"อนุทิน" แนะ "นายกฯอิ๊งค์" ควบคุมอารมณ์อย่าหวั่นไหวกับคำกระแทกแดกดันศึกซักฟอก หลังเคยขึ้นเขียงมาแล้ว 6 ครั้ง พร้อมเสิร์ฟข้อมูลหนุน ยัน ภท. เทเสียงให้ทั้งหมด
22 มีนาคม 2568 - ที่จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี นัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเตรียมตัวก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ได้กำชับ หรือให้ช่วยอะไรหรือไม่ว่า ไม่ได้มีคำว่าช่วย เพราะการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคือการอภิปรายทั้งรัฐบาล รัฐมนตรีทุกกระทรวงต้องเตรียมข้อมูลให้นายกฯชี้แจง ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส่วนไหนที่ถูกพาดพิง ถ้าจำเป็นก็ต้องช่วยนายกรัฐมนตรีชี้แจง และที่สำคัญต้องสนับสนุนให้การไว้วางใจการทำงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรามั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถชี้แจงได้เพราะเราเป็นคนสนับสนุน ข้อมูลต่างๆ อยู่แล้ว สำหรับนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็เห็นอยู่ว่าได้ดำเนินการตามนโยบายต่างๆ เราในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องให้การสนับสนุนไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีกังวลประเด็นใดหรือไม่เพราะมีพูดถึงเรื่องครอบครัวนายกฯด้วย นายอนุทินกล่าวว่า นายกฯกลัวว่าจะพูดไม่เก่ง แต่พวกเราเรียนท่านว่าท่านทำงานมา 6 เดือนกว่า หรือครึ่งปีแล้ว ท่านมีความมั่นใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามลำดับ ถ้าทุกอย่างอยู่ในเกมตอบได้หมด
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีตัดพ้อเรื่องดิวแลกประเทศ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มีไม่ได้พูดถึงเลย ท่านพูดถึงเรื่องงานในความรับผิดชอบหากเป็นเรื่องส่วนตัวอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานหรือเรื่องใดๆที่ไม่ได้เกิดขึ้น ในรัฐบาลของท่าน หรือที่เกิดก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ ท่านก็ไม่ทราบจะตอบอย่างไร
ถามถึงบรรยากาศดินเนอร์พรรคร่วมเมื่อวานนี้(21มี.ค.) นายอนุทินกล่าวว่า เป็นไปได้ด้วยดีนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ลง อินสตาแกรมแล้ว แต่เราไม่ได้หัวเราะด้วยความสุข เราพยายามทำให้ความกดดันต่างๆลดลง คิดว่านายกรัฐมนตรีมีความกดดันแต่ก็ต้องทำให้ท่านมีความมั่นใจ มีความพร้อมว่าจะผ่านพ้นการอภิปรายนี้ไปได้ด้วยดี เพราะเป็นครั้งแรกของท่าน ส่วนตนเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งครั้งแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่เราก็ตอบด้วยความมั่นใจ เรารู้ว่าเราทำงานอะไร เราก็ตอบไปด้วยความมั่นใจ ถ้าทำโดยไม่มีเจตนาที่ไม่สุจริต จะยิ่งตอบได้อย่างไม่ต้องมีแรงกดดันอะไร
"ท่านต้องควบคุมอารมณ์ให้ดีอย่าไปอ่อนไหวต่อคำพูดกระแทกแดกดันต่างๆขอให้ อยู่ในสาระของญัตติการอภิปราย ท่านนายกฯก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี" นายอนุทินกล่าว
ส่วนการประชุมพรรคภูมิใจไทย จะกำชับอะไร 69 สส.ของพรรคหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า สส.คนรู้หน้าที่ ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่จะมีสส. ยโสธร 1 คน ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุเวทีถล่มก่อนหน้านี้ อาจไม่สามารถไปร่วมประชุมได้ แต่ชี้แจงได้อยู่แล้ว ยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังศึกซักฟอกจะมีการปรับครม. หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่าเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่เพราะฝ่ายค้านบอกว่า จะนำข้อมูลจากการอภิปรายไปยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าถามว่ากังวลไหมเราก็กังวลว่า หากเป็นข้อมูลที่มากกว่าที่เรารู้ ในสิ่งที่เราทำ แบบนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเราทำอะไรมา เรารู้ ทำดีทำชั่วเราก็ต้องรู้ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯทำแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ทำแต่คุณงามความดีไม่น่าจะมีอะไรที่จะส่อไปในทางทุจริตได้
เมื่อถามว่าข้อมูลมหาดไทยพร้อมเสิร์ฟหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า ทีแรกคิดว่าจะโดนด้วย เตรียมข้อมูลไว้มากพอสมควร ครั้งนี้ถึงแม้นายกรัฐมนตรีจะโดนคนเดียวก็ต้องมีการพาดพิงถึงงานทุกกระทรวง เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ใช่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชี้แจง แต่เป็นการแถลงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือฝ่ายค้าน ที่อาจไม่รู้ในรายละเอียดรับทราบซึ่งเราก็มั่นใจในสปิริต ของฝ่ายค้านอยู่แล้ว
"หลายครั้งเมื่อเราชี้แจงได้ หากพรรคฝ่ายค้านคลี่คลาย ก็เห็นสปิริตแสดงความขอบคุณและชื่นชมมา ถ้าอยู่กันแบบนี้ได้ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เขามีสิทธิ์ที่จะสงสัยถ้าเขาไม่สงสัย ก็แสดงว่าไม่ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ ส่วนเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด"
ถามอีกว่าหากมีการ พาดพิงรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะชี้แจงเลยหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า มีกฎระเบียบอยู่แล้วว่าอะไรลุกขึ้นตอบได้ หรือไม่ได้ ส่วนไหนที่ถามนายกฯเราก็ต้องเตรียมให้นายกฯตอบ ไม่ใช่อยู่ดีดีลุกขึ้นไปตอบแทน ฝ่ายค้านจะบอกว่าทำไม่ได้อภิปราย ถ้าเราดื้อพูดต่อไป ก็จะมีการประท้วงไปมา เสียเวลาพี่น้องประชาชน
สำหรับกรณี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และกรณีที่มีกระแสข่าวว่าร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย จะใช้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายโดยใช้เวลาของพรรคพลังประชารัฐ จะเหมาะสมหรือไม่นั้น
นายอนุทิน กล่าวว่า พลเอกประวิตร เป็นฝ่ายค้านอยู่แล้วก็มีสิทธิ์ที่จะอภิปราย แต่ร.ต.อ.เฉลิม เป็นการใช้เอกสิทธิ์ของความเป็นสส. ก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องไปดำเนินการ
ส่วนเรื่องการพาดพิงคนนอกอาจทำให้ เกิดการประท้วงจนการประชุมยืดเยื้อถึงวันที่ 27 มีนาคมนั้นนายอนุทิน กล่าวว่าที่ประชุมก็ได้มีการพูดคุยกัน อยู่ดีๆจะลุกขึ้นตอบแทนนายกฯก็คงไม่ได้ แต่หากอภิปรายพาดพิง มาโดนรัฐมนตรีเต็มๆ เราก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์พาดพิง แต่ต้องทำให้ถูกจังหวะ ต้องดูจังหวะจะโคนให้ดีอะไรควรพูดก็พูด อะไรไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูด
พอถามว่าจะอยู่จะอยู่จนถึง 05.30น. หรือไม่นั้น นายอนุทิน หัวเราะ ก่อนกล่าวว่าจะอยู่หรือไม่อยู่แต่เชื่อว่าทุกคนก็จะฟังถ่ายทอดสดไม่จำเป็นต้องอยู่บนบัลลังก์ และเพราะอยู่ในสภาก็ได้ยินเสียงทั่วอยู่แล้ว และกล่าวติดตลกว่า ซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP ใช้เป็นเครื่องขยายเสียง 3-4 เท่ามาแล้วไม่ต้องเสียบปลั๊กเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของจังหวัดเชียงใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชัยชนะ' เผย ปชป. ถก 26 มี.ค. เคาะมติโหวตนายกฯ ปัดตอบแทน '3 อดีตหน.'
'ชัยชนะ' ชี้ผู้นำฝ่ายค้านพูดเรื่องเก่า แนะก้าวข้าม ย้อน ปชน. มีผู้นำจิตวิญญาณไม่ต่างจาก พท. เผย ปชป.ประชุม 26 มี.ค. เคาะมติโหวตนายกฯ ปัดตอบแทน '3 อาวุโส' ของพรรค
10 นาที 'บิ๊กป้อม' ซัด 'ประเทศไม่ใช่เวทีมือสมัครเล่น' อึ้ง!อิ๊งค์ แจงแค่ 10 วินาที
“ประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” บิ๊กป้อม เปิดฉากอภิปราย 10 นาที ซัด“แพทองธาร” ไร้ความสามารถทั้งเศรษฐกิจ-ความมั่นคง-จริยธรรม ถูกครอบงำโดยคนในครอบครัว ด้านนายกฯ ชี้แจงสั้นๆ 10 วินาที แค่ประโยคเดียวว่า “ไม่เป็นความจริง”
'เท้ง' เปิดฉากซักฟอก 'อิ๊งค์' ซัดทำไทยมีนายกฯ 2 ระบบ ตกต่ำยิ่งกว่ารัฐบาล คสช.
เปิดฉากอภิปรายไม่ไว้วางใจ 'วันนอร์' แจงกติกา เตือนระวังอภิปรายพาดพิงคนนอก 'ผู้นำฝ่ายค้าน' จั่วหัวร่ายยาว ซัด 'แพทองธาร' ปล่อยคนในครอบครัวชักใย ชี้ไทยมีนายกฯนอกระบบ-ในระบบ ดีลแลกประโยชน์เจ้าสัว
ไม่พลาด 'ทั่นก่อแก้ว' โชว์พิทักษ์นาย! ตีรวน-ขัดจังหวะ 'บิ๊กป้อม'
วุ่นตั้งแต่เริ่ม! ‘บิ๊กป้อม’ ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ถูก ‘ก่อแก้ว พิกุลทอง’ สส.เพื่อไทย ขัดจังหวะทันที อ้างไม่เข้าสภาเป็นประจำ สมควรอภิปรายหรือไม่ ด้านประธานสภาตัดบท เดินหน้าประชุมต่อ
เปิดฉากซักฟอก! 'ณัฐพงษ์-ประวิตร-วิโรจน์' ขึ้นอภิปรายวันแรก ลาก 'แพทองธาร' เข้าสนามเดือด
พรรคประชาชนปรับแผนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดึงแกนนำพรรคขึ้นอภิปรายตั้งแต่วันแรก หวังดึงความสนใจประชาชน เปิดเกมด้วย ‘ณัฐพงษ์’ ตามด้วย ‘ประวิตร-วิโรจน์’ ก่อนลากเข้าสู่หกประเด็นร้อน โจมตีแพทองธาร ตั้งแต่ขาดภาวะผู้นำ เอื้อพวกพ้อง ไปจนถึงเป็น ‘นายกฯ หุ่นเชิด’ ของทักษิณ