นายกฯแพทองธาร เปิดทำเนียบฯต้อนรับคณะนักธุรกิจจากอเมริกา กว่า 40 บริษัท

27 พ.ย.2567 - เวลา 10.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) นำโดย นายโรเบิร์ต โกเดค (H.E. Mr. Robert Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และนายไบรอัน แม็คฟีเตอร์ส (Mr. Brian McFeeters) รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการระดับภูมิภาค สภาธุรกิจสหรัฐฯ - อาเซียน พร้อมผู้แทนบริษัทสมาชิก จำนวนกว่า 40 บริษัท ครอบคลุมในธุรกิจพลังงาน สาธารณสุข เทคโนโลยีดิจิทัล การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมไปถึงที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และการเงิน เข้าร่วมการหารือด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้สนทนากับคณะนักธุรกิจจาก USABC เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐฯ

นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า การหารือกับนายกรัฐมนตรีของ USABC ในวันนี้มีนักธุรกิจจากหลากหลายภาคส่วนที่มีมูลค่าทางการค้ารวมกันเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนการลงทุนและ สร้างงานนับหมื่นคนในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้คณะ USABC ได้มีการประชุมกับรัฐมนตรีของไทยหลายท่าน ได้ผลที่น่าพอใจ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหรัฐ ฯ ทั้งการค้าและการลงทุน รวมถึงความร่วมมือในทุกระดับทุกมิติระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมาซึ่งได้เชิญชวนให้เอกชนสหรัฐฯ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมในอนาคต และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในไทยว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนเงินคืน 30% สำหรับการถ่ายทำภาพยนต์ในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย โดยปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียวมีภาพยนตร์จากสหรัฐฯ กว่า 50 เรื่องที่มาถ่ายทำในประเทศ สร้างรายได้อย่างมหาศาลและยังกระตุ้นความสนใจจากบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำให้เห็นถึงโอกาสใน การลงทุนที่ประเทศไทยด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ณ กรุงลิมา ประเทศเปรูได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของประเทศไทยในการส่งเสริมการเชื่อมโยงในทุกมิติ รวมถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งได้รับชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐ แสดงความยินดีกับพัฒนาการในเชิงบวกของไทย โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้น

สำหรับการหารือในวันนี้ ภาคธุรกิจสหรัฐได้กล่าวชื่นชมนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับภาคเอกชน รวมถึงนโยบายของรัฐบาลในการอำนวยความสะดวกในการลงทุน (Ease of Doing Business) การส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลในด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงภาคการเงิน และพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลในการกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและการลงทุนร่วมไทยและสหรัฐฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงนโยบาย “Soft Power” ที่มุ่งพัฒนาความร่วมมือในทุกภาคอุตสาหกรรม และไทยหวังจะแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ในการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยเน้นลงทุนทั้งด้านพลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมใหม่ เช่น Data Center Semi-conductor เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งไทยพร้อมรับฟังคำแนะนำจากภาคธุรกิจสหรัฐฯ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง นายจิรายุกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สองตระกูล หนึ่งผลประโยชน์: เบื้องหลังสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ในขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของไทย เดินทางเยือน ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 23-24 เมษายน 2568 ในวาระ ครบรอบ

นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์กัมพูชา เสริมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง กระชับความร่วมมือเพื่อนบ้าน

“แพทองธาร” เยือนพนมเปญอย่างเป็นทางการ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี สานต่อมิตรภาพสองประเทศ ผ่านโครงการพัฒนาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ

'วรงค์' ซัด 'พรรคส้ม' กลืนน้ำลายตัวเอง-รอเสียบร่วมรัฐบาล?

หมอวรงค์ ซัด “พรรคประชาชน” อภิปรายโรยเกลือแต่ไม่กล้ายื่นศาลรัฐธรรมนูญเอาผิด “อุ๊งอิ๊ง” เทียบสองมาตรฐาน ชี้เคยยื่นกรณี “ประยุทธ์” แต่วันนี้กลืนน้ำลายตัวเอง ถามรอเสียบร่วมรัฐบาลหรือไม่

หอมแก้มกลบข่าวร้าว 'อนิจจังตำแหน่งนายกฯ' ก่อนปรับ ครม.!

ข่าวลือเรื่องการปรับ ครม. หลังสงกรานต์ ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ แต่สะท้อนแรงสั่นสะเทือนที่เริ่มชัดในรัฐบาล ทั้งจากภายในพรรคเพื่อไทยเอง และเสียงวิจารณ์จากคนในสังคมที่เริ่มจับตาว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ กำลังไปไม่รอด

'อิ๊งค์' ปัดข่าวปรับ ครม. แต่หลุดวลี 'ตำแหน่งนายกฯ ก็อนิจจัง'

แพทองธาร แจงยังไม่มีแนวคิดปรับ ครม. ชี้ทุกอย่างในโลกล้วนไม่เที่ยง แม้แต่ตำแหน่งนายกฯ พร้อมรับฟังเสียงวิจารณ์ทั้งจากโพลและภายในพรรค แต่ยังไม่ตกผลึก ย้ำยังไม่ถึงขั้นเห็นต่างกับ “พ่อ” แม้มีข่าวทักษิณอยากปรับ ครม.