10 ก.พ.2565 - พรรคเพื่อไทย เดินหน้าชูภาพลักษณ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพร้อมๆกับเดินเกมบีบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยุบสภา
ล่าสุดเฟซบุ๊กเพจพรรคเพื่อไทย โพสต์รูปภาพนายทักษิณ ครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นั่งพื้นร่วมกินข้าวกับกลุ่มผู้ชุมนุม "สมัชชาคนจน" ที่ปักหลักชุมนุมเรียกร้องกรณีเขื่อนปากมูล บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2544
พรรคเพื่อไทย ระบุในเฟซบุ๊กว่า ประเดิมภารกิจแรกหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ของประเทศไทย ‘ทักษิณ ชินวัตร’ นำคณะทำงานร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับ ‘กลุ่มสมัชชาคนจน’ ประชาชนที่มาปักหลักชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่และประชาชนได้ร่วมหารือกัน คือ ปัญหาที่ยื้อเยื้อมาอย่างยาวนานหลายรัฐบาลแต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ทั้งเรื่องเขื่อน ป่าไม้และที่ดิน อุทยานแห่งชาติประกาศทับที่ทำกินของราษฎร แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษและเคมีของโรงงานจนเจ็บป่วย ประมงพื้นบ้าน เกษตรกรรมทางเลือก สลัม และแรงงานไทยเกรียง โดยมี วัชรี เผ่าเหลืองทอง ชัยพันธ์ ประภาสะวัด วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ไพจิตร ศิลารักษ์ และ ฉลาด ยงพฤกษา เป็นตัวแทนผู้ชุมนุมในการหารือครั้งนี้
#ณวันนั้น ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เตรียมสำรับอาหารมารับประทานร่วมกัน โดยฝั่งนายกฯ ทักษิณ ได้เตรียมข้าวเหนียว ไก่ย่าง และส้มตำ ขณะที่ฝั่งสมัชชาคนจน ได้ทำอาหารรอต้อนรับ ทั้งแจ่วบอง ปลาป่น แกงอ่อม ปลาทอด ปลาร้าสับ และไข่พะโล้
การตั้งวงรับประทานอาหารเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทั้งสองฝ่ายต่างพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย โดยหนังสือพิมพ์มติชนรายงานเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ‘บรรยากาศเป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่ก็ดูอบอุ่นไม่เบา’
หลังรับฟังปัญหาจากประชาชนทั้งหมดและรับประทานอาหารกันจนอิ่มท้องเป็นที่เรียบร้อย นายกฯ ทักษิณ ได้กล่าวว่า
“นโยบายของเรามองการแก้ไขปัญหาแบบมหภาค เมื่อทำได้แล้วจะไปช่วยแก้เรื่องจุลภาคอีกเยอะ ดังนั้นที่จะทำหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน พักชำระหนี้เกษตรกร เพื่อต้องการให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ สร้างอาชีพให้คนมีรายได้ ปรับโครงสร้างสินค้าเกษตรกรให้เข้าสู่ระบบ ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน ป่าไม้ มีผลกระทบจากภาคราชการรอบรู้ไม่ทันสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงขาดความรู้ความเข้าใจข้อเท็จจริงและเขียนแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยยึดทฤษฏีเท่านั้น”
ก่อนจากกันในครั้งนั้น นายกฯ ทักษิณ ได้ทักทายและพูดคุยกับชาวบ้านที่มาปักหลักชุมนุมตลอดทาง พร้อมให้คำมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาที่รับฟังจากสมัชชาคนจนในวันนั้นอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับแนวทางต่อไปใน ณ วันนั้น ทั้งสองฝ่ายได้มีการนัดหมายการหารือนอกรอบร่วมกันในอีก 2 วันหลังจากนั้น โดยมี ภูมิธรรม เวชชัย ว่าที่รองเลขาธิการนายกฯ ในขณะนั้น รวมทั้งคณะนักวิชการของพรรคไทยรักไทยเป็นตัวแทนในการรับฟังปัญหาและข้อเสนอจากประชาชน
นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้จัดตั้งคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหาฯ รวมถึงนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่เขื่อนปากมูลเพื่อศึกษาผลกระทบด้วยตนเอง
สุดท้ายแล้ว แม้การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลทักษิณทั้ง 2 สมัย จะไม่ลุล่วงสำเร็จตามเป้าประสงค์ของกลุ่มสมัชชาคนจนในทุกข้อเรียกร้อง แต่หลังการพบเจอกันครั้งนั้น รัฐบาลไทยรักไทยได้พยายามหาหนทางแก้ไขปัญหาให้พี่น้องสมัชชาคนจนในทุกด้านอย่างเต็มที่
โดยปรากฎให้เห็นตลอดเวลาการทำงานของรัฐบาลของนายกฯ ที่ได้ออกนโยบายแก้ไขความยากจน สร้างโอกาสและความเท่าเทียมเพื่อพี่น้องประชาชน พร้อมผลักดันนโยบายเพื่อประชาชนจำนวนมาก อาทิเช่น กองทุนหมู่บ้าน การพักชำระหนี้เกษตรกร หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP เป็นต้น (อ่านต้นฉบับ)
อย่างไรก็ตามข้อมูลใน "ประชาไท" ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของกลุ่มสมัชชาคน ได้เคยเสนอรายงานพิเศษเรื่อง "24 ปีปัญหา - 13 นายกฯ - 16 รัฐบาล มหากาพย์รากหญ้า ปากมูน" โดยประมวลลำดับเหตุการณ์ของกลุ่มสมัชชาคนจนหรือ "ชาวบ้านปากมูน" และการดำเนินการแก้ปัญหา ช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ(1) ระหว่าง 9 ก.พ.2544 - 11 มี.ค.2548 ดังนี้
มติ ครม. 17 เม.ย.2544 ให้เปิดประตูเขื่อนปากมูล 8 บาน เป็นระยะเวลา 4 เดือน (พ.ค. – ส.ค.) ต่อมาได้ขยายระยะเวลาการเปิดเขื่อนเป็น 1 ปี เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2544 และให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีทำการศึกษา ซึ่งก็ได้เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการเปิดเขื่อนตลอดปี
อย่างไรก็ตาม ต่อมา ครม.มีมติ 1 ต.ค.2545 ให้เปิดเขื่อนทุกปีเป็นระยะ 4 เดือน (1 ก.ค.ถึง 31 ต.ค.)
