ประเทศไทยที่ถือว่าเป็นแหล่งวัตถุดิบที่ดีไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบทางธรรมชาติที่มีความหลากหลาย ผนวกกับความชำนาญของคนไทยที่สามารถพัฒนาวัตถุดิบเหล่านั้นให้กลายมาเป็นสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง สร้างชื่อเสียงและความสนใจไปทั่วโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีอีกหลายวัตถุดิบ หลายสินค้าที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากในตลาดการค้า เนื่องจากยังมีปัญหาด้านต่าง ๆ อยู่ทั้งด้านการผลิต การเก็บเกี่ยว การทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ รวมถึงการเข้าถึงตลาดผู้ซื้อที่กว้างขวาง
หากสินค้าต่าง ๆ ที่มีคุณภาพแต่ไม่ได้รับความสนใจ หรือเข้าไม่ถึงผู้ซื้อก็อาจจะทำลดทอนกำลังใจของผู้ผลิตลงไป และอาจจะทำให้การต่อยอดของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีผู้สานต่อ ภูมิปัญญาหรือแหล่งวัตถุดิบที่ดีก็อาจจะเลือนหายไป ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นอีกหนึ่งมุมมองสำคัญที่กลุ่มบริษัทต่าง ๆ ที่สนใจจะเข้ามาช่วยต่อยอดหรือมีแนวคิดจะช่วยส่งเสริมกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กนั้น จำเป็นต้องเร่งเข้ามาพัฒนา เช่นเดียวกับที่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ OR เดินหน้าเข้าช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิตขนาดเล็กมาโดยตลอด ผ่านโครงการ “ไทยเด็ด”
เนื่องจากเห็นศักยภาพของวัตถุดิบในประเทศไทย และเห็นถึงโอกาสในการต่อยอดสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาจากคนไทยอย่างเต็มที่ จึงเดินหน้าโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยสืบเนื่องมาจากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ One Tambon One Product (OTOP) โครงการที่รัฐบาลมุ่งหวังให้คนในชุมชนนำภูมิปัญญาที่มีอยู่มาพัฒนาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย สร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชน แต่ปัญหาคือ สินค้าชุมชนที่ผลิตออกมาส่วนใหญ่ยังขาดช่องทางการจำหน่ายอย่างกว้างขวาง
และจากจุดอ่อนดังกล่าว ในปี 2561 OR และพันธมิตรหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันมี 8 กระทรวง คือ ก.พลังงาน, ก.พาณิชย์, ก.การคลัง, ก.วัฒนธรรม, ก.อุตสาหกรรม, ก.มหาดไทย, ก.เกษตร, ก.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีเจตนารมณ์มุ่งมั่นร่วมกัน จึงได้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้สินค้าชุมชนที่เป็นสินค้าดี สินค้าเด็ด สินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ประจำท้องถิ่น ได้มีช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านไทยเด็ด ภายในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ทั่วประเทศ
จนปัจจุบันโครงการไทยเด็ดมีจำนวน ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าชุมชนจำหน่ายในโครงการฯ ประมาณ 400 ราย จำนวนสินค้ากว่า 1,000 รายการ และมีหลายรายการที่ประสบความสำเร็จจากการช่วยเหลือของ OR ต่อยอดความสำเร็จไปสู่ชุมชนจนสามารถพลิกชีวิตให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ผ้าทอย้อมคราม บ้านคำประมง จ.สกลนคร จากเดิมที่มีรายได้เพียง 300 บาทต่อเดือน จนปัจจุบันมีรายได้ 18,000 บาทต่อเดือน / กระเป๋าพู่ประดิษฐ์ MontMaxx จ.สมุทรปราการ จากเดิมแม้จะมีรายได้ต่อเดือนถึง 500,000 บาท แต่ปัจจุบันถูกต่อยอดพัฒนาจนสามารถทำรายได้ถึง 1,000,000 บาทต่อเดือน และกล้วยทอดกรอบเนียนนา จ.กาญจนบุรี ที่จากเดิมมีรายได้ 70,000 บาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันสามารถทำรายได้ 120,000 บาทต่อเดือนแล้ว
แน่นอนว่าโครงการไทยเด็ดนี้ ไม่ใช่เพียงการต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้เกิดการขายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเข้าไปสนับสนุนชุมชนให้เกิดการจ้างงาน สนับสนุนเกษตรกรโดยการรับซื้อผลผลิตที่มากขึ้น และสนับสนุนให้คุณภาพชีวิตของแต่ละชุมชนดีขึ้นอีกด้วย ขณะที่ทุก ๆ ปีโครงการจะมีการคัดเลือกสินค้า ให้มาเป็น Thaidet Selected ประจำปี ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับการคัดเลือกผ่านคณะกรรมการ โดยจะต้องเป็นกลุ่มสินค้าที่มีเรื่องราวน่าสนใจสามารถนำไปประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ เช่น TVC สื่อ Online/ Offline และเป็นกลุ่มสินค้าที่ธุรกิจ (Café Amazon) สนใจนำไปวางจำหน่ายในร้านค้าทั่วประเทศ
