03 เม.ย.2568 – อดีตสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 189 คนได้ร่วมลงคัดค้านร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรและร่างกฎหมายการพนันออนไลน์ โดยระบุว่า ข้าพเจ้า อดีตสมาชิกวุฒิสภา ตามรายชื่อที่ปรากฏข้างท้ายนี้ ขอแถลงว่าในฐานะประชาชน ที่มีความห่วงใยประเทศชาติและในฐานะผู้เคยทำหน้าที่นิติบัญญัติแห่งรัฐสภา มีความเห็นร่วมกันว่าร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) และร่างกฎหมายการพนันออนไลน์ ที่จะนำเข้าสู่การรับรองของสภาผู้แทนราษฎร ในระยะใกล้นี้ จะเป็นหายนะภัยอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ ประชาชน และต่ออนาคตของลูกหลานคนไทยทั้งปวง
เราขอแสดงทัศนะ ดังนี้
1.กาสิโนและการพนัน ไม่ใช่นโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยประกาศรณรงค์ ในการเลือกตั้ง ครั้งที่ผ่านมา แต่เป็นโครงการงอกขึ้นมาใหม่แบบผิดปกติ ซึ่งรัฐบาลกลับเห็นเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญ โดยจะเร่งนำเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ทันก่อนปิดสมัยการประชุมสภา ในวันที่ 10 เมษายน 2568 ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องรอได้ เมื่อเทียบกับปรากฏการณ์แผ่นดินไหว เมื่อ 28 มีนาคม 2568 ที่ประชาชนทั้งประเทศตระหนกตกใจ และเรียกหามาตรการป้องกันภัยพิบัติในอนาคตอย่างเร่งด่วน แต่กลับไม่ได้รับความใส่ใจจากรัฐบาล
2.ข้ออ้างของรัฐบาล เรื่องจะใช้พื้นที่สำหรับกาสิโนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถือว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอ เพราะกาสิโนมีฤทธิ์แรงร้ายที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไม้ขีดก้านเดียว ทำให้ไฟไหม้บ้านพินาศทั้งหลังได้ การพนันออนไลน์ไม่ต้องมีพื้นที่ทางกายภาพแม้เพียงตารางนิ้วเดียว แต่ทำให้เหยื่อสิ้นเนื้อประดาตัวได้ เชื้อมะเร็งที่ปอดขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว แต่ก็ลุกลามทำลายร่างกายให้เจ็บและเสียชีวิตได้ พื้นที่มากน้อยจึงไม่สำคัญเท่าพิษสงของการพนัน
3.อำนาจการพิจารณาอนุญาตและการบริหารจัดการในรายละเอียด เช่น การกำหนดพื้นที่และสัดส่วน หลักเกณฑ์การควบคุมป้องกันอบายมุขอื่นๆ การเก็บภาษี การยกเลิกกฎหมายและกฎระเบียบ ค่าธรรมเนียมในอนาคต การตรวจสอบถ่วงดุล ฯลฯ เหมือนโอนลอยอำนาจไปอยู่ในมือของคณะกรรมการนโยบายที่เปิดทาง และเอื้อประโยชน์ให้กับผู้มีอำนาจ ทุจริตได้อย่างไร้ขอบเขตทำให้ไม่สามารถวางใจได้ว่าโครงการจะดำเนินไปอย่างโปร่งใสสุจริตมาตรฐานการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตของไทยนั้น ไม่อาจเทียบได้เลยกับสิงคโปร์ ดังที่รับทราบกันโดยทั่วไปอยู่แล้ว
4.โครงการการพนันครบวงจรตามกฎหมายสองฉบับนี้ ไม่สามารถสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจได้จริงตามที่กล่าวอ้าง สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) ชี้ไว้แล้วว่า การพนันไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของ GDP เพราะปราศจากการผลิตใดๆ เป็นเพียงการย้ายเงินจากมือคนหนึ่งไปสู่มืออีกคนหนึ่งเท่านั้นการพนันจึงเป็นกิจกรรมเสี่ยง ที่สร้างนักพนันเสพติด ทำให้คนเล่นหรือเหยื่อหมดเนื้อหมดตัว มีแต่เจ้ามือที่ร่ำรวย ใครเล่นได้ก็เล่นซ้ำ เพราะอยากได้เพิ่ม คนเล่นเสียก็เล่นซ้ำเพราะต้องการ ทวงคืนไม่มีนักพนันคนไหนมั่งคั่งขึ้นมาจากการพนัน ตรงกันข้ามกลับต้องเป็นหนี้ ต้องขายทรัพย์สิน แม้แต่ต้องฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้
5.แหล่งกาสิโนและการพนันออนไลน์ คือ ที่รวมของการฉ้อฉลคดโกงทั้งปวง เช่น คอลเซ็นเตอร์ นักหลอกลวงให้ลงทุน (Scammer) อาชญากรข้ามชาติ ยาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี โจร นักตีชิงวิ่งราว และเป็นแหล่งเพาะอบายมุขทั้งปวง ที่ชุมนุมกันอยู่ตามบ่อนชายแดนให้รู้เห็น กันโดยทั่วไป แล้วถึงขั้น รัฐบาลต้องตัดไฟ ตัดการสื่อสาร ตัดการส่งพลังงาน แล้วเหตุใดรัฐบาลยังไม่ตระหนักถึงมหันตภัยเหล่านี้
