นายกฯ ให้โอวาทเด็ก เยาวชน ขอภูมิใจ -รู้คุณค่าในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งที่สุด เติบโตอย่างมีสติ เป็นกำลังสำคัญช่วยพัฒนาประเทศ ขณะเด็กๆวาดภาพเหมือนให้เป็นของขวัญ
8 ม.ค.2568 - ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันที่ 8 ม.ค. เวลา 13.20 น. นายกฯเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมถ่ายภาพกับเด็กและเยาวชนดีเด่น และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ พร้อมทักทายและถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมด้วย โดยมี ด.ญ.ณิฌา ภูริเดช โรงเรียนบางกอกพัฒนา บุตรสาว พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาร่วมถ่ายภาพกับนายกฯด้วย
ต่อมาเวลา 13.50 น. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบรมว.ศึกษาธิการ นำคณะเด็กและเยาวชนดีเด่น และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี จากทุกสังกัดทั่วประเทศ 1,292 คน โดยเมื่อนายกฯมาถึงได้เดินทักทายเด็กๆ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ท่ามกลางเด็กๆที่รุมล้อมกันขอถ่ายภาพเซลฟี่กับนายกฯอย่างคึกคัก
จากนั้นนายกฯ เดินมายังตึกสันติไมตรี (หลังนอก) พร้อมมอบโอวาทกับเยาวชนตอนหนึ่ง ว่า วันนี้คิดว่าน่าจะเป็นวันที่ต้อนรับน้องๆเยอะที่สุดตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หวังว่าวันเด็กแห่งชาติปีนี้จะมีน้องๆเข้ามาร่วมงานที่ทำเนียบรัฐบาลมากมายเช่นกัน ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมน้องๆทุกท่านที่ได้รางวัลในสาขาต่างๆ ขอให้น้องๆทุกคนได้ภูมิใจในตัวเอง และต่อไปหากมีคนถามว่าต่อไปเราจะทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติได้บ้าง หรือเราจะเป็นประโยชน์อย่างไรได้บ้าง เพราะวันนี้เราเป็นเยาวชนตัวเล็กๆวิ่งไปวิ่งมามีความสุขเรียนหนังสือ แต่ความจริงแล้วเด็กทุกคนเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ วันนี้ถ้าเรารวมกลุ่มกันคิดในเรื่องที่ดี ทำในเรื่องที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ แน่นอนอยากให้น้องๆทุกคนรู้ว่าตัวเองมีคุณค่ากับประเทศชาติ เราจะเจอสิ่งที่เราไม่คาดคิดสิ่งที่เราไม่ได้แพลนไว้ เพราะสิ่งที่เราแพลนไว้จะเกิดขึ้นตามแผนแน่นอนและเราจัดการได้ดี แต่หลายอย่างเราไม่ได้แพลนก็ขอให้น้องๆทุกคนมีความยืดหยุ่นในตัวเอง พร้อมที่จะปรับปรุง เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเหตุการณ์ต่างๆเปลี่ยนแปลงไป
“ตัวดิฉันเองวันนี้มาอยู่ตรงนี้ก็ผ่านความเป็นเยาวชนมาสักพักหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่าเมื่อเรารู้คุณค่าของตัวเราเองอยู่เสมอ รู้อยู่ว่าเราเป็นคนที่มีคุณค่าไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งที่สุด สวยที่สุด รวยที่สุด อะไรที่สุดไม่จำเป็น แต่เราต้องรู้คุณค่าของตัวเองและอย่าลืมขอบคุณตัวเอง บางทีวันนี้เราทำสิ่งนี้ เพื่อใครเพื่อตัวเอง ทำดีที่สุดเพื่อใครบ้าง เพื่อประเทศชาติ เรามีค่าในตัวเอง ฉะนั้นการที่เราย้ำเตือนตัวเองไว้เสมอว่าเรามีคุณค่า เราจะโตขึ้นไปด้วยใจที่แข็งแรง และไม่มีใครที่จะเข้ามาเปลี่ยนความคิดตรงนี้เราได้ ทำให้เราต้องรู้สึกไร้ค่าหรือไม่มีค่า เราต้องรู้ก่อนว่าเรามีดีอะไรบ้าง ถือเป็นสิ่งสำคัญอยากให้น้องทุกคนมีต้นทุนตรงนี้อย่างน้อยบ้านและครอบครัวรักเรา มีเพื่อนที่รักและหวังดีกับเรา ฉะนั้นเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตต่อไปให้เข้มแข็ง“ นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่พี่พูดเรื่องนี้ เพราะว่าสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง จิตใจที่มีสติเรื่องนี้สำคัญ คำว่า สติ น้องฟังวันนี้อาจจะรู้สึกว่าโอ้โหอะไรกัน ธรรมะหรือเปล่า
แต่สติเป็นกฎในการดำเนินชีวิต ที่ทำให้เรารู้สึกว่าวันนี้ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร ถ้าหนูมีสติรู้ เราก็จะเข้าใจหลักการนั้น และรับมือกับมันได้ดี ขอฝากข้อคิดไว้สั้นๆให้น้องๆทุกท่านเติบโตขึ้นไปอย่างมีสติ รู้คุณค่าของตัวเอง และพร้อมที่จะพัฒนาประเทศชาติต่อไป วันนี้มั่นใจว่าน้องๆเป็นความภูมิใจให้กับครอบครัว ก็ขอให้นำความภูมิใจนี้ต่อยอดไปอีกในชีวิต เพื่อจะได้มีความภูมิใจในชีวิตอีกมากมาย แน่นอนว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชนทุกคนในเรื่องการศึกษา เรื่องการประกอบอาชีพ หรือการหางานทำใหม่ๆ ซึ่งรัฐบาลพยายามสนับสนุนอย่างรอบด้าน ฉะนั้นปีใหม่นี้ขอให้น้องๆ ประสบความสำเร็จทุกคน อะไรที่ตั้งใจไว้ก็ขอให้ทำสำเร็จ และขอให้มีความภูมิใจในตัวเองแบบนี้ทุกๆวัน
จากนั้นนายกฯมอบของที่ระลึกให้ตัวแทนเยาวชน
ขณะที่นิสิตชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นตัวแทนเด็กและเยาวชน กล่าวขอบคุณนายกฯ ว่า ตนได้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลในฐานะเด็กและเยาวชนไทยที่อยากรู้ว่าเก้าอี้ของนายกฯเป็นอย่างไร แต่วันนี้ได้มาทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในฐานะเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ที่ปีนี้ท่านนายกฯได้มอบคำขวัญวันเด็ก มีความหมายที่ลึกซึ้ง และชี้แนวทางให้เด็กๆและตนเอง คำขวัญนี้ทำให้เราตระหนักถึงช่วงเวลาและประสบการณ์ในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่โต เพราะทุกสิ่งที่เข้ามาหาตัวเราย่อมเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้นายกฯและรัฐบาลทำงานได้อย่างเข้มแข็ง และพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้เติบโตในอนาคตข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในงานได้มีการจัดแสดงของขวัญที่เด็กๆนำมามอบให้กับนายกฯ เช่น ภาพวาดนายกฯกับเด็กๆ จากนักเรียนโรงเรียนเซนต์เอเมลี จ.อุบลราชธานี ,ภาพถ่ายนายกฯใส่กรอบรูป พร้อมข้อความว่า หนูรักท่านนายกฯ นอกจากนี้ยังมีช่อดอกไม้ และของฝากที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อแต่ละจังหวัดด้วย