นายกฯ ชี้แจงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 พร้อมสรุปผลการดำเนินงานในด้านปลาหมอคางดำ รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน และประเด็นซื้อไฟเอื้อนายทุน พร้อมเหน็บฝ่ายค้านที่ยกประเด็น "ดินอัลไพน์" ตอนตัวเองอายุ 11 ขวบ ถามอภิปรายรัฐบาลชุดไหนกันแน่ ก่อนจะออกจากห้องประชุม เดินทางกลับบ้านเวลา 22.30 น.
24 มีนาคม 2568 - เวลา 21.13 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ จากฝ่ายค้าน โดยเริ่มต้นจากการพูดถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่าเป็นวาระแห่งชาติที่ตนผลักดันให้เป็นวาระแห่งอาเซียน ขณะนี้ภาคเหนือตอนบนกำลังเผชิญกับฝุ่นหนาแน่น แม้ว่าจะมีการลดลงชั่วคราว แต่คาดว่าในเดือนพฤษภาคมฝุ่นจะกลับมาอีกครั้ง โดยมีต้นกำเนิดจากควันเผาของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรัฐบาลได้ประสานงานกับทุกระดับ รวมถึงขอให้ประเทศเพื่อนบ้านร่วมมือกันไม่เผาพื้นที่เกษตรเพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้
น.ส.แพทองธาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศเพื่อนบ้านตอบกลับว่า กำลังดำเนินการเช่นกัน และเข้าใจว่าควันฝุ่นมาจากฝั่งของตนเอง ขณะที่ฝ่ายค้านกล่าวว่า “ได้แต่สั่งการแต่ไม่มีคนทำ” ตนขอให้หลีกเลี่ยงคำพูดดังกล่าว เพราะการอภิปรายในครั้งนี้ไม่ใช่การอภิปรายข้าราชการ แต่เป็นเรื่องระดับประเทศ ซึ่งข้าราชการทุกคนเต็มใจทำงานเพื่อลดปัญหาฝุ่นและต้องการให้ประเทศมีอากาศบริสุทธิ์เช่นเดียวกับทุกคน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาเห็นผลการลดลงของฝุ่นอย่างชัดเจน จากการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย รวมถึงการร่วมมือจากกระทรวงต่างๆ และประชาชนในปีนี้ที่ฝุ่นลดลงมากกว่าปีก่อน โดยกระทรวงมหาดไทยได้ยกระดับการปฏิบัติการและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้การเผาในพื้นที่เกษตรลดลงและสามารถดำเนินคดีได้ถึง 133 คดีภายใน 3 เดือน
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้รับการสนับสนุนงบกลางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังไฟป่า ซึ่งช่วยเพิ่มจุดเฝ้าระวังถึง 50% จากปีที่แล้ว และช่วยควบคุมไฟป่าได้ดีขึ้น ขณะที่รัฐบาลได้เพิ่มชุดลาดตระเวนและปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า พร้อมระดมเจ้าหน้าที่กว่า 18,000 คนเพิ่มขึ้น 40% จากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้จุดความร้อนลดลง 30% รวมถึงการดำเนินการป้องกันการเผาในพื้นที่เกษตรที่กระทรวงเกษตรได้ยืนยันว่าเกษตรกรที่เผาจะไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการพัฒนาเกษตรกร
“รัฐบาลยังอนุมัติงบ 200 ล้านบาทให้กรมฝนหลวง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาฝุ่นและน้ำแล้ง โดยการดัดแปลงสภาพอากาศเพื่อลดฝุ่นละออง” น.ส.แพทองธารกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการปราบปรามรถควันดำว่า กระทรวงคมนาคมเข้มงวดในการตรวจจับรถที่ปล่อยควันดำ โดยตรวจสอบเกือบ 150,000 คันและห้ามใช้รถที่ปล่อยควันเกินมาตรฐานถึง 2,500 คัน
“มาตรการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความพยายามจากรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ร่วมกับประชาชนในการลดปัญหาฝุ่น” น.ส.แพทองธาร กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า เรื่องพลังงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงรายละเอียดไปแล้ว และยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เคยดำเนินการตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่าฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาลชุดไหน
