพระแก้วนั้นไม่ใช่วัดวาอารามของชาวบ้านแต่ถือเป็นห้องพระของพระเจ้าอยู่หัวเป็นวัดพิเศษของพระราชจักรีวงศ์ที่มีแต่พุทธาวาสเท่านั้น ในช่วงนั้นก็มีเสียงติเตียนว่ารัฐบาลล่วงพระราชอำนาจใช้โบสถ์วัดพระแก้วโดยไม่ขอรับพระบรมราชาญาต ก็มีคนระดับรองนายกรัฐมนตรีออกมาเถียงฉอดๆว่าได้ขอรับพระบรมราชานุญาตแล้ว

ครั้นแอบเข้าไปดูหนังสือที่อ้างนั้น ก็ปรากฏว่าลงวันที่ 8 เมษายน 48 ในขณะที่วันจัดงาน 10 เมษายน 48 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่เตรียมการกันมาก่อนหน้านั้น เป็นการทำเอาเองตามอำเภอใจ ไม่ได้ขอรับพระบรมราชานุญาต และการมีหนังสือ ลักษณะนี้ก็เห็นได้ว่าทำย้อนหลัง และไม่มีทางที่จะถึงสำนักราชเลขาธิการ ก่อนการจัดงานคือวันที่ 10 เมษายนได้เลย

4. คนทั้งหลายได้ทราบความเรื่องนี้ก็จากการถ่ายทอดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจที่รัฐบาลได้จัดขึ้น ได้เห็นภาพนายกรัฐมนตรีใส่เสื้อลำลองเอวบ๊อบเข้าไปนั่งเป็นประธานพิธีในโบสถ์วัดพระแก้วและมาจัดพิธีการที่ท้องสนามหลวงเป็นการวิปริตอาเพท ทั้งสื่อและประชาชนก็รุมกันด่าประนามคุณทักษิณกันเป็นการใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าคุณทักษิณเองก็คงตกใจที่เห็นปฏิกิริยาเช่นนั้น เพราะแบบแผนการทำพิธีนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการเมื่อออกกำหนดการเสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีก็ต้องไปตามกำหนดการนั้น เขาเตรียมการกันอย่างไรคุณทักษิณแกคงได้รับรู้เมื่อมีหมายกำหนดการแล้วตามปกติ

นับแต่บัดนั้น เสียงนินทาว่าขานว่าคุณทักษิณกำเริบเหลิงในอำนาจตั้งตนเสมอพระมหากษัตริย์ก็ซุบซิบลือกันกระฉ่อนแผ่นดิน ประกอบทั้งบรรดาลิ่วล้อบริวารที่ประจบสอพลอก็เอาใจตอบโต้แก้ต่างให้คุณทักษิณแบบบ้า ๆ บอ ๆ ถึงขนาดเถียงกันว่าที่ทำนั้นถูกแล้วชอบแล้ว จึงลามปามก้าวล่วงไปกระทบสถาบันก็ยิ่งไปกันใหญ่

ผมทราบข่าวก็ตกใจเหมือนกัน และโดยไมตรีที่มีกันอยู่ก็ได้บอกญาติผู้ใหญ่ของคุณทักษิณว่าดูสถานการณ์แล้วคุณทักษิณน่าจะถูกใครวางยาเป็นแม่นมั่น อย่าไปหลงเชื่อพวกสอพลอ ให้รีบทำเรื่องขอรับพระราชทานอภัยโทษและกราบบังคมทูลความทั้งหลายให้ทรงทราบตามความเป็นจริงก็คงได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ญาติผู้ใหญ่ของคุณทักษิณก็บอกผมว่าจะบอกไปให้ แต่เขาคงไม่เอากับผมหรอก เพราะเป็นพี่น้องคนเดียวที่เขาไม่นับถือ เพราะมัวแต่ออกความเห็นขัดขวางไปทุกเรื่องราว เรื่องก็เป็นไปตามกรรม

5.เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเบื้องหลังการเมืองไทยที่เป็นปฐมเหตุให้คุณทักษิณถูกเกลียดชังจากคนจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และบานปลายเถิดเทิงจนในที่สุดก็ทำให้คุณทักษิณถูกยึดอำนาจ

มาถึงวันนี้คุณทักษิณจะนึกคิดได้หรือยังว่าใครคือเจ้ากี้เจ้าการทำการเรื่องนี้? ก็คงจะรู้ว่ามีใครบ้าง และอาจพิจารณาได้ด้วยว่าคนผู้นี้รู้การแผ่นดินและราชนิติรวมทั้งพิธีการทั้งหลาย หรือเป็นคนไร้เดียงสา เพราะถ้าหากเป็นผู้ไร้เดียงสาก็ต้องโทษความโง่เขลาของคนไร้เดียงสานั้น และต้องโทษตัวเองที่ตาบอดไปหลงใช้คนไร้เดียงสา แต่ถ้าไม่ใช่ก็ย่อมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!!และอาจจะรู้ได้ว่าไอ้โม่งรายนี้เป็นใครกันแน่????

ส่วนชาวบ้านอย่างเราท่านก็รู้เห็นแต่เหตุการณ์ที่ปรากฎ แต่เบื้องลึกเบื้องลับเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่นั้นยากที่จะล่วงรู้ ดังนั้น หลายครั้งประชาชนจึงตกเป็นเหยื่อให้แก่ความอำมหิตของพวกหน้าเนื้อใจเสือ! และผลจากการทำพิธีผิดแบบผิดแผน โดยเถยจิตคิดชั่วของคนบางพวกจึงทำให้การทำบุญประเทศครั้งนั้นไม่สัมฤทธิ์ผลให้บังเกิดเป็นความสวัสดีแก่บ้านเมือง และเกิดเป็นความขัดแย้งต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ใกล้ 20 ปีเต็มทีแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โพลระบุชัด ประชาชนไม่เชื่อ 'อุ๊งอิ๊งค์' จะบริหารประเทศโดยปราศจาก 'ทักษิณ'

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “บทบาทอดีตนายกฯ ทักษิณ ในรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค

'ทักษิณ' แถลงนโยบายรัฐบาล การเมือง-ทุนปึ้ก-ประชาชนอยู่ไหน?

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา เสมือนเป็นภาพชัยชนะของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ นับตั้งแต่บินกลับมารับโทษในไทยเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่ 22 ส.ค. 2566

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