'สนธิญา' ประเดิมปีใหม่ ร้องสอบปมทักษิณพบอันวาร์

2 ม.ค.2568 - ที่ สำนักงาน กพ. ถนนพิษณุโลก นายสนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสือต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ใน 4 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือกรณีรัฐบาลปล่อยให้ผู้เห็นต่าง แสดงความคิดเห็นในแอปพลิเคชั่น TikTok หยาบคาย ด่าทอ ผู้เห็นต่างกับฝ่ายรัฐบาล จึงเรียกร้องให้ตรวจสอบดูแล และดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย เนื่องจากมีพฤติกรรมด่าทอไปถึงบุพการี ซึ่งการกระทำของตนนั้นสามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ

เรื่องที่ 2 คือกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตรองนายกรัฐมนตรี นัดพบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ว่านัดเจอกันที่ใด และอยู่ในฝั่งประเทศไทยหรือมาเลเซีย เนื่องจากนายทักษิณยังติดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศในคดี ม.112 แต่หากเป็นฝั่งประเทศไทยนั้นนายอันวาร์ ได้รับอนุญาตจากประเทศไทยแล้วหรือไม่

ส่วน กรณีที่ 3 คือ นโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กับคนไทย โดยในกลุ่มอายุ 16 ปี ขึ้นไปจนถึง 59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว ว่าจะมีการใช้งบประมาณจากที่ใด และจะแจกเมื่อไหร่

ส่วนกรณีสุดท้าย คือ มาทวงถามเรื่อง MOU 44 ที่เคยยื่นให้นายกรัฐมนตรีได้ตรวจสอบ กรณีที่ประเทศกัมพูชาลากเส้นแบ่งเขตทับซ้อนทางทะเลผ่ากลางเกาะกูดประเทศไทยนั้น ขัดต่อสนธิสัญญา ไทย ฝรั่งเศษ และกฎหมายสากลทางทะเลที่ประเทศกัมพูชาไม่ได้เป็นสมาชิกหรือไม่ และเหตุใดรัฐบาลจึงไม่ประกาศยกเลิก MOU 44 ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการแจ้งความดำเนินคดีในกรณีที่มีผู้ด่าทอไปจนถึงบุพการีหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ขนาดนี้จะยังมีการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว แต่หากไม่หยุดพฤติกรรมตนเองมีทีมทนายความที่ดูแลคดี ในอนาคตก็อาจจะแจ้งความก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่า กรณีนายทักษิณ เดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนของมาเลเซีย จะส่งผลดีต่อประเทศไทยนั้น นายสนธิญา ระบุว่า ประเทศไทยมีปัญหารอบด้าน หากนายทักษิณมีศักยภาพจริงตามพรรคเพื่อไทยกล่าวอ้าง ก็ควรจะเห็นเป็นรูปธรรม แต่กรณีตากใบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับมีการปล่อยให้คดีหมดอายุความในสมัยของรัฐบาลของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ จะไล่เช็กบิลกับบรรดานักร้องเรียนนั้น นายสนธิญา กล่าวว่า ยินดี และสามารถฟ้องร้องได้เลย ซึ่งภายในสัปดาห์หน้า ตนมีข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวพันกับกลุ่มคนเหล่านี้ โดยจะมีการไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ซึ่งมีการโพสต์ข้อความกล่าวหาว่า ตนเองรับใช้ท็อปบูท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี

การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

แม้วเดินสายโชว์บารมี อิ๊งค์ปราศรัยนครพนม

"ทักษิณ" ลุยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. จ่อขึ้นเวทีเชียงราย 3 เวที "เทิง-เชียงของ-แม่จัน" ปราศรัยช่วย "สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ" ก่อนเดินสายลำปาง-นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย-มหาสารคาม-ศรีสะเกษ

'จักรภพ' จูงมือคู่ชีวิต พบ 'ทักษิณ' เชิญเป็นสักขีพยานจดทะเบียน 'สมรสเท่าเทียม'

นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก และ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วานนี้ (3 มกราคม) ตนพร้อมด้วย นายสุไพรพล ช่วยชู หรือ ป๊อบ คู่ชีวิต เดินทางเข้าพบ ดร.ทักษิณ ชินวัต

‘พ่อ-ลูก’ แห่ช่วยหาเสียง หลายพื้นที่สอย ‘ผู้สมัคร’

“แพทองธาร” ลุยช่วยหาเสียง อบจ.นครพนม 12 ม.ค.นี้ ส่วนพ่อนายกฯ ลงซ้ำ 18 ม.ค.นี้ “อนุทิน” ไม่หวั่น ขอแค่ส่งใจช่วยเครือข่ายสีน้ำเงินรักษาเก้าอี้ภาคอีสาน

'เทพไท' ยุกก.บห.ปชป.ย้ายไปสังกัดพท.จับตา 'ทักษิณ' กล้าปรับออกจากรัฐบาลหรือไม่

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊กในหัวข้อ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย เหมือนน้ำกับน้ำมัน มีเนื้อหาดังนี้