“ท่านอภิปรายเรื่องการซื้อที่ดินอัลไพน์ตอนที่ดิฉันอายุ 11 ขวบ รวมถึงการอภิปรายเรื่องของรัฐบาลที่ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ ก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้” น.ส.แพทองธาร กล่าว
สำหรับเรื่องค่าไฟฟ้าที่กล่าวหาว่าแพงและเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน น.ส.แพทองธารยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ยังไม่อนุมัติการซื้อไฟฟ้าเพิ่มจากใคร และการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมีสัญญาก่อนที่ตนจะดำรงตำแหน่ง
น.ส.แพทองธาร ยังได้ชี้แจงเรื่องการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เลือกปฏิบัติและมีการดำเนินการอย่างเท่าเทียมกันในการดูแลทุกจังหวัดและทุกคน โดยในปี 2567 รัฐบาลได้อนุมัติงบกลาง 98 ล้านบาท สำหรับ 7 มาตรการควบคุมและกำจัดปัญหา
“รัฐบาลดำเนินการทุกข้อเรียกร้องของประชาชน เป้าหมายของเรา คือการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน เพื่อให้ทุกคนมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กัน” น.ส.แพทองธาร กล่าว
นายกฯ กล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบินและ Double Deck ว่ายังคงอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน และยังไม่ถึงระดับนโยบาย หากฝ่ายค้านไม่ไว้วางใจตนก็สามารถรออีกสักหน่อย โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะมาชี้แจงรายละเอียดในเรื่องนี้ต่อไป
“เราตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนจริงๆ การติชมเป็นสิ่งที่เราน้อมรับและความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนสำคัญกับรัฐบาลของเรา เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ต่อมาเวลา 22.30 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นกีกี้ ทำให้สภาเกิดความวุ่นวาย เพราะมองว่าเป็นคำสแลงจนฟังไม่ได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เพิ่งได้ยินวันนี้นี่แหละค่ะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าให้คะแนนการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านในวันแรกอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เมื่อถามย้ำว่าการอภิปรายวันแรกเป็นอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า “ดีค่ะ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' ฟันธงเอฟเฟกต์ศึกอภิปรายมีปรับ ครม.แน่นอน!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ไขคำตอบว่าทำไมกองทัพจึงต้องมี 'ไอโอ'
กรณี สส.พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็นปฏิบัติการไอโอของกองทัพ ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงการเมือง
สส.พรรคส้ม เปิดแชท! ถูกเสนอ 20 ล้าน แลกเป็นงูเห่าก่อนโหวตไม่ไว้วางใจ
สส.ระยอง พรรคประชาชน เปิดหลักฐาน อ้างถูกติดต่อเสนอเงินหลายระดับ สูงสุด 20 ล้าน แลกเป็นสส.งูเห่า โหวตหนุน ‘แพาองธาร’ และหากย้ายพรรคเพิ่มอีก 5 ล้าน พร้อมตำแหน่งและเงินเดือน 250,000 บาท!
LIVE สถานีต่อไป "คุก" !? | รายการพิเศษ ไทยโพสต์
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ : วันพุธที่ 26 มีนาคม 2568
'สุริยะใส' วิเคราะห์ 'เพื่อไทย-ปชน.' พันธมิตรทางอุดมการณ์ ขาดสะบั้นแล้วจริงหรือ?
ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเผยแพร่บทวิเคราะห์ “เพื่อไทย vs พรรคประชาชน: พันธมิตรทางอุดมการณ์
นายกฯอิ๊งค์ เสียงแข็ง! '7 งูเห่า' ไม่มีผลต่อรองเก้าอี้ คุยทักษิณแล้ว ยังไม่ปรับ ครม.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจอย่างท่วมท้น ว่า ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจ ก็ดีใจ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าพิธีการเป็นอย่างไร เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าไป พอประธานสภาพูดจบเสียบบัตรปุ๊บเลขขึ้นเลย