12 พ.ย.2567- เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง) ที่โรงแรม เบเวอร์ลี วิลเชอร์ อะ โฟร์ซีซั่น นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่ และหน่วยงานทีมประเทศไทยประจำภูมิภาคอเมริกา อาทิ แคนาดาอาร์เจนตินา เม็กซิโก บราซิล ชิลี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ปลัดกระทรวงต่างประเทศ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคอเมริกา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาที่เน้น ประชาชนเป็นศูนย์กลางและการปกป้องดูแลผลประโยชน์ของไทยและคนไทยในต่างประเทศ
โดยนายกฯ กล่าวทักทายทุกส่วนที่เข้าร่วมประชุมทั้งในห้องประชุมและผ่านระบบซูมว่า ยินดีที่ได้มาเจอทุกคน ก่อนจะเดินทางไปประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ถือเป็นเรื่องดีที่ได้คุยกับทูตทุกประเทศ ได้เปิดมุมมอง และได้รู้ถึงความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างประเทศ การมาวันนี้เพื่อเน้นย้ำนโยบายของรัฐบาล และล่าสุดสหรัฐอเมริกาได้รัฐบาลใหม่ซึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน รัฐบาลพยายามจะเตรียมความพร้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และขอเน้นย้ำการทูตเชิงรุกที่เป็นทัพหน้าของประเทศ อยากให้ทูตทุกท่านประสานงานร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และรัฐบาล เรื่องการลงทุนจะเกิดการทำงานเต็มรูปแบบ ประเทศไทยจะแข็งแรง และขอให้ทูตสร้างความเข้าใจว่ารัฐบาลไทยทำอะไรอยู่ ซึ่งขณะนี้ไทยยังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจำเป็นต้องช่วยกัน รัฐบาลพยายามทุกทางที่จะนำเงินเข้ามาในประเทศให้ได้มากที่สุด จึงอยากให้ทูตช่วยเน้นเรื่องการลงทุนเป็นพิเศษ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาเน้นย้ำนโยบายรัฐบาลด้วยตัวเองที่ยืนยันว่าประชาชนเป็นศูนย์กลาง และขอบคุณผู้บริหารสถานทูตในแต่ละประเทศที่ได้ดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยในต่างแดน ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในการสนับสนุนคนไทยในต่างประเทศ และนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือนทัพหน้าของประเทศ โดยขอให้ทีมไทยแลนด์ที่ประกอบด้วยภาคส่วนต่างๆ ทั้งเอกอัครราชทูต ทูตพาณิชย์ ผู้แทนของบีโอไอต้องช่วยกันเร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากไทยยังประสบปัญหาเศรษฐกิจ จำเป็นต้องหารายได้ใหม่ๆเข้าประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง ขอให้มองหาโอกาสและความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน และขอให้เร่งเชิญชวนให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงนำแผนนโยบายด้านต่างประเทศของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ เพื่อสร้างเครือข่ายมิตรประเทศของไทยในเวทีโลก หรือ Friends of Thailand กับภาคส่วนต่าง ๆ ของต่างประเทศ เพื่อให้ประเทศไทย มีเศรษฐกิจที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
“จุดยืนของรัฐบาลอยากเห็นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และอยากทำให้ประเทศไทยพร้อมและรัฐบาลพยายามสร้างโอกาสในประเทศมากขึ้นเพื่อสร้างอนาคตที่ดี รองรับให้คนไทยทำงานในประเทศ ตนคือหัวหน้าทีมประเทศไทยมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาอารยะประเทศได้ ที่สำคัญประเทศไทยมีคนเก่งมาก แต่ส่วนหนึ่งทำงานอยู่นอกประเทศ รัฐบาลจึงตั้งใจจะทำให้ประเทศไทยเรามีความแข็งแรงทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้คนไทยมีโอกาสมากขึ้น เพื่อดึงคนไทยคนเก่งๆ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศกลับมาเพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทย จึงอยากให้ทูตเชิญชวนคนไทยกลับมาทำงานในประเทศไทยแม้จะเรียนจบในต่างประเทศ” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เป็นเรี่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งเอกอัครราชทูต ประเทศชิลีได้รายงานว่าคนชิลีชื่นชอบภาพยนต์ไทยที่สามารถส่งออกไปต่างประเทศ โดยเป้าหมายรัฐบาลสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ในด้านการผลิตภาพยนตร์และ ซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆ เช่น การอบรม หรือ เปิดคอร์สพิเศษ จากทีมต่างประเทศกับบุคคลในอุตสาหกรรมไทย รวมทั้งด้านเทศกาล ซึ่งตนเองได้มีการเปิดโครงการ winter festival ซึ่งเป็นการประสาน กิจกรรมงานเทศกาลต่างๆกับ การท่องเที่ยว ให้เมืองไทยเที่ยวได้ทั้งปี ซึ่งต้องขอให้เอกอัครราชทูตทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์ว่าประเทศไทยพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนเดินทางมาได้มีโอกาสประชุมตรวจความพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ได้มีการพัฒนาระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ทันสมัย รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหน้าด่านที่สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายมากขึ้น
นายกฯ ยังกล่าวให้ความมั่นใจว่าการเมืองมีความมั่นคงพอสมควรแล้ว ฉะนั้นจะทำเรื่องนี้ให้แข็งแรงมากที่สุด เพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจและนำเม็ดเงินมาลงทุนในประเทศไทย และในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเราจะอยู่จนครบเทอมเพื่อให้การลงทุนมีความต่อเนื่อง เพราะแน่นอนว่าเทอมข้างหน้าอยากให้นำเรื่องนโยบายการลงทุนไปต่อ ไม่อยากให้ประเทศสะดุด เพราะเรื่องการเมืองในอดีตมักเป็นเช่นนั้น จึงอยากจะสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ได้ย้ำถึงความสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ของไทย( Start up )รัฐบาลมีแนวทางในการจัดตั้งกองทุน matching fund จับคู่บริษัทไทยกับต่างประเทศ เพื่อให้ภาคเอกชนไทยมีตลาดกว้างมากขึ้น
รวมถึงการและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยมีโอกาสไปศึกษาในต่างประเทศว่า ตนตั้งใจจะให้มีการจัดหาทุนการศึกษา เพี่อส่งเสริมเด็กไทย นักเรียนไทยให้มาศึกษาต่อในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ แอร์โร่ สเปซ ดิจิทัลเทคโนโลยีเป็นต้น และขอฝากดูแลคนไทยกว่า 3 แสนในสหรัฐ ฯ รักษาผลประโยชน์ของคนไทย และให้ใช้ชีวิตต่างแดนอย่างเข็มแข็งด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อุ๊งอิ๊ง' พบชุมชนไทยในแอลเอ เผยมีโอกาสจะชวน 'คุณพ่อ' มาเที่ยว
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เวลา 14.00 น. (ตามเวลานครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง) น.ส.แพทองธาร ชิ
อดีตบิ๊กข่าวกรอง ถาม MOU เจรจาแล้วไทยจะได้-เสียอะไร เตือนซ้ำรอยปราสาทพระวิหาร
ฝ่ายตรงข้ามลากเส้นผ่าเกาะกูด แกล้งลากเส้นอ้อม แปลว่าล้อมไหม ช่วยบอกหน่อย เจรจาแล้วไทยจะได้อะไร ไทยต้องเสียอะไร เอาอะไรไปแลกเปลี่ยน
จับตา ‘อุ๊งอิ๊ง’! โชว์วิสัยทัศน์ เวทีผู้นำเอเปก
จับตา "นายกฯ อิ๊งค์" โกอินเตอร์! บินลัดฟ้าสหรัฐ ไม่ได้พบตัวแทนทำเนียบขาว แต่ไปเจอทีมไทยแลนด์ มอบนโยบายขับเคลื่อนความร่วมมือในภูมิภาคอเมริกา
นายกฯอิ๊งค์ สั่งปลัดกระทรวงเร่งเบิกจ่ายงบกลาง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวผ่านรายการเสียงจากใจ ไทยคู่ฟ้า ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่ผ่านมา
'วรงค์' เหนื่อยใจกับนายกฯอิ๊งค์ พูดวกวน เหมือนดีใจที่กัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปอ้อมเกาะกูด
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "เหนื่อยใจกับอุ๊งอิ๊ง"
นายกฯอิ๊งค์ เตรียมบินไปสหรัฐ ร่วมประชุมเอเปก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และร่วมการประชุมผู้นำประเทศ