การประชุมร่วมรัฐสภาครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ซึ่งมีวาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การแก้ไขมาตรา 256 และการเพิ่มหมวด 15/1 ต้องปิดประชุมไปโดยปริยาย หลังองค์ประชุมไม่ครบ มีผู้แสดงตนเพียง 175 คน จากสมาชิกทั้งหมด 620 คน
แม้ สส. พรรคประชาชน พยายามขอให้นับองค์ประชุมใหม่ แต่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ยืนยันให้ปิดประชุมทันที นำไปสู่คำถามสำคัญว่า เกิดอะไรขึ้น? และการเสนอเพิ่ม หมวด 15/1 อาจขัดต่อคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่
ในปี 2564 ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยชัดเจนว่า
"…รัฐสภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนลงประชามติถามก่อนว่าต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อร่างเสร็จ ต้องให้ประชาชนลงประชามติอีกครั้งเพื่อเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ…"
กล่าวคือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องผ่าน 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
1. ถามประชาชนก่อน ว่าต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
2. หากประชาชนเห็นชอบ ให้รัฐสภาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญก่อนนำไปทำประชามติอีกครั้ง
3. เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ ต้องให้ประชาชนลงประชามติอีกครั้งเพื่อให้ความเห็นชอบ
ที่ผ่านมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญในบางมาตรา สามารถทำได้ เช่น การแก้ มาตรา 83 และ 91 ในปี 2564 เพื่อเปลี่ยนระบบเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวเป็นสองใบ ซึ่งเป็นการแก้ไขเป็นรายมาตรา ไม่ใช่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
แต่ครั้งนี้ การเสนอเพิ่ม หมวด 15/1 ซึ่งเป็นการตั้ง “สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ” (ส.ส.ร.) ขึ้นมาเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อาจถูกมองว่าเป็นการข้ามขั้นตอน ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในคำวินิจฉัย
การที่องค์ประชุมล่ม จนต้องปิดการประชุม ถูกมองว่าเป็นผลจากความกังวลของ สส. และ สว. จำนวนมาก ที่ไม่ต้องการให้วาระดังกล่าวเดินหน้าต่อไป เนื่องจากอาจเสี่ยง ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และอาจมีผลทางกฎหมายในอนาคต
คำถามสำคัญคือ การเสนอและบรรจุวาระดังกล่าวขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่?
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ในฐานะ ประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นผู้บรรจุวาระนี้ อาจต้องรับผิดชอบหรือไม่?
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และคณะ สส.พรรคประชาชน(ปชน.) และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ และคณะ สส.พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะผู้เสนอร่างนี้ สส.และพรรคต้องรับผิดชอบทางกฎหมายด้วยหรือไม่?
ตามหลักการ การจะเสนอให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อน แต่กรณีนี้ยังไม่มีการทำประชามติ แต่กลับบรรจุวาระเข้าสู่การประชุมรัฐสภาแล้ว
อย่างไรก็ตามประเด็นเรื่อง “ความผิดสำเร็จ” หรือไม่นั้นยังต้องรอการพิจารณา เพราะหากมีผู้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในลักษณะนี้ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ศาลอาจต้องตีความอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กลุ่มนักร้องเรียนทางการเมือง กำลังเตรียมยื่นเรื่องให้ ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกรณีนี้
หากไม่มีผู้ร้องเรียน เรื่องนี้อาจถูกปล่อยผ่านไป และฝ่ายที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจพยายามผลักดันวาระนี้อีกครั้งในอนาคต โดยเน้นการทำประชามติให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
แต่หากมีการร้องเรียนและศาลรับคำร้องไว้พิจารณา คำวินิจฉัยใหม่อาจกำหนดแนวทางที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต
การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อาจไม่ง่ายอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เพราะไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่อง กฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นเดิมพันทางการเมืองที่อาจกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
ดังนั้น พรรคการเมืองที่สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ อาจต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมายและแรงต่อต้านจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงบทบัญญัติในกฎหมายสูงสุด แต่เป็น การทดสอบพลังของฝ่ายการเมือง และอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของโฉมหน้าประเทศไทยในอนาคต!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม. เห็นชอบงบเลือกตั้ง-ทำประชามติ 8,978 ล้าน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป
รัฐบาลขออภัย 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ได้ไปต่อ ซัดเพื่อไทยล้มเหลว 'แจกเงินหมื่น' แต่ไม่ยอมรับผิด
รัฐบาลกราบขออภัย "คนละครึ่งพลัส" ไม่ได้ไปต่อ โต้ พท.กล่าวหารัฐบาลเสียงข้างน้อยตีตกเงินหมื่น จวก เป็นความล้มเหลวปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลในอดีต
บ้านใหญ่โคราชเพื่อไทย จัดไพรมารีโหวต เคาะผู้สมัคร สส. 16 เขต ชาติพัฒนาได้ 3 พื้นที่
พรรคเพื่อไทย บ้านใหญ่โคราช ได้มีว่าที่ผู้สมัคร สส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขตเลือกตั้ง และผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อและสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา รวมกว่า 200 คน นำโดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพือไทย
อดีตพรรคส้มโวย ถูกถอดชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส. รับไม่ได้ลาออกทันที
อดีตสมาชิกพรรคประชาชน จ.กระบี่ เปิดใจ หลังถูกถอดชื่อออกจากบัญชีว่าที่ผู้สมัคร สส. ทั้งที่ประกาศชื่อผ่านสื่อแล้ว ชี้คำอ้างผิดพลาดฟังไม่ขึ้น ลาออกพรรค พร้อมเตรียมซบพรร
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน
‘ชัยวุฒิ’ ตั้งคำถามแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย จะแก้ปัญหาไทย–เขมรย่างไร เพราะเป็นต้นเหตุความขัดแย้ง
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ หัวหน้าพรรครักชาติ ตั้งคำถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าแคน