24 ธ.ค.2545 พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่เขื่อนปากมูล จากนั้นมีการตั้งทีมทำงาน 4 ชุด เพื่อสำรวจและสอบถามความเห็นของชาวบ้านริมแม่น้ำมูล ด้านสมัชชาคนจนออกแถลงการณ์ประณามคำสั่งดังกล่าว ระบุว่านายกฯ ไม่ยอมตัดสินใจ และสร้างกระบวนการใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยชาวบ้านมีส่วนร่วมเพียงในกระบวนการที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น
24 มิ.ย.2546 ครม.เห็นชอบการลงนามของกรมประมงและกระทรวงพลังงาน (กฟผ.) ในบันทึกความร่วมมือระหว่างกันเกี่ยวกับภารกิจโครงการชลประทานปากมูล รวมทั้งการกำหนดกรอบแผนปฏิบัติการและงบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาการประมงในลำน้ำมูนตอนล่าง ประจำปี พ.ศ.2546 เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 155,440 ไร่ มีระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 803.20 ล้านบาท
21 ม.ค. 2546 ชาวบ้านปากมูนชุมนุมและเปิด ‘หมู่บ้านคนจนแม่มูนมั่นยืน’ ที่ข้างทำเนียบรัฐบาล ด้านนายกฯ ประกาศกร้าวว่า สร้างได้ก็รื้อได้ ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นผู้ว่าฯ ขณะนั้นประกาศจะใช้กฎหมายเด็ดขาด ตัดน้ำ ไฟ และต่อมามีการนำกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ 1,000 คนเข้ารื้อย้ายเพิงพักและข้าวของของผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2546
8 มิ.ย.2547 มติ ครม.ให้เปิดเขื่อนตั้งแต่เดือน พ.ค.หรือ มิ.ย.เป็นต้นไปจนครบ 4 เดือน โดยให้กระทรวงพลังงานรับไปประสาน ให้ กฟผ.พิจารณากำหนดวันให้เหมาะสม สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และเป็นที่ยอมรับร่วมกันของชุมชนในพื้นที่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อยู่เหนือการควบคุม พท.โยนบาปปมแก้ ‘รธน.’ ‘แม้ว-เนวิน’ คุมการเมือง
"พท." เล็งยื่นร่าง กม.นิรโทษกรรมเดือน ธ.ค.นี้ ยันไม่ล้างผิด ม.112-คดีทุจริต "นพดล" รับ กม.ประชามติงานยาก ต้องโน้มน้าว สว.เห็นตามเกณฑ์ชั้นเดียว แย้มใช้เกณฑ์ 20%
'ดร.ณัฏฐ์' นักกฎหมายมหาชน ชำแหละทุกแง่มุม ผลกระทบคดีตากใบขาดอายุความ
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงคดีตากใบที่ไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ ภายในอายุความ 20 ปี ทำ
วัดใจแพทองธาร 'วรงค์' ส่งตัวแทนบุกทำเนียบฯ จี้ 'นายกฯ' นำ 'พ่อนายกฯ' เข้าคุก
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี เปิดเผยว่าตนได้มอบตัวแทน ไปยื่นหนังสือเรื่อง "ขอติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย" ถึง
ศาลรธน. ถามอัยการสูงสุด ปมคำร้องทักษิณครอบงำเพื่อไทย ขีดเส้นตอบกลับใน 15 วัน
ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาในคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ
‘นิพิฏฐ์’ ห่วง ปชป. โดนข้อหาทักษิณครอบงำพรรค มืดแปดด้านไร้นักกฎหมายสู้คดี
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “การเมือง-การศาสนา” มีเนื้อหาดังนี้
ควันออกหู! แตะนายใหญ่ครอบงำพรรค หนักถึงขั้นเศรษฐกิจประเทศพังแน่
“ภูมิธรรม” มองระบบเปิดช่องให้คนร้องยุบพรรค ปม “ทักษิณ” ครอบงำ กระทบความเชื่อมั่นเศรษฐกิจประเทศพัง พร้อมแก้ต่างหาก กกต. เรียกแจง