18 ธ.ค.2567 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กดังนี้
พิธีกรชาย
"จากที่ท่านนายกรัฐมนตรี ได้มีการกำหนดนโยบายในการบริหารราชการออกมา ก็มีการปรับใช้ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล มีการปรับปรุงนโยบายต่างๆให้สามารถทำได้จริง ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนได้จริงๆและสามารถกระตุ้นเรื่องค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องประชาชนได้จริงๆ โดยท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ก็ได้ประยุคใช้ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา โดยนโยบายสำคัญๆที่ได้มีการนำมาใช้เกิดผลประโยชน์ได้จริงๆ และเห็นผลได้จริงๆ อย่างเช่นเรื่องของเทศกาล Thailand Winter Festivals 2024 และแคมเปญ สุขท้าลอง 72 สไตล์ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งสุดท้ายแล้วเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ ก็มีผลต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจของไทยได้เยอะด้วย ....... "
พิธีกรหญิง
"นอกจากนี้โครงการที่ไม่พูดไม่ได้เลย นั่นก็คือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านเงินหมื่นนั่นเอง ที่มีการมอบให้กลุ่มเป้าหมายผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ซึ่งมอบแล้วจำนวนกว่า 14.55 ล้านรายเลยทีเดียว โดยเฟสแรกที่มีการดำเนินการดำเนินการแล้ว ก็พบว่าประขาชนมีความพึงพอใจอย่างมากถึงมากที่สุด ช่วยกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับกลุ่มเประบาง ต่อยอดการประกอบอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กับประเทศ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยกำลังที่กำลังดำเนินการในเฟสที่ 2 ต่อไปให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปนั่นเอง ........ "
ด้านบนเป็นส่วนหนึ่งของคำกล่าวของพิธีกรชายและหญิง เป็นการกล่าวนำก่อนที่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จะขึ้นบนเวทีเพื่อแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ 90 วันที่บริหารประเทศ
แทบจะเรียกได้ว่าเนื้อหาในการแถลงผลงานดังกล่าว นอกจากคลิปวีดิโอสั้นๆที่มีภาพของนายกรัฐมนตรีไปลงพื้นที่น้ำท่วมและอื่นๆ ไม่มีการแถลงผลงานอย่างอื่น มีเพียงจากที่พิธีกรทั้งสองกล่าวเท่านั้น เนื้อหาที่นายกรัฐมนตรีแถลงบนเวทีไม่ใช่การแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ 90 วันที่ผ่านมา แต่กลับเป็นการแถลงว่ารัฐบาลจะทำอะไรบ้างในปี 2568 และได้ทำการมอบหมายงานจากบนเวทีนั่นเลย ให้กับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องซึ่งนั่งมึนงงอยู่ด้านล่าง
นี่แสดงว่า รัฐบาลไม่มีผลงานอะไรเลยในรอบ 90 วันที่ผ่านมา เพราะที่พิธีกรชายกล่าวว่า นโยบายสำคัญๆที่ได้นำมาใช้เกิดผลประโยชน์ได้จริง และเห็นผลได้จริง เช่น Thailand Winter Festivals ซึ่งเป็นสร้าง events ขึ้นมาใหม่ส่วนหนึ่ง และรวบรวม events ต่างๆที่จัดในฤดูหนาวทั่วประเทศเข้ามาด้วยกันเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวเท่านั้น และแคมเปญ สุขท้าลอง 72 สไตล์ ซึ่งก็เป็นเพียง guide book ซึ่งทำเป็น electronic ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ดังนั้นเมื่อยก 2 กรณีนี้เป็นนโยบายสำคัญที่ทำสำเร็จ ก็แสดงว่าไม่มีอย่างอื่นที่สำคัญกว่านี้ที่ทำสำเร็จอีกแล้ว
ที่พิธีกรหญิงกล่าวยิ่งน่าอัศจรรย์ใจกว่า เพราะนโยบาย digital wallet ที่เดิมจะแจกเงินหมื่นให้แก่คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 50 ล้านคน และจะเกิดพายุหมุน 4 รอบ ทำไม่ได้อย่างที่คุยไว้ จากไม่ต้องกู้เงินเลยมาเป็นหาเงินกู้กันจนหัวปั่น ไปเบียดบังงบกลาง และงบประมาณจากส่วนอื่นๆจนคนบ่นกันขรม ท่ามกลางการคัดค้านและท้วงติงจากธนาคารแห่งประเทศไทย และจากนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำทั่วประเทศ ก็ยังไม่ฟัง แต่ท้ายที่สุดมาในสมัยของคุณแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ทำได้ในปีนี้เพียงแจกเงินสดคนละหมื่นบาทให้แก่กลุ่มเปราะบาง ซึ่งพิธีกรหญิงบอกว่ามีถึง 14.55 ล้านรายเลยทีเดียว และยังบอกว่าเงินหมื่นบาทที่แจกไปนี้ เป็นการต่อยอดการประกอบอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต และพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กับประเทศนั่นเลยทีเดียว แต่วิญญูชนก็ย่อมรู้ว่าที่กล่าวมาเป็นความจริงหรือเป็นเพียงการโฆษนาชวนเชื่อที่เกินจริง
การแจกเงินสด 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้านคน ทุกคนที่ได้รับเงินหมื่นย่อมไม่มีใครไม่พอใจ แต่ผลต่อเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตามมา เป็นผลระยะสั้นยิ่งกว่าไฟไหม้ฟาง ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างเด็ดขาด
สิ่งที่นายกรัฐมนตรีขึ้นพูดบนเวที ดังที่กล่าวแล้วว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำให้ปี 2568 ฟังแล้วยังรู้สึกว่า ยังไม่ได้ผ่านการคิดมาอย่างละเอียด ไม่ต่างอะไรกับ digital wallet ที่คุยว่าคิดมาดีแล้ว แต่เอาเข้าจริงกลับชัดเจนว่า ยังไม่ได้คิดมาดีพอ นี่ก็เช่นกัน เช่นบอกว่าจะทลายทุนผูกขาด ยกตัวอย่างมาเฉพาะเรื่องข้าว บอกว่าจะให้ชาวนาผู้ผลิตข้าวรายย่อยสามารถส่งออกได้เองซึ่งเป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง จะให้ประชาชนขุดลอกคูคลองแล้วให้เอาดินไปขาย คำถามมีมากมายว่า ประชาชนจะเอาเครื่องมือที่ไหนไปขุดลอกคลองสาธารณะ ถ้าให้ทุกคนขุดได้ก็คงแย่งกันวุ่นวาย ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะขัดกับกฎหมายหรือไม่ จะนำเรื่องการให้ทุนการศึกษา 1 อำเภอ 1 ทุนกลับมาอีก โดยจะเอาเงินจากกองสลาก นั่นแปลว่าจะต้องกลับไปทำหวยบนดินอย่างที่คุณทักษิณเคยทำหรือไม่
เรื่องการทำราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกว่า รัฐบาลกำลังจะใช้เงินงบประมาณซื้อกิจการรถไฟฟ้าจากเอกชน ซึ่งใครก็รู้ว่าเป็นของใคร เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และคุณทักษิณอย่างไร
ทุกเรื่องที่พูดมีคำถามอีกมากมายที่จะต้องตอบให้ได้ ซึ่งดูแล้วนายกรัฐมนตรีไม่น่าจะตอบได้ในขณะนี้ แต่นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ปี 2568 เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
เรื่องทุนการศึกษา ควรทราบว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และเงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล พระราชทานเป็นทุนการศึกษาให้กับเยาวชนที่ประพฤติดี มีทัศนคติถูกต้องดีงาม ตั้งแต่ปี 2552 โดยจัดตั้งเป็น “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” หรือ ม.ท.ศ.ทรงเป็นประธานมูลนิธิด้วยพระองค์เอง พระราชทานทุนการศึกษาแล้ว 16 รุ่น รวม 2564 ราย ถ้าไม่ต้องการหาเสียง ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อเป็นทุนการศึกษา ม.ท.ศ. ไม่ดีกว่าหรือ
ในขณะที่เรียกได้ว่า ในรอบ 90 วันของรัฐบาลชุดนี้ ไม่มีผลงานอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน กลับมีความพยายามที่จะทำในสิ่งที่มีแต่เสียงคัดค้าน แต่ก็ยังพยายามดึงดันจะทำให้ได้ เช่น
1. แทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย โดยพยายามผลักดันให้คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศหลายร้อยคน รวมอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 4 ท่าน คณะกรรมการชุดนี้ นอกจากมีบทบาทในการสรรหาคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ยังมีอำนาจในการอนุมัติให้นำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้อีกด้วย
2. แทรกแซงการบินไทย โดยพยายามเสนอชื่อข้าราชการกระทรวงการคมนาคม และกระทรวงการคลัง รวม 2 คน เพิ่มเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารแผนฟื้นฟู ทั้งที่มีตัวแทนกระทรวงการคลังอยู่ในกรรมการแล้ว 1 คน เพื่อให้รัฐบาลมีเสียงข้างมากในคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งเจ้าหนี้การบินไทยหลายคนสงสัยว่านี่เป็นการยึดการบินไทยโดยการเมือง แทนที่จะปล่อยให้เป็นเรื่องของเอกชนหรือไม่
3. แทรกแซงกองทัพ โดยนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พยายามเสนอแก้ไข พ.ร.บ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม โดยให้อำนาจการแต่งตั้งตำแหน่งผู้นำเหล่าทัพ และตำแหน่งที่สำคัญ ซึ่งเดิมเป็นของสภากลาโหม กลับไปเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี และให้เพิ่มปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปเป็นกรรมการสภากลาโหม อันเป็นการเปิดโอกาสให้พรรการเมืองและนักการเมืองสามารถผลักดันคนที่เป็นพวกตัวเองไห้เป็นผู้นำเหล่าทัพและตำแหน่งสำคัญอื่นๆได้ อย่างไรก็ดีพรรคเพื่อไทยปฏิเสธ โดยแก้เกี้ยวว่าเป็นเรื่องของส.ส.ไม่ใช่เรื่องของพรรค ทั้งที่การเสนอกฎหมายของส.ส.ก็ต้องผ่านความเห็นชอบของกรรมการบริหารพรรค
4. ผลักดันและดึงดันที่จะเปิดการเจรจากับกัมพูชาเรื่องทะเลอาณาเขต และการแบ่งผลประโยน์ใต้ทะเล ตามกรอบของ MOU 44 โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน และเสียงทักท้วงที่มาจากทุกทิศทุกทาง ไม่ยอมแม้กระทั่งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การทำ MOU 44 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้มีแนวโน้มว่า รัฐบาลจะยอมเสียพื้นที่ทะเลอาณาเขตที่กำหนดตามพระบรมราชโองการปี 2516 ส่วนหนึ่งไป เพื่อแลกกับผลประโยชน์จากใต้ทะเล ซึ่งไม่ทราบว่ามีผลประโยชน์ส่วนตัวเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
5. เร่งผลักดันการเสนอกฎหมายให้มี Entertainment Complex ที่มีบ่อนคาสิโนอยู่ด้วย อย่างน้อย 8 แห่งพร้อมกัน โดยอ้างว่าเพียงต้องการเอาธุรกิจใต้ดินขึ้นมาเป็นบนดินเท่านั้น ซึ่งก็มีข่าวว่า เป็นที่รู้กันแล้วว่า ใครจะได้รับใบอนุญาตเปิดบ่อนบ้าง
เห็นข่าวว่าปปช.มีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกรณีชั้น 14 เพื่อทำการไต่สวนข้าราชการจำนวน 12 คน แต่ก็ยังถือว่า ยังทำงานล่าช้าเกินไป เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ การปล่อยให้รัฐบาลแบบนี้อยู่ต่อไปนานเท่าใด ประเทศก็จะยิ่งเสียหายมากขึ้นเท่านั้น คุณทักษิณ ชินวัตร มีพฤติกรรมชัดขึ้นทุกวันว่ามีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทย ล่าสุดยังกล่าวตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลอย่างรุนแรง ท้าให้ส่งใบลาออก หากไม่เรียกว่าครอบงำพรรคแล้วจะเรียกว่าอะไร ยังไม่ได้ข่าวเลยว่า การพิจารณาคำร้องกรณีครอบงำพรรคก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว
กกต.และ ปปช.รีบทำงานเพื่อประเทศชาติกันอย่างเต็มที่หน่อยเถิดครับ พวกเรากำลังรอพวกท่านอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
20 สส. ก๊วนธรรมนัส ย้ายเข้าพรรคกล้าธรรมแล้ว เพิ่มจำนวน สส.เป็น 24 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม สส. 20 คนที่ถูกขับพ้นพรรคพลังประชารัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ 1.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา 2.นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี 3.นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ 4.นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา 5.นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว
'ชัยชนะ' ลั่นทักษิณไม่ผิด แต่เป็นผู้ได้รับผลของการกระทำนำตัวไปรักษาชั้น 14
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
กกต. เปิดสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ระหว่างวันที่ 23 – 27 ธันวาคม 2567
ด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เห็นชอบแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์กา
'ประธานกกต.' มั่นใจดูแลเลือกตั้งอบจ.เชื่อไม่เกิดปัญหาในจังหวัดบ้านใหญ่
ประธานกกต. มั่นใจ ดูแลเลือกตั้งอบจ. เชื่อไม่เกิดปัญหาในจังหวัดบ้านใหญ่ กกต.ประสานตร. - หน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแล แนะผู้สมัครตรวจสอบคุณสมบัติก่อนลงสนาม กองเชียร์มาได้แต่ต้องอยู่ในกรอบกม.
งงหนักมาก! ตั้ง ’ทักษิณ‘ เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน เพื่อสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้
สืบเนื่องจากกรณี นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแต่งตั้งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในตำแหน่งประธานอาเซียน ที่นา
“วราวุธ” มอบ "ปลัด พม." ร่วมคณะนายกฯ “แพทองธาร” ลุยน้ำท่วมนครศรีฯ - สุราษฎร์ฯ ช่วยผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)