โดยในปี 2567 เองก็มีสินค้า 3 รายการที่ได้รับคัดเลือก ได้แก่ 1.เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดอบเกลือและรสต้มยำ จ.อุตรดิตถ์ ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิม และมีต่อยอดให้กลายเป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดอบเกลือ ซึ่งมีรสชาติ กรอบ หอม มัน และพัฒนามาเป็นแบบอบปรุงรสชาติ คือ รสต้มยำ เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นตลอดมา กลายเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัด สามารถนำไปเป็นของฝาก ของที่ระลึก 2. ใบบัวบกทอดกรอบ จ.นนทบุรี โดยการนำผักใบบัวบกที่นำมาทอดกรอบและนำมาปรุงรสให้เกิดรสชาติที่อร่อยมากขึ้น ทานง่าย ไม่เหม็นเขียว อีกทั้งยังคงคุณค่าทางโภชนาการ และไม่ใส่วัตถุเจือปน ผลิตขึ้นโดยวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรบ้านคลองหม่อมแช่ม โดยในชุมชนมีการปลูกใบบัวบกที่ได้รับมาตรฐาน GAP และได้นำเอาวัตถุดิบในชุมชนมาแปรรูปเป็น “ใบบัวบกทอดกรอบ”
และ 3. กระเป๋าพู่ประดิษฐ์ จ.สมุทรปราการ กระเป๋าผ้าร้าน Montmaxx DIY Bag เป็นกระเป๋าผ้าที่ได้รับการออกแบบให้มีรูปแบบที่ทันสมัยและสวยงาม มีการมุ่งเน้นในเรื่อง Handmade มีการพัฒนาในเรื่องการออกแบบ การทำกระเป๋าให้ได้ตามความต้องการและมีรูปแบบที่ทันสมัย รวมถึงการเลือกรูปแบบของผ้าและอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆให้ดูสวยงาม ส่วนในเรื่องการผลิตนั้นก็ได้เริ่มจากการพยายามหากลุ่มแม่บ้านในพื้นที่เพื่อที่จะผลิตและจะได้เป็นการสนับสนุนให้เกิดรายได้ในกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่อีกด้วย และพู่ห้อยกระเป๋าผลิตจากกลุ่มแรงงานที่แม่แตง จ.เชียงใหม่
นอกจากนี้ยังมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ในโครงการไทยเด็ดที่ประสบความสำเร็จอีกหลายรายการ อาทิ ขนมปั้นขลิบน้องหนึ่ง จ.พัทลุง หลังเข้าร่วมโครงการไทยเด็ด มียอดขายเพิ่มขึ้น จาก 25,000 บาท/เดือน เป็น 180,000 บาท/เดือน (ภายหลังได้จำหน่ายในร้านอเมซอน ยอดขายเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท/เดือน และรับซื้อวัตถุดิบ (ข้าว, ปลา, เห็ด ฯลฯ) เพิ่มจาก 12 ครัวเรือน (55,000 บาท/เดือน) เป็น 50 ครัวเรือน (300,000 บาท/เดือน) และเพิ่มการจ้างแรงงานจาก 12 คน เป็น 70 คน
ผลิตภัณฑ์ถั่วลายเสือ จ.แม่ฮ่องสอน หลังเข้าร่วมโครงการไทยเด็ด 1. ยอดขายเพิ่ม จาก 50,000 บาท/เดือน เป็น 180,000 บาท/เดือน และสนับสนุนวัตถุดิบ (ถั่วลายเสือดิบ) จากชุมชน เพิ่มขึ้น จาก 17 ครัวเรือน (35,000 บาท) เป็น 53 ครัวเรือน (115,500 บาท/เดือน) รวมถึงการใช้แรงงานในชุมชนเพิ่มขึ้น จาก 8 คน เป็น 23 คน และผัดไทภูเขาไฟ จ.บุรีรัมย์ ที่หลังเข้าร่วมโครงการไทยเด็ด 1. ยอดขายเพิ่มขึ้น จาก 25,000 บาท/เดือน เป็น 810,000 บาท/เดือน รับซื้อวัตถุดิบ(ข้าว, กระเทียม, หอมแดง ฯลฯ) เพิ่มจาก 12 ครัวเรือน (55,000 บาท/เดือน) เป็น 78 ครัวเรือน (540,000 บาท/ครัวเรือน/เดือน) รวมถึงเพิ่มการจ้างแรงงานจาก 12 คน เป็น 160 คน
อย่างไรก็ตามในปี 2567 นี้เอง OR ยังได้ เดินหน้าต่อยอดโครงการไทยเด็ดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนสินค้า/ ขยายหมวดสินค้า และร่วมพัฒนาสินค้ากับหน่วยงานพันธมิตร คัดสรรสินค้าไทยเด็ด select โดยมีการเยี่ยมชมแหล่งผลิตสินค้า พร้อมกับการันตีสินค้าด้วยการติด logo ไทยเด็ด ขณะเดียวกันจะมีการขยายสาขาร้านไทยเด็ดในประเทศ ขยายสาขามุมไทยเด็ดในร้านอเมซอน ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงขยายช่องทางการสั่งซื้ออนไลน์ระบบ e-order และใน แอปพลิเคชั่น xplORe
ซึ่งยืนยันได้ว่า “โครงการไทยเด็ด” จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน เกษตรกร และคนในชุมชนโดยรอบให้ “เติบโตไปด้วยกัน” เพื่อช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐานและก้าวไกลสู่ระดับสากล สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเติมเต็มรอยยิ้มให้ชุมชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“น้ำดื่มสิงห์” จับมือ “โออาร์” แจกน้ำฉลากพิเศษปีใหม่ กว่า 4 แสนขวด ร่วมส่งต่อความสดชื่นให้คนไทย เติมพลังใจก่อนกลับบ้