ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์  ปชช.เนืองแน่นสองฝั่งเจ้าพระยา ปลื้มปีติได้ชื่นชมพระบารมี ตราตรึงใจพระราชพิธีสมพระเกียรติยิ่งใหญ่งดงามตระการตา

27 ต.ค.2567-เวลา 15.14 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคไปยังวัดอรุณราชวราราม ณ ท่าวาสุกรี   ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา  และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยเสด็จในการนี้ด้วย โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา เฝ้าฯ รับเสด็จ

เมื่อเสด็จฯ ถึงยังสะพานฉนวนประจำท่าเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนเรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ เรือพระที่นั่ง 4 ลำ กำลังพลทั้งสิ้น 2,412 นาย

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลเรือโท สมบัติ จูถนอม ผู้ควบคุมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ กราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนฝีพายประจำเรือพระที่นั่งแล้ว  ว่าที่นาวาเอก คมสันต์ ศรีหลง นายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ กราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เข้าเทียบสะพานฉนวนน้ำ หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวรารามแล้ว   พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง รับพระบรมราชโองการแจ้งนายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ให้ยาตราขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ต่อมาเวลา 15.22  น. เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เคลื่อนออกจากท่าวาสุกรีเพื่อเข้าริ้วขบวนยาตราขบวนไปยังท่าฉนวนน้ำหน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม  ขณะนั้นกองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังฆ์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ และกลองชนะ ประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน  จากนั้นเวลา 16.08 น. เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เทียบสะพานฉนวนน้ำ หน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เจ้าพนักงามพระราชพิธีเชิญผ้าพระกฐินจากบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชไปรอทูลเกล้าฯ ถวาย ในพระอุโบสถฯ

ต่อมาเวลา 16.12 น. เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เข้าเทียบท่าฉนวนน้ำ หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จขึ้นท่าฉนวนน้ำ หน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการขบวน พยุหยาตราทางชลมารค กราบบังคมทูลพระกรุณารายงาน พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เฝ้าฯ รับเสด็จที่บริเวณปลายฉนวนน้ำ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จขึ้นสะพานฉนวนน้ำหน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร    สิริวิบูลยราชกุมาร ไปยังพระอุโบสถ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัตทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธธรรมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 2  ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตรพระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้วทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร ทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐินทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม แล้วทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว เสด็จฯ ไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินทรงหลั่งทักษิโณทก

เสร็จแล้วพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายเกียรติวิสุทธิ์ เพ็ชรหมื่นไวย ผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินบำรุงวัดเข้าเฝ้าฯ รับพระระระทานของที่ระลึก ตามลำดับ แล้วเสด็จ ฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์

เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามถวายพระพุทธนฤมิตร (จำลอง) ขนาดหน้าตัก 9 นิ้วเนื้อทองคำ และเนื้อเงิน แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายพระพุทธนฤมิตร(จำลอง) ขนาดหน้าตัก 7 นิ้ว เนื้อทองคำ และเนื้อเงิน แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบราชินี และถวายและถวายพระพุทธนฤมิตร (จำลอง) ขนาดหน้าตัก 3.5 นิ้ว เนื้อทองคำและเนื้อเงินแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี  นารีรัตนราชกัญญา และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร

ต่อมาเสด็จออกชานหน้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระพุทธนามิตร(พระพุทธรูปฉลองพระองค์รัชกาลที่ 2 แล้วเสด็จฯ ไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี    นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงวางพุ่มดอกไม้และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ แล้วเสด็จไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

สำหรับการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินในปี 2567 นี้ กองทัพเรือ (ทร.) ดำเนินการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ โดยจัดรูปขบวนเรือแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย มีกำลังพลประจำเรือเข้าร่วมฝึกซ้อมในทุกริ้วขบวน 2,412  นาย ใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ  รวมถึงเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ซึ่งเป็นริ้วสายกลาง เป็นเรือสายสำคัญ นอกจากนี้ มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม เรือกลองใน ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวน เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน

 ส่วนริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก ริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ ระยะทางจากฉนวนน้ำท่าวาสุกรีถึงฉนวนน้ำท่าหน้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม รวม 3.9 กิโลเมตร  โดยมีเจ้าพนักงานเห่เรือ 2 นาย เรือโทสุราษฎร์ ฉิมนอก และ พันจ่าเอกพูลศักดิ์ กลิ่นบัว  สังกัดกรมการขนส่งทหารเรือ ใช้กาพย์เห่เรือพระราชพิธี 4 บทประพันธ์ โดย พล.ร.ต.ทองย้อย แสงสินชัย ประกอบด้วยบทสรรเสริญพระบารมี  บทบุญกฐิน บทชมเรือ และบทชมเมือง

ทั้งนี้ ตามโบราณราชประเพณี ริ้วกระบวนเรือพระราชพิธีที่จัดขึ้นสำหรับพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในการต่าง ๆ ทั้งเป็นการส่วนพระองค์ และที่เป็นการพระราชพิธี ได้ประกอบการมาแต่โบราณตั้งแต่สมัยสุโขทัย สืบทอดต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์ จวบจนปัจจุบัน แต่เดิมกระบวนพยุหยาตราสถลมารค (บก) หรือชลมารค (น้ำ) เป็นการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อประกอบการพระราชพิธีต่างๆ ที่สำคัญ เช่น พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จไปนมัสการรอยพระพุทธบาทสระบุรี การอัญเชิญพระพุทธรูปที่สำคัญจากหัวเมืองเข้ามาประดิษฐาน การต้อนรับราชทูตจากต่างประเทศ และการพระบรมศพ เป็นต้น

การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2500 ซึ่งเป็นปีที่ทางราชการได้จัดงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษขึ้น และจัดให้มีขบวนเรือพระราชพิธีอัญเชิญพระพุทธรูป ไตรปิฏก และพระสงฆ์ แห่ไปตามลำแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นการเฉลิมฉลอง ขบวนครั้งนี้ เรียกว่า “ขบวนพุทธพยุหยาตรา” การจัดรูปขบวนเรือคล้ายรูปขบวนพยุหยาตราน้อย แต่ไม่ครบ เนื่องจากเรือพระราชพิธีชำรุดเสียหายไปบ้าง มาสู่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชพิธีครั้งสำคัญการเสด็จเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  บรรยากาศตั้งแต่เวลา 8.00 – 12.00 น. ประชาชนจำนวนมากพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองมาจับจองพื้นที่และปักหลักเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีแน่นขนัดตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 8 จนถึงวัดอรุณราชวรารามฯ  จุดให้ประชาชนชมขบวนพยุหยาตรา 14 จุด   ได้แก่ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี  ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สวนสุขภาพฯ รพ.ศิริราช อัฒนจันทร์อุทยานสถานพิมุข รพ.ศิริราช วัดระฆังโฆษิตาราม วัดอรุณราชวราราม แนวริมน้ำธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย  ทางเดินริมน้ำสวนสันติชัยปราการ ลาน 60 ปี ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ลานปรีดีพนมยงค์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  ลานปรีดีพนงยงค์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์่ ท่าช้าง ท่าเตียนและท่าเรือวัดโพธิ์

ประชาชนต่างปลื้มปีติที่ได้ชื่นชมพระบารมี พากันเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องแม่น้ำเจ้าพระยา โบกธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และธงชาติพริ้วปลิวไสว    พร้อมรับชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของขบวนพยุหยาตราทางชลมารคอันเป็นประเพณีที่มีมายาวนาน เป็นความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทยมีหนึ่งเดียวในโลกในการจัดงานเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567

สำหรับการถวายผ้าพระกฐินหลวง เป็นพระราชกรณียกิจอันสำคัญของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นพุทธมามกะและเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก โดยจะเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินด้วยพระองค์เอง หรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระราชินี พระราชโอรส พระราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ รวมทั้งพระกฐินที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ราชสกุล องคมนตรี หรือผู้ที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควรให้เสด็จฯ แทนพระองค์นำไปถวายยังพระอารามหลวงสำคัญ 16 พระอาราม ที่สงวนไว้ไม่ให้มีการขอพระราชทาน คือ กรุงเทพมหานคร  12 พระอาราม จ.นครปฐม  1 พระอาราม จ.พระนครศรีอยุธยา  2 พระอาราม และ จ.พิษณุโลก จำนวน 1พระอาราม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาล ขอบคุณทุกภาคส่วน-ปชช. ร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ ในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน

นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณทุกส่วนราชการ ทหาร พลเรือนที่มีส่วนร่วมในการจัดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ประมวลภาพ ในการพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2567 เวลา 15.14 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน

ประชาชนเนืองแน่น 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รอชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

บริเวณสวนสันติชัยปราการประชาชนแต่งกายชุดสีเหลือง มารอเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน