ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามคำขอของผู้ฟ้องคดี ในคดีที่ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน
16 ธ.ค.2567 - ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ระหว่าง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ฟ้องคดี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ที่ 2 นายกรัฐมนตรี ที่ 3 ผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน คำวินิจฉัยยกอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง และผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งตามปกครองที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน คำวินิจฉัยยกอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง
ศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎ หรือคำสั่งทางปกครองจะต้องเข้าเงื่อนไขสามประการประกอบกัน สำหรับเงื่อนไขประการที่หนึ่ง ว่าคำสั่งน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้ผู้ฟ้องคดีมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มิใช่เป็นการแต่งตั้งข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่ง ไปดำรงตำแหน่งอีกกระทรวง ทบวง กรมหนึ่ง ผู้ฟ้องคดีจึงยังมีสถานะเป็นข้าราชการตำรวจและดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามเดิม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ฟ้องคดี
เมื่อผู้ฟ้องคดีมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนและศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ฟ้องคดี และมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน และยังไม่ปรากฏปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชอบด้วยกฎหมายในประการอื่น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งดังกล่าวจึงไม่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวินิจฉัยเงื่อนไขที่ว่า
คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีไม่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ครบองค์ประกอบในการที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามคำขอของผู้ฟ้องคดี กรณีจึงไม่จำต้องพิจารณาเงื่อนไขประการที่สอง ที่ว่าการให้คำสั่งดังกล่าวมีใช้ผลเฉพาะต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังหรือไม่
และเงื่อนไขประการที่สาม ที่ว่าการทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ หรือแก่บริการสาธารณะหรือไม่อีก จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกราชการไว้ก่อน และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง
ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองตามคำขอของผู้ฟ้องคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.เตือน แต่งรถด้วย ’เขากวางเรนเดียร์-ไฟหลากสี’ เข้าข่ายผิดกฎหมาย
มีพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่ง ได้ประดับตกแต่งยานพาหนะในลักษณะที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท
ไม่ทน! ฟ้อง 'อธิบดีทางหลวง-รมว.คมนาคม' เหตุเครนถล่มพระราม 2
'ศรีสุวรรณ' เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง เอาผิด 'อธิบดีทางหลวง-รมว.คมนาคม' เหตุเครนถล่มพระราม 2 หลังเกิดขึ้นซ้ำซาก
‘ก.ตร.เอก’ เตือนผู้มีอำนาจ ตั้ง ‘รองผบช.-ผบก.’ 116 เก้าอี้ ยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา
พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75 ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา
หนุ่มขับรถขโมยท่อน้ำเทศบาล พลเมืองดีช่วยกันจับได้ทัน
พ.ต.ท.ดำรงค์ สุชชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว รับแจ้งเหตุมีโจรขโมยตัดท่อสูบน้ำเหล็กที่ต่อไว้กับท่อยางของเทศบาลเมืองบางแก้ว