6. กาสิโนไม่ได้ทำให้ประเทศร่ำรวยจริงตามคำโฆษณาของรัฐบาล ฟิลิปปินส์มีกาสิโน 50 แห่ง นับตั้งแต่ 50 ปีก่อน อีก 3 ประเทศ เริ่มมีกาสิโนตั้งแต่ 30 ปีก่อน คือเมียนมาร์มี 230 แห่ง ลาวมี 2 แห่ง กัมพูชามี 150 แห่ง
ถ้ากาสิโนทำให้ประเทศมั่งคั่งขึ้นมาจริง ผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านนับแสนนับล้านคน ทำไมต้องอพยพมาทำงานในประเทศไทยนักพนันมีแต่อนาคตที่จะวิบัติสถานเดียว ดังที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อ 100 กว่าปีล่วงมาแล้วว่า “ข้อที่เข้าใจกันว่าเล่นไม่สนุกนั้นไม่จริงเลย สนุกยิ่งกว่าอะไรๆ หมด ถ้าชาวบางกอกรู้ ได้ไปเล่นแล้ว ฉิบหายกันไม่เหลือ ถ้าหากไปถึงเมืองเราเข้าเมื่อไร จะรอช้าสักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที”
ถ้ารัฐบาลเห็นว่า คนไทยทั้งประเทศสมควรตกเป็นทาสการพนัน ที่จะเสียไร่ เสียนา เสียรถ เสียทรัพย์สิน ครอบครัวพินาศ สังคมเสื่อมทราม ก็จงเดินหน้าต่อไป แต่ถ้ารัฐบาลตระหนักถึงบาปบุญ คุณโทษ ที่คนรุ่นหลังจะต้องเผชิญกับมรดกบาปของแผ่นดิน ก็จงน้อมรับพระราชปณิธานของพระพุทธเจ้าหลวงใส่เกล้าใส่กระหม่อมฯ ด้วยการถอน กฎหมายทั้ง 2 ฉบับออกไป โดยเร็วเถิด
ทั้งนี้รายชื่อของอดีต สว. 189 คนนั้น มีอดีต สว.หลายๆ ชุดประกอบกัน และยังมีอดีตประธานวุฒิสภา 3 คน ร่วมลงชื่อด้วย คือ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา ชุด 2543, พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภา ชุด 2554 และ ศ.พิเศษ.พรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานวุฒิสภาชุด 2562 รวมทั้งอดีตรองประธานวุฒิสภา 3 คน ร่วมลงชื่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่1 สมัย 2554, รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 สมัย 2551 และ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่1 สมัย 2562
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘นักเขียนซีไรต์’ ซัดนักการเมืองพูดกำกวมปมกาสิโน อำนาจก็จะเอา คะแนนเสียงก็อยากได้
การพูดกำกวมจึงไม่ได้ผลกับนักการเมืองด้วยกัน โดยเฉพาะกับคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย แต่มันส่งผลถึงประชาชนที่มีความเห็นแตกต่าง ตามมาด้วยความแตกแยก
กมธ.ศึกษากาสิโน วุฒิสภา จี้รัฐบาลถอนร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกจากสภาไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้
วุฒิสภา ระบุรัฐบาลควรถอนร่างพรบ.สถานบันเทิงฯออกจากสภา ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้ ค้านเอาที่การท่าเรือฯ คลองเตย ติดริมแม่น้ำ สองพันกว่าไร่ ประเคนกลุ่มทุนกาสิโนข้ามชาติ ข้องใจเร่งรีบเพื่อเตรียมทุนเอาไปหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่
ดร.กิตติธัช สะกิดคนไทยรู้ทันการเมือง ‘กาสิโน’ นักการเมืองเล่นกับกระแสมวลชน
นักวิชาการอิสระ ชี้อยากจะบอกให้คนไทยทุกฝ่ายรู้ทันการเมืองของเหล่านักการเมืองให้มาก ว่าเขา เล่นกับกระแสและมวลชนกันอย่างไร
กาสิโนโลกยึดไทย! ‘แก้วสรร’ เชื่อ ‘ทักษิณ’ ไม่ถอยดีลทุนมาเก๊า-สิงคโปร์ผุดบ่อนครบวงจร
"แก้วสรร" เชื่อ "ทักษิณ" ไม่หยุดดัน "กาสิโน" จับตาทุนมาเก๊า-สิงคโปร์เจรจาให้หุ้นลม "ซุ้มชินวัตร" เซ้งประเทศให้ทุนกาสิโนโลกยึดไทย ผุดบ่อนอบายมุขทุกภูมิภาค 5-8 แห่ง
รัฐบาล‘พ่อ’กอดคอกันต่อ ขึง‘อิ๊งค์’รับหน้าเสื่อวิกฤต
คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะไม่ค่อยพอใจกับท่าทีของลูกพ่อเนวิน และแม่กรุณา ชิดชอบ อย่าง “ไชยชนก ชิดชอบ”
พปชร. สงสัยรัฐบาลมุบมิบทำประชาพิจารณ์ 'กม.กาสิโน' อ้างประชาชนเห็นด้วย
โฆษก พปชร. ชมเปาะลูกเนวินประกาศค้านกาสิโนกลางสภาฯ กล้าทำ กล้าคิด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ของพวกพ้อง เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่