'ชาญชัย' จ่อยื่นศาลฎีกาฯครั้งที่ 3 เอาผิดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำ 'ทักษิณ' เข้าคุก

'ชาญชัย' แจงข้อเท็จจริง 2 คำร้องต่อศาลฎีกาการเมือง 2 ครั้ง เหตุใด 'ทักษิณ' จึงไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลแม้แต่วันเดียว ศาลชี้ให้ดูประเด็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำผิดกฎหมายเรื่องใด เผยรวบรวมพยานหลักฐานได้50% จ่อยื่นครั้งที่ 3 เอาผิดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำ'ทักษิณ'เข้าคุก

23 ต.ค.2567- ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ตนเตรียมร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองขอให้ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้ร้องขออนุญาตต่อศาลฯ ก่อน และการไปรักษาตัวที่นี่ ไม่ถือว่าเป็นการถูกจำคุก ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะขอพักโทษ หรือทุเลาโทษโดยกรมราชทัณฑ์ต้องบังคับการลงโทษตามคำพิพากษาศาลนั้นว่า

นายชาญชัย กล่าวว่า ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีนี้ว่า ที่ผ่านมา ตนเคยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2566 โดยตนและนายนิติธร ล้ำเหลือ ได้ร่วมกันยื่นร้องต่อศาลฯในประเด็นว่า นายทักษิณได้รับโทษจำคุกและได้ขอพระราชทานอภัยโทษ ลดโทษเหลือ 1 ปี แต่เหตุใดจึงไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลแม้แต่วันเดียว โดยมีรายละเอียดข้อเท็จจริง พฤติกรรมการกระทำของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ป.วิอาญาและคำสั่งของศาลฯหรือไม่ โดยศาลฯ ได้วินิจฉัยตอบในวันนั้นว่า ศาลฯ ออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดไปแล้ว การบังคับโทษและอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ปัญหาว่า เจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลฯ จึงไม่ต้องไต่สวน ให้ยกคำร้อง

“เท่ากับศาลฯได้ชี้ประเด็นกลับมาให้ดูว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทำผิดกฎหมายเรื่องใด มีพฤติกรรมเช่นใด เพราะคำร้องนี้ ร้องเกี่ยวกับพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ถ้าเป็นความผิดเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ ต้องไปร้องต่อศาลอื่น ศาลฎีกานักการเมืองไม่มีอำนาจวินิจฉัย“

นายชาญชัย กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลฯ ครั้งที่สอง ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2562 ว่าด้วยหมวด 9 การบังคับคดีข้อ 61 และ 62 ว่า มีกฎหมายมาตรา 246 และบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงมาตรา6 ของพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ที่ระบุ มิให้ออกกฎกระทรวง หรือมาตรการบังคับโทษด้วยวิธีการอื่น ที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กรณีกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติต่อนายทักษิณ ชินวัตร เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่ การที่นายทักษิณ ออกมานอนรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ถือเป็นการทุเลาโทษ และชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลจึงมีคำวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีไม่ปรากฏ มีการทุเลาการบังคับโทษ จึงไม่ต้องตามบทบัญญัติประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 246 และมาตราอื่นที่ผู้ร้องอ้างมา จึงไม่ต้องไต่สวนให้ยกคำร้อง” การที่ศาลวินิจฉัยเช่นนี้ ชี้ให้เห็นว่า มาตรา 246 อยู่ในอำนาจของศาลที่สามารถวินิจฉัยได้ แต่ไม่มีการยื่นคำร้องขอทุเลาโทษจากเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง เสมือนศาลต้องการให้ตนไปเขียนคำฟ้องใหม่โดยต้องรวบรวมพยานหลักฐานและตัวผู้กระทำความผิดให้ครบถ้วน จึงสามารถยื่นคำร้องใหม่เป็นครั้งที่ 3 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองได้

ซึ่งขณะนี้ตนสามารถรวบรวมพยาน หลักฐาน พฤติการณ์การกระทำความผิดได้ 50% แล้ว หรืออาจจะยื่นเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้รับไปดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ

”ผมและคณะได้ทำหน้าที่ ในฐานะพลเมืองที่ต้องการรักษาความยุติธรรมและความถูกต้องตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญโดยชี้เป้าโดยการชี้เป้าให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับทราบพฤติการณ์และข้อเท็จจริงข้อกฎหมายเพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ ถึงปัญหากระบวนการยุติธรรมที่ถูกกัดเซาะ บ่อนทำลาย ว่า เหตุใดเมื่อทรงพระราชทานอภัยโทษ โดยลดโทษให้เหลือ 1 ปี แล้วทำไมหน่วยงานราชการของรัฐจึงไม่ปฏิบัติตาม"

ทั้งนี้ นายชาญชัย ขอแจ้ง สิทธิของพลเมืองต่อพี่น้องประชาชนผู้ที่ต้องการรักษาผดุงความยุติธรรมว่า ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2562 หมวด 9 เกี่ยวกับการบังคับคดี ข้อที่ 62 ระบุไว้ว่า ‘เมื่อบุคคลภายนอกยื่นคำร้องหรือคำขอต่อศาลในชั้นบังคับคดี ให้ผู้พิพากษาประจำแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกาอย่างน้อยสามคนเป็นองค์คณะพิจารณาชี้ขาดคำร้องหรือคำขอดังกล่าว’ หรือพูดตามภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ประชาชนคนไทยทุกคนมีสิทธิ์ที่จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ ตามกฎหมายนี้

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' หวาดหวั่น 6 ข้อหา ซ่อนดาบสังหารไว้แนบเนียน วิบากกรรมชั้น14 เป้า 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง'

'เพื่อไทย' หวาดหวั่นออกอาการกลบเกลื่อนคดีล้มล้างการปกครอง 'จตุพร' ระบุคำร้องส่งศาล รธน.ไม่ธรรมดา ประเมิน 6 ข้อหาเหมือนไม่มีอะไร แต่ซ่อนดาบสังหารไว้แนบเนียน พร้อมอ่านทาง ปปช. สอบสวนชั้น 14 เน้นจัดการเจ้าหน้าที่ แล้วไปดักพบเล่นงานเป้า 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง'เหมือนกัน

อย่ากระพริบตา! 'ธีรยุทธ' ร้องศาลรธน. 6ประเด็น ถ้ารับไว้วินิจฉัย อาจเห็นจุดเปลี่ยน

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร และ พรรคเพื่อไทย

แกนนำคปท. ฟาดกลับ 'นิติสงคราม' ที่แท้จริงคือ การทำลายกระบวนการยุติธรรมของ'ทักษิณ'

นายพิชิต​ ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีที่มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบพฤติการณ์ของพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร ถูกมองว่าเป็นนิติสงคราม ว่า

ถอยก็พังอยู่ดี 'จตุพร' เย้ย พท.ปอดแหก นายกฯ หนีไม่พ้นถูกปมจริยธรรมเล่นงาน

'เพื่อไทย' ถอยปมจริยธรรมแล้ว หนำซ้ำจวนตัวโยนปัญหาใส่พรรคร่วม ขอรักษาฟอร์มปากเก่งฟอกตัว 'จตุพร' ถามหัวหน้าพรรคร่วมคนไหนเสนอให้แก้ รธน.ตามที่อ้าง เชื่อถอยก็พังอยู่ดี จะช้าหรือเร็ว คาดช่วงรัฐบาลอับปางไม่เกินตรุษจีนปีหน้า นายกฯ หนีไม่พ้นถูกปมจริยธรรมเล่นงาน

'แพทยสภา 'แจ้งความคืบหน้าการตรวจสอบจริยธรรมแพทย์ เอื้อ 'นช.ทักษิณ' อยู่บนชั้น14

พลอากาศโท นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ทำหนังสือ ลับ ตอบกลับเรื่อง ขอแจ้งข้อมูลความคืบหน้าการพิจารณากรณีตรวจสอบผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เรียน นายวัชระ เพชรทอง