ศึกซักฟอกปิดฉากลงเมื่อเช้าวันที่ 26 มีนาคม ด้วยมติไว้วางใจ “แพทองธาร ชินวัตร” แม้อุณหภูมิการเมืองในสภาจะลดลง แต่เงาของการอภิปรายยังไม่จางหาย
หนึ่งในประเด็นที่ยังค้างคาในสายตาสาธารณชนคือ “ตั๋ว PN” ซึ่ง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. พรรคประชาชน เปิดประเด็นในสภา และเดินหน้าต่อโดยยื่นเรื่องให้ กรมสรรพากรตรวจสอบ ว่ามีการใช้ “ตั๋ว PN” เป็นเครื่องมือซื้อหุ้น และเข้าข่าย นิติกรรมอำพรางเพื่อหลบเลี่ยงภาษี หรือไม่
ยุทธการ “โรยเกลือ” ที่ฝ่ายค้านเริ่มต้นจะไปได้ไกลแค่ไหน? พรรคประชาชนจะผลักดันเรื่องนี้ถึง ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ หรือจะถูกตัดตอน-เบรก แค่ในชั้นกรมสรรพากร?
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่สังคมจับตาคือ “ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ” ซึ่งในวันที่ 25 มีนาคม รังสิมันต์ โรม หยิบยกขึ้นอภิปรายถึงการได้รับอภิสิทธิ์ทางการแพทย์ที่ช่วยให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว
หลัง รังสิมันต์ โรม อภิปรายจบลง แพทองธาร ลุกขึ้นชี้แจงน่าสนใจในช่วงหนึ่งว่า
“เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าป่วย ต้องรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ อันนี้เป็นสิ่งที่ชัดเจน คุณพ่ออายุ 70 ปีแล้ว ตอนโควิดก็ป่วยหนักมากจนน้ำหนักลด 10 กิโลกรัม ทำให้ผมร่วง จะเชื่อไหม ก็ไม่เชื่อ ก็ไม่ทราบว่าต้องอธิบายแบบไหน แต่ตอนนี้มีการยื่นเรื่องตรวจสอบโดยแพทยสภาแล้ว หวังว่าผลสรุปออกมาจะยอมรับกัน”
คำพูดของแพทองธารสะท้อนถึงความมั่นใจในผลการตรวจสอบ แต่ประโยคที่ว่า “หวังว่าผลสรุปออกมาจะยอมรับกัน” กำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่างหรือไม่?
เพียงวันถัดมาคือ 26 มีนาคม ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ซึ่งเป็น ประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ ได้เปิดเผยผลตรวจสอบการรักษาตัวของทักษิณที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
“ข้อมูลที่อนุกรรมการสอบสวนทำการตรวจสอบ ถือว่าครบถ้วนเท่าที่จะสอบสวนวินิจฉัยในชั้นอนุกรรมการ…”
เมื่อถูกถามว่าพบความผิดปกติในการรักษาหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ
“เรื่องรักษาพยาบาล ผมก็ว่าเขารักษาพยาบาลได้ถูกต้องนะ เราก็สรุปไปตามเอกสารที่เราคิดว่าโอเค ถูกต้องแน่นอน ไม่มีปัญหาอะไร” และทิ้งท้ายว่า “การตรวจสอบครบถ้วน เอาแค่นี้ก่อน รอวันที่ 10 เมษายนแล้วกัน”
คำว่า “ผมก็ว่าเขารักษาพยาบาลได้ถูกต้องนะ” สะท้อนถึงอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกับคำพูดของ “แพทองธาร” หรือไม่?
และ วันที่ 27 มีนาคม ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร ที่รวม “กาสิโน” หรือการพนันถูกกฎหมายไว้ในนั้น
รัฐบาลแพทองธารเดินเครื่องเต็มสูบในการผลักดัน “กาสิโน” หลังจบศึกซักฟอกเพียงวันเดียว ท่ามกลางกระแสคัดค้านที่ยังคุกรุ่น
“ทำไมต้องเร่งผลักดัน?” คำตอบอาจโยงไปถึงทักษิณ ซึ่งเป็นต้นคิดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ขณะเดียวกัน คำชี้แจงของ นพ.อมร ลีลารัศมี และ “แพทองธาร” กลับสอดรับกันในลักษณะที่อาจเอื้อต่อทักษิณ
การเดินหน้ากาสิโนในจังหวะนี้ จึงสะท้อนความมั่นใจของรัฐบาลว่ากระแสการเมืองและการตรวจสอบ โดยเฉพาะข้อกังขาเรื่อง “ชั้น 14” จะไม่เป็นอุปสรรคต่อโครงการนี้
อย่างไรก็ตาม การเปิดทางให้ “กาสิโนถูกกฎหมาย” ไม่ใช่เรื่องง่าย หากรัฐบาลไม่สามารถจัดการกับกระแสคัดค้านได้ อาจกลายเป็นระเบิดเวลาทางการเมืองและสังคม
สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือ รัฐบาลแพทองธารจะสามารถเดินเกมนี้โดยไม่สะดุดหรือไม่ และเสียงคัดค้านจะสามารถหยุดยั้งแนวทางนี้ได้หรือเปล่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จ่อฟันบ.จีนใช้เหล็กห่วย
"อิ๊งค์" รุดดูความคืบหน้าค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคาร สตง. ลั่นตรวจสอบทุกอย่าง
ดินไหวหลอนคนไทย หวั่นอาฟเตอร์ช็อก!อพยพคนจากตึกสูง/มท.1ชี้อุปาทานหมู่
แผ่นดินไหวหลอนคนไทย หลายตึกสูงอพยพคนหลังมีกระแสข่าว “อาฟเตอร์ช็อก” จากเมียนมา
After shock 'ตอผุด' | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568
รัฐบาลเข็นกาสิโนเข้าสภาฯ 9 เม.ย. อ้างต้องหาเงิน เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ-คนพิการ
นายวิสุทธิ์ ไชณยรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 54)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
'สมชัย' งัดหลักฐาน จับโป๊ะ 'กาสิโน' ตอบ 8 ข้อ เหมือนกันเป๊ะ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จับโป๊ะ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ตอนที่ 3