'จีน' ออกโรงประณาม 'สหรัฐ' ข่มเหงรังแกไทย ทำตัวสองมาตรฐาน

"เหมา หนิง" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงการณ์ประณามสหรัฐอเมริกาข่มเหงรังแกไทย หลังออกมาตรการระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาล ปมส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศ ฉะอ้างสิทธิมนุษยชนบิดเบือนประเด็นให้กลายเป็นเรื่องการเมือง กล่าวหา โจมตี ป้ายสี คว่ำบาตรประเทศอื่นๆ แต่ตัวเองสองมาตรฐาน ส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองกว่า 2.7 แสนรายจาก 192 ประเทศ

18 มีนาคม 2568 - เพจเฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อความของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนตอบคำถามผู้สื่อข่าว มีเนื้อหาดังนี้

เมื่อเร็วๆ นี้ ชาวจีน 40 รายที่ถูกกักขังในประเทศไทยได้ถูกส่งตัวกลับประเทศจีนแล้ว นายรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่าจะมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร เช่น การจำกัดวีซ่าต่อเจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือในการส่งตัวกลับประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ออกแถลงการณ์เน้นย้ำว่า ไทยได้แถลงในเรื่องนี้ไปแล้วในหลายโอกาส ไทยได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมที่ได้ยึดมั่นมาโดยตลอด ไทยให้ความสำคัญกับความเป็นพันธมิตรทางสนธิสัญญากับสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน ท่านโฆษกมีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้?

นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน: ประเทศจีนและประเทศไทยดำเนินความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน เช่น ปราบปรามการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งอยู่ในอำนาจอธิปไตยทั้งสองประเทศ สอดคล้องกับกฎหมายของทั้งสองประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ และแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ ซึ่งสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์ที่จะแทรกแซง ชาวจีน 40 รายนี้ถูกยุยง ออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมายและค้างอยู่ในประเทศไทยซึ่งพวกเขาถูกคุมขังเป็นเวลานานถึง 10 ปี รัฐบาลจีนมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบในการปกป้องพลเมืองของตน ช่วยให้พวกเขาได้กลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวและกลับใช้ชีวิตปกติ

ทางสหรัฐฯ ได้ทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งโดยแท้จริงแล้วถือเป็นการดำเนินการแบบสองมาตรฐานและเป็นความพยายามที่จะปราบปรามผู้เห็นต่าง ในปีงบประมาณ 2024 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE) ได้ส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายมากกว่า 270,000 รายจาก 192 ประเทศ ซึ่งถือเป็นสถิติการส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 สหรัฐฯ ได้บังคับส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายโดยไม่พิจารณารายกรณี ขณะเดียวกันยังกล่าวหา โจมตี ป้ายสี คว่ำบาตร และกดดันประเทศอื่น ๆ ในการดำเนินความร่วมมือที่บังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งถือเป็นการกลั่นแกล้งและข่มเหงรังแกโดยสิ้นเชิง

จีนประณามอย่างรุนแรงเกี่ยวกับการใส่ร้ายโดยเจตนาร้ายและการคว่ำบาตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อจีนและไทย และคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการที่ทางสหรัฐฯ ใช้ข้ออ้างสิทธิมนุษยชนในการบิดเบือนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับซินเจียง แทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีน และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างจีนกับประเทศที่เกี่ยวข้อง จีนจะส่งเสริมการสื่อสารและการประสานงานกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของพลเมืองจีน และกระชับความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายกับประเทศต่างๆ บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันและการปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียมกันต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รมว.ยธ.' ตอกกลับ 'กัณวีร์' ยันจีนเปิดเสรีเยี่ยมอุยกูร์ หลังจากนี้ให้ไปได้อีก

'ทวี' ยันหลังเยี่ยมอุยกูร์ ทุกคนปลอดภัยดี แต่ไม่ได้พบทุกคนเหตุอยู่คนละพื้นที่ห่างไกล ย้อน 'กัณวีร์' เป็นมุสลิมหรือเปล่า กล่าวหาผู้หญิงเข้าสวมกอด สอน สส. หัดคิดถึงประโยชน์ประเทศ

ชาวอุยกูร์ เผยกลุ่มก่อการร้ายโกหกให้หลบหนี ยันไม่มีการบังคับ ขอบคุณ 'สี จิ้นผิง'

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกไทยส่งกลับเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์

'กัณวีร์' ได้เวลาซักฟอก 40 นาที ตอนแรกจะพูด 3 เรื่อง เปลี่ยนใจเน้นแค่เรื่องเดียว

นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลไทย นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ พาสื่อมวลชน

'สส.โรม' ยืนกราน 40 อุยกูร์ตกอยู่ในอันตราย ต่างชาติวิจารณ์รัฐบาลหนักขึ้น

นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนำทีมสื่อมวลชนไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 40 คน

'ภูมิธรรม' ฝากถึงสื่อไม่ได้ไปซินเจียงอุยกูร์ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ กระทบความเชื่อมั่นประเทศ

นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยชี้แจงว่า ทางการจีนได้ประสานและอำนวยความสะดวกในการพบกับชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับจากไทย และจากการสื่อสารต้องใช้ภาษาอุยกูร์ ภาษาจีน และภาษาไทย แปลกลับไปกลับมาแบบเปิดเผย