เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. ตรวจ กิตติรัตน์ ป.กมธ.งปม.2555 เข้าข่ายมีความผิดแบบ สมหญิง หรือไม่
17 พ.ย.2567-นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เปิดเผยว่า ผลของคดีฟุตซอลยังมีเรื่องที่ต้องตรวจสอบตามมาโดยต้องใช้เวลาอีกมาก แต่ขณะนี้ ตนสุขภาพไม่ค่อยดี เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง พอว่างและมีแรงทำงานก็ตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ ต่อไป โดยวันนี้ ตนย้อนไปดูรายงาน กมธ.งปม. 2555 พบว่า ประธานคณะ กมธ. คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง จึงนำคำพิพากษาคดี อม.31/2567 มาอ่านอีกครั้ง จึงเห็นว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะ ป.กมธ.งปม.2555 ควรจะมีส่วนรับผิดชอบตามคำพิพากษาดังกล่าวด้วยหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ จึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ว่าจะมีส่วนร่วมรับผิดชอบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 31/2567 ลงวันที่ 5 กันยายน 2567 ด้วยหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ในคำร้องได้คัดคำพิพากษามาบางส่วนเพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเป็นข้อ ๆ ดังนี้ ข้อ 1. คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 31/2567 ลงวันที่ 5 กันยายน 2567 ศาลพิพากษา(หน้า 65-67)ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 … ลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 100,000 บาท … องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากเห็นว่า พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกได้เพียง 3 เดือนเศษ และไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้รับประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินอย่างใด หลังเกิดเหตุจำเลยที่ 1 นำคณะครูไปยังสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 5 เพื่อแจ้งปัญหาการก่อสร้างสนามฟุตซอลไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้การบอกเลิกสัญญาในบางโรงเรียน เป็นการระงับยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหาย … ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 …. ได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยที่ 1 … ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
ข้อ 2. สาเหตุสำคัญแห่งคดีมีส่วนมาจาก คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ได้ระบุเงื่อนไขในชั้นกรรมาธิการว่าจะต้องใช้ข้อมูลรายละเอียดประกอบการจัดสรรงบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎรโดยการประสานงานจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ข้อ 3. ดังนั้น คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 31/2567 ลงวันที่ 5 กันยายน 2567 จึงเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 กำหนดไว้ ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานฯ
ข้อ 4. ทั้งนี้ เห็นได้จากบางส่วนของคำพิพากษาดังกล่าว ในหน้าต่าง ๆ เช่น (หน้า 34) สำหรับขั้นตอนต่อไปได้ความว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 อนุมัติงบประมาณในแผนงานขยายโอกาสและพัฒนาการศึกษา ผลผลิตผู้จบการศึกษาภาคบังคับ งบลงทุนครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้างเป็นเงิน 4,459,420,000 บาท แยกเป็นครุภัณฑ์งานบ้านงานครัวเป็นเงิน 512,142,000 บาท ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่มีราคาต่อหน่วยต่ำกว่า 10 ล้านบาท เป็นเงิน 3,947,278,000 บาท (หน้า 37) ซึ่งตามหนังสือแจ้งดังกล่าวมีคำว่า “ผู้เกี่ยวข้องในด้านการศึกษา” หมายถึง ผู้ประสานงานของพรรคการเมืองที่ได้รับงบแปรญัตติ ซึ่งมีเงื่อนไขในชั้นกรรมาธิการว่า จะต้องใช้ข้อมูลรายละเอียดประกอบการจัดสรรงบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้แทนมาประสานงานเพื่อจัดส่งรายชื่อโนงเรียนต่าง ๆ ที่ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง แม้พยานจะทราบและเป็นผู้รับรายชื่อโรงเรียนมาเพื่อดำเนินการจัดทำเอกสารตามขั้นตอนปฏิบัติ ก็ไม่อาจปฏิเสธหรือปฏิบัติเป็นอน่างอื่นได้ เพราะจำเป็นต้องทำตามที่ถูกกำหนดมาแล้วโดยคณะกรรมาธิการ
(หน้า 38) งบประมาณที่ถูกปรับลดไว้จะกลายสภาพเป็นงบแปรญัตติ ซึ่งจะรับุเงื่อนไขไว้ในชั้นกรรมาธิการว่าจะใช้ข้อมูลจากสภาผู้แทนราษฎรที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะจัดสรรไปใช้จ่ายตามความต้องการของตนเอง เพราะฉะนั้นโรงเรียนใดจะได้รับงบแปรญัตติมากน้อยเพียงใดจะถูกกำหนดมาแล้วโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กำหนดโควตาเป็นงบประมาณของพรรคการเมือง ดำหนดกรอบวงเงินเป็นรายพรรค เมื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญอนุมัติงบประมาณแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณจะส่งบัญชีคุมยอดทางโทรสารมาให้นายรังสรรค์ จากนั้นนายรังสรรค์จึงส่งมอบบัญชีคุมยอดให้พยาน แล้วำพยานส่งมอบบัญชีคุมยอดต่อให้แก่นางสาวสุดา เมื่อประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน 2555 มีผู้ประสานงานพรรคการเมืองมาประสานกับนายรังสรรค์เพื่อควบคุมงบไม่ให้เกินกรอบวงเงินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคน ผู้ประสานงานพรรคการเมืองทยอยส่งรายชื่อโรงเรียนให้นายรังสรรค์ตามเอกสารหมาย จ.264 นายรังสรรค์เรียกพบานและนางสาวสุดาไปรับข้อมูลมาจัดทำเอกสารเสนอจำเลยที่ 2 บางครั้งผู้ประสานงานของพรรคการเมืองจะประสานกับพยานหรือนางสาวสุดาโดยตรง นอกจากนี้ผู้ประสานงานของพรรคการเมืองจะประสานกับพยานหรือนางสาวสุดาโดยตรง นอกจากนี้ผู้ประสานงานพรรคการเมืองยังมอบบัญชีรายชื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้รับการสนับสนุนงบประมาณด้วย ตามเอกสารหมาย จ.254 หน้า 9867 ถึง 9870 โดยปรากฏชื่อของจำเลยที่ 1 อยู่ในหน้า 9870 ลำดับที่ 132 เห็นว่า พยานโจทก์มีทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณและเจ้าหน้าที่สำนักงานคระกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่างเบิกความสอดคล้องเชื่อมโยงกันว่ามีการรับส่งบัญชีคุมยอดฉบับดังกล่าวจริง
(หน้า 39) แต่บันทึกข้อความสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มงบประมาณ 3 ที่เสนอจำเลยที่ 2 เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ มีข้อความระบุชัดแจ้งว่า “…คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ได้ระบุเงื่อนไขในชั้นกรรมาธิการว่าจะต้องใช้ข้อมูลรายละเอียดประกอบการจัดสรรงบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎรโดยการประสานงานจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และขณะนี้สำนักงานคระกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการประสานข้อมูลจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นบางส่วนยังไม่ครบถ้วนทั้งหมด” ตามเอกสารหมาย จ.239 และ จ.240 โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเท็จจริงก็ปรากฏชัดอยู่ว่าได้มีการจัดสรรงบประมาณตามบัญชีรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือพรรคการเมือง เอกสารหมาย จ.254 หน้า 9867 ถึง 9870 จริง
(หน้า 40) พยานหลักฐานจากการไต่สวนฟังได้ว่า มีการจัดทำบัญชีคุมยอดรายการแปรญัตติ (ใบโควตา) จริง (หน้า 44) เห็นว่า บัญชีรายละเอียดขอสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามเงื่อนไขในคณะกรรมาธิการวิสามัญว่าจะต้องรอข้อมูลจากสภาผู้แทนราษฎร โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะจัดสรรไปใช้จ่ายตามความต้องการของตนเอง บัญชีรายละเอียดขอสนับสนุนงบประมาณดังกล่าวจึงระบุไว้แต่เฉพาะรายชื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องการให้สำนักงานคระกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดสรรงบประมาณดังกล่าวมีรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราฎรเพียงบางราย แสดงให้เห็นว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ใดไม่ประสงค์จะเกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณก็จะไม่มีรายชื่อในบัญชีรายละเอียดขอสนับสนุนงบประมารดังกล่าว (หน้า 45-48) รวมทั้งหน้าอื่นๆ และสรรพเอกสารในสำนวน ป.ป.ช. ควรรู้ดีอยู่แล้ว
ข้อ 5. เนื่องจากผลของคดีดังกล่าว อาจทำให้เห็นได้ว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายร้อยคน น่าจะมีส่วนรับผิดชอบด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
ข้อ 6. สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่นๆ อีกหลายร้อยคน จากหลายพรรคการเมือง รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ที่มีชื่อปรากฏในพยานเอกสารของคดีดังกล่าว ซึ่งมีหลายหมื่นหน้า จะต้องใช้ทำการตรวจสอบอีกพอสมควร เพื่อจะได้ร้องเป็นราย ๆ ไป เพราะมีการใช้งบแปรญัตติที่แตกต่างกัน หากผู้ใดมีพยานหลักฐานควรแก่การร้อง ก็จะร้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบต่อไป
นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า สส. หรือรัฐมนตรี รายอื่น จะยังมีเวลาตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.151 ดังที่ศาลวินิจฉัยไว้เป็นแนวทางแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดหนังสือ ‘หมอวรงค์’ ร้อง ป.ป.ช. สอบ 4 ประเด็นใหญ่ ฟัน ‘ทักษิณ’ ปราศรัยอุดรฯเข้าข่ายผิดกม.
ในการปราศรัยที่อุดรที่ผ่านมา จริงอยู่คุณมีสิทธิ์เสรีภาพที่จะพูด อยากจะปราศรัย เป็นเรื่องของคุณ แต่คุณต้องรับรู้นะครับว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้าคุณทำให้สงสัยได้ว่า มีความเสี่ยงที่ทำผิดกฏหมาย
‘แม้ว’ ย่ามใจไม่เลี้ยงหลาน ทำตัวเป็น ‘ส่วนหนึ่งของปัญหา’
แม้แต่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังตั้งคำถามต่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี
ร่อนจม.เปิดผนึกถึงพรรคร่วมรัฐบาล ขวางคนไม่เหมาะสมนั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ออกจดหมายเปิดผนึกถึง พรรคการเมืองและรัฐมนตรีของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล เรื่องการคัดเลือกประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย คุณสมบัติ
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???
เอาแล้ว 'คปท.' บอก 'ป.ป.ช.' จะสรุปสำนวนพ่อนายกฯ นอนชั้น 14 ในเดือนนี้
'คปท.' พอใจคำตอบ ป.ป.ช. หลัง ผู้ช่วยเลขาฯป.ป.ช. แจ้งคืบคดี 'ทักษิณ' นอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ สรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช.ชุดใหญ่ พ.ย. นี้
ต้องถึงศาล! แกนนำม็อบงัดกฤษฎีกาชี้ 'กิตติรัตน์' ขัดระเบียบฯยังไม่พ้น 'ตำแหน่งทางการเมือง' 1 ปี
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ต้องถึงศาล มีเนื้องหาดังนี้่