30 ต.ค.2567- นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ผู้แทนราษฏร กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาแสดงความเห็น ระบุ ไทยสามารถเจรจาหาประโยชน์ร่วมกันในทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่ทับซ้อน อ่าวไทยกับกัมพูชา โดยไม่ต้องพิจารณาถึงการทับซ้อนของเขตแดนทางทะเล ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนายภูมิธรรม เพราะ เอ็มโอยูระหว่างไทยและกับพูชา ที่ลงนามในปีพศ. 2544 ได้มีข้อตกลงไว้ชัดเจนว่า การเจรจาเรื่องเขตแดนทางทะเลทับซ้อนและการเจรจาร่วมพัฒนาทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว ไม่สามารถแบ่งการเจรจาทีละเรื่องได้ อีกทั้งปัญหาเรื่องเขตแดน ไม่ว่าจะเป็นเขตแดนทางบก ทางน้ำหรือทางอากาศ ก็เป็นเรื่องอ่อนไหวอย่างยิ่ง
นายจุลพงศ์ ชี้ว่า เอ็มโอยูปี 2544 ได้มีการแบ่งพื้นที่ข้อพิพาทในอ่าวไทยออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนพื้นที่ทับซ้อนเหนือเส้น 11 ละติจูดองศาเหนือขึ้นไปให้แบ่งเขตทางทะเลชัดเจน ส่วนพื้นที่ทับซ้อนใต้เส้น 11 ละติจูดองศาเหนือลงมา ให้มีการพัฒนาร่วมกัน เพื่อแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีชีวิต
แต่หลังจากที่มีการลงนามในเอ็มโอยูปี 2544 แล้ว การเจรจาเพื่อการพัฒนาร่วมกันไม่คืบหน้า อีกทั้งมีกระแสคัดค้านจากประชาชนหลายส่วนในประเทศไทย เนื่องจากมีการอ้างถึงหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ว่า การกระทำของรัฐหนึ่งไม่มีผลผูกพันอีกรัฐหนึ่ง ซึ่งในกรณีเขตแดนทางทะเลของไทยและกัมพูชา การประกาศเส้นเขตแดนทางทะเลของกัมพูชาที่พาดผ่านกลางเกาะกูด ถือว่าไม่ผูกพันประเทศไทย
นายจุลพงศ์ จึงขอเสนอแนวทางออก 2 ทางให้แก่รัฐบาล โดยรัฐบาลสามารถทำไปพร้อมๆ กัน ดังนี้ ทางแรกคือ การที่รัฐบาลไทยเปิดเผยแนวทางของการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทยให้ประชาชนไทยได้ทราบ อย่าไปแอบเจรจากับกัมพูชาเงียบๆ การเปิดเผยแนวทางก็เช่น รูปแบบที่จะทำความตกลงการพัฒนากับฝ่ายกัมพูชา สัดส่วนการแบ่งผลประโยชน์ องค์กรที่จะแสวงหาประโยชน์ร่วมกับข้อตกลงเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่ ข้อตกลงเกี่ยวกับการเงินและภาษี กฎหมายที่จะใช้บังคับในพื้นที่พัฒนาร่วม และระยะเวลาของข้อตกลง และเมื่อมีการเจรจาทำข้อตกลงแล้ว จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ความเห็นชอบของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 และมีการออกกฎหมายภายในที่จะต้องดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ลำพังการเจรจาพัฒนาเชิงพาณิชย์บนพื้นที่ทับซ้อนอย่างเดียวจะเกิดกระแสต่อต้านในประเทศในเรื่องเขตแดนทางทะเลได้ และการเจรจาเขตแดนก็ทำได้ยาก ดังนั้น แนวทางที่สองคือการให้ศาลหรือตุลาการระหว่างประเทศเป็นผู้ตัดสินเขตไหล่ทวีปที่ทับซ้อนกันอยู่
โดยศาลหรือตุลาการระหว่างประเทศที่ควรมีบทบาทในการตัดสินมีถึง 3 องค์กรคือ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศและคณะตุลาการตามภาคผนวกของอนุสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล คศ. 1982
ในกรณีของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ประเทศไทยไม่ได้รับรองเขตอำนาจศาลนี้ กรณีของศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ ประเทศไทยเป็นภาคี แต่กัมพูชาไม่ได้เป็นภาคีจึงไม่ยอมรับอำนาจของศาลกฎหมายทะเลระหว่างประเทศ องค์กรที่สามที่น่าจะเป็นทางออกให้ทั้งไทยและกัมพูชา คือคณะตุลาการตามภาคผนวกของอนุสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล โดยไทยและกัมพูชาอาจร่วมกันเสนอข้อพิพาทระหว่างกันในเขตแดนทางทะเลให้คณะตุลาการนี้เป็นผู้พิจารณา และหากคณะตุลาการพิจารณาออกมาว่ามีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณใด ก็ใช้ข้อตกลงการพัฒนาร่วมกันตามแนวทางแรกมาใช้
"ผมขอแสดงความไม่เห็นด้วยอีกครั้ง ต่อการที่รัฐบาลจะเร่งเจรจาการพัฒนาแต่เชิงพาณิชย์บนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชาอย่างเดียว โดยไม่นำเรื่องเขตแดนทางทะเลมาพิจารณาพร้อมกันไปด้วย ไม่ใช่เพราะคลั่งชาติ แต่เป็นเพราะความหวาดระแวงของประชาชนในเรื่องผลประโยชน์ซ้ำซ้อนที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านภายในประเทศจนถึงขนาดทำให้รัฐบาลต้องล้มได้แล้ว และอาจจะนำไปสู่ความเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้เรื่องเขตแดนทางทะเลหากมีข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลเกิดขึ้นในอนาคตดังถ้าไม่แก้ปัญหาเสียตั้งแต่ต้น ดังเช่นกรณีที่ไทยเคยแพ้คดีแก่กัมพูชาเมื่อหกสิบกว่าปีก่อนโดยเหตุผลหนึ่งที่ศาลโลกยกขึ้นมาคือการยืนเคารพธงชาติกัมพูชาบนพื้นที่พิพาทบนเขาพระวิหาร" นายจุลพงศ์ ทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กอ้วน' ลั่นยังรักกลาโหมชี้ข่าวปรับ ครม.อาจมาจากคนที่ต้องการอะไรก็ได้
'ภูมิธรรม' ชี้ข่าวปรับครม. เกิดจากคนที่มีวัตถุประสงค์ ยืนยันนายกฯบอกหลายครั้งว่าไม่มี ลั่น ผมรักกลาโหม
'สว.สงขลา' ซัด 'ภูมิธรรม' ขีดเส้นตาย 7 วันมีแต่ทำให้สถานการณ์ไฟใต้รุนแรงขึ้น
สว.ไชยยงค์โต้ภูมิธรรม อย่ากดดันด้วยการขีดเส้นตาย 7 วันกับเจ้าหน้าที่รัฐ ย้ำการดับไฟใต้ต้องมียุทธศาสตร์ ใหม่ มีเครื่องมือคือกฎหมายก่อการร้าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการแก้ปัญหา
'ภูมิธรรม' ย้ำนายกฯ อิ๊งค์ยังไม่ส่งสัญ ญาณปรับ ครม.
'ภูมิธรรม' ย้ำยังไม่มีสัญญาณปรับครม. จากนายกฯ เลย หลังมีกระแสข่าว สส.พท.เขย่า บอกจะบริหารความพึ่งพอใจให้มากที่สุด
'ภูมิธรรม' ขีดเส้น 7 วัน แก้ไฟใต้ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ไฟเขียวยุทธการเชิงรุก
"ภูมิธรรม" ไฟเขียวทหาร- ตร. เปิดยุทธการเชิงรุกสกัดก่อเหตุชายแดนใต้ อย่าตั้งรับอย่างเดียว ขีดเส้น ผบ.ทบ. - ผบ.ตร. ต้องทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญใน7วัน พร้อมยอมรับ “ดับไฟใต้ ยากลำบาก-ซับซ้อน เผยหนึ่งปมเหตุเพราะคิดปรับยุทธศาสตร์ หลายส่วนยังไม่ให้ความจริงในการคุย เดินหน้าถกสันติสุข ภายใต้กรอบ”รัฐเดี่ยว” ภายใต้ รธน.
โถ! บิ๊กอ้วนเพิ่งสั่งขันน็อตแก้ปัญหาไฟใต้
'ภูมิธรรม' ห่วง สถานการณ์ชายแดนใต้ หลังก่อเหตุรายวัน ขันน็อตฝ่ายความมั่นคง ปรับเปลี่ยนการทำงานเชิงรุก อย่ารอตั้งรับ
'ภูมิธรรม' ฟุ้งจับมือ 'เสี่ยหนู' บ่อยเพราะมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน!
'ภูมิธรรม' ย้ำ บมือคุย 'เสี่ยหนู' บ่อย เหตุมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เผย รมต.ยังไม่มีใครได้รับสัญญาณจะถูกปรับพ้นครม. บอก นายกฯคุยหลายฝ่ายปมปัญหาราคาสินค้า