
“อนุทิน” ยัน ใครครอบงำ “ภท.” ไม่ได้ ย้ำทุกอย่างมาจากมติที่ประชุม หลัง กกต.รับคำร้องยุบ พท.- พรรคร่วม เผยดินเนอร์เย็นนี้ขึ้นอยู่กับ นายกฯ พิจารณา มั่นใจ ปม แก้รัฐธรรมนูญ-นิรโทษกรรม ไม่ใช่ชนวนความขัดแย้ง
21 ต.ค.2567 – ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีรายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรค ว่า ในส่วนของ กกต.ใครจะไปร้องเรียนอะไรก็ต้องรับไว้ก่อนอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน ฉะนั้นหากจะต้องมีการไปไต่สวน สอบสวน หรือให้ปากคำต่างๆ ตนเองก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่าง
“แต่ในเรื่องของคำว่าครอบงำ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะพรรคภูมิใจไทยถ้าจะมีการครอบงำจะต้องครอบงำโดยหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหาร ซึ่งเราไม่มีใครคนใดคนหนึ่งสามารถที่จะตัดสินใจแทนพรรคได้ แม้กระทั่งตัวหัวหน้าพรรคเอง ทุกอย่างต้องออกมาจากการประชุมและผ่านมติของกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการ” นายอนุทิน ระบุ
นายอนุทิน ระบุว่า ฉะนั้นในกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลถูกร้องเรียนไปด้วย ตนเองมั่นใจได้เลยว่าทุกพรรคร่วมรัฐบาลมีหลักการที่เหมือนกัน คือโดยธรรมชาติ ไม่มีทางให้ใครเข้ามาครอบงำแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการตัดสินใจยกมือสนับสนุนให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ก็เป็นไปตามมติของกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยทุกประการ จึงยืนยันได้ว่าเป็นไปตามครรลองที่เคยกล่าวไว้เกี่ยวกับพรรคการเมืองที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ว่าคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองที่มีจำนวนที่นั่งสูงสุดในสภาผู้แทนราษฎร และเป็นแคนดิเดตที่พรรคนั้นๆเสนอชื่อให้พี่น้องประชาชนได้พิจารณาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง
นายอนุทิน กล่าวว่า ซึ่งหลังจากที่ทราบว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องยุติบทบาทนายกรัฐมนตรีไป เราก็ได้มีการประชุมและหารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคแกนนำแจ้งมาว่ามีความประสงค์ที่จะเสนอนางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนจึงยินดีที่จะให้การสนับสนุน ดังนั้นการที่จะบอกว่า มีคนอื่นมาครอบงำ ผมมองว่าเป็นความคิดที่ไม่ประสงค์ดีกับรัฐบาล แต่เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายตรงข้ามจะต้องพยายามหาเหตุอะไรต่างๆขึ้นมาเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน
“ด้วยเหตุนี้ จึงมั่นใจว่าทำไม่ได้หรอก เพราะรัฐบาลนี้เริ่มอย่างชัดเจนและมีการหารือประชุมกันอย่างจริงจังในวันที่ 15 สิงหาคม ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดไปยังอาคารชินวัตร 3 ซี่งเป็นที่ทำการของพรรคเพื่อไทยชั่วคราว ภายหลังจากที่ นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2-3 วัน ตรงนี้จึงเป็นจุดเริ่มของพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ ฉะนั้นอย่าไปคิดอะไรให้มันสับสนอลหม่าน” นายอนุทิน ระบุ
นายอนุทิน กล่าวถึงการดินเนอร์ร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นเย็นนี้ พรรคภูมิใจไทยจะหยิบยกประเด็นอะไรขึ้นมาหารือบ้าง ว่าต้องแล้วแต่เจ้าภาพ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้เชิญให้พรรคร่วมไปหารือร่วมกัน จึงคิดว่าท่านคงมีประเด็นอะไรที่อยากจะพูดคุย แต่หากมีประเด็นใดที่สามารถต่อยอดไปในประเด็นอื่นก็ต้องดูบรรยากาศด้วย ส่วนตัวจึงคิดว่าน่าจะเป็นการพูดคุยอย่างฉันท์ผู้ร่วมงานที่จะเดินหน้าบริหารประเทศร่วมกัน
เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยเรื่องร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม กับแก้รัฐธรรมนูญที่ยังมีความเห็นต่างด้วยหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่าแต่ละพรรคการเมืองมีเจตนารมย์และมีหลักข้อคิดต่างๆในเรื่องนี้อยู่แล้ว เราก็อาจจะนำเอาขึ้นมาหารือกันว่าแต่ละคนมีความเห็นและมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง เพราะหากกฎหมายสำคัญๆเข้าไปควรที่จะมีการหารือกันก่อนจะได้ไม่ขัดแย้งกัน ก่อนย้ำว่า เรื่องของสภาก็คือเรื่องของสภา อย่าเอามารวมกับเรื่องของรัฐบาล เพราะเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินพวกเราพร้อมที่จะสนับสนุนอยู่แล้ว แต่เรื่องข้อกฎหมายเห็นต่างกันได้ จากนั้นก็ค่อยมาหารือกันเพื่อแสวงหาความร่วมมือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่ไม่เป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของพรรคหรือแนวทางที่ยึดถือปฏิบัติกันมา
“ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีความขัดแย้งอยู่แล้ว แต่ความเห็นต่างมันต้องมี หากทำงานแล้วไม่เห็นต่างกันเลย ก็จะเดินหน้าทำงานไม่ได้ ต้องฟังแล้วเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนมาเป็นตัวตัดสิน ไม่ใช่เห็นพ้องกันหมด มิเช่นนั้นจะเรียกว่า ฮั้ว” นายอนุทิน ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว! พ่อ 2 สส.ภูมิใจไทย จี้หัวหน้าพรรคร่วมถอนตัวพ้นรัฐบาล ก่อนสร้างตราบาปให้ประเทศ
สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาฯ โพสต์แรงถึงพรรคร่วมรัฐบาล หลังมีข่าว “ทักษิณ” ขู่ขับพ้นรัฐบาลหากไม่หนุนร่างกฎหมาย “กาสิโน” ซัดชัดประชาธิปไตยไทยถอยหลัง ขอให้พรรคร่วมฯ ถอยออกมา ดีกว่าร่วมสร้างบาดแผลให้ประเทศ
กาสิโนใต้เงาทักษิณ! โหวตนี้ 'ภูมิใจไทย-รทสช.' จะขบถหรือจงรัก?
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 9 เมษายน กลายเป็นจุดวัดใจทางการเมืองที่ลึกกว่ารายละเอียดในร่างกฎหมาย มันคือสนามทดสอบความสัมพันธ์ภายในรัฐบาลที่กำลังหมุนรอบอำนาจที่ไม่ปรากฏบนเวที
'เพื่อไทย' ุถามหาใบเสร็จ 'ทักษิณ' ขู่เขี่ยพรรคร่วมไม่สังฆกรรมกาสิโน
"เพื่อไทย" โต้รายงานข่าว "ทักษิณ" แจ้งพรรคร่วม ใครไม่เห็นด้วยกม.เอนเตอร์เทนเมนทต์คอมเพล็กซ์ เตรียมขับพ้นรัฐบาล ถามหลักฐานอยู่ไหน แบบนี้มีเสียหายเกิดกับพรรตแล้วใครรับผิดชอบ บอกอ้างแหล่งข่าวใครก็พูดได้ บอก วิปรัฐบาลคุยกันแล้ว
ประธานญาติพฤษภา’35 จวก สส.เพื่อไทย น่าละอาย เร่งดันกม.กาสิโนไม่สนเสียงค้าน
ประธานญาติพฤษภา’35 จวกน่าละอาย สส.เพื่อไทย เลื่อนพิจารณร่างกฎหมายกาสิโนแซงคิวกฎหมายอื่น ทั้งที่มีเสียงคัดค้านกึกก้องทั่วประเทศ หวั่นซ้ำรอยพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ลุกลามทั่วประเทศนำไปสู่ความขัดแย้งนองเลือดอีก
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'โครงการกาสิโนของรัฐบาล : ตัวตนและเค้ามูลที่ปรากฎ'
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการด้านกฎหมาย เขียนบทความในรูปถาม- ตอบ เรื่อง "โครงการกาสิโนของรัฐบาล : ตัวตนและเค้ามูลที่ปรากฎ" โดยมีเนื้อหา ดังนี้
ขุนคลังอยู่แค่เอื้อม ‘อนุสรณ์’ โชว์กึ๋นเอนเตอร์เทนฯสร้างรายได้ใหม่-ลดเงินไหลออก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึง กรณีการพิจารณาร่างพ.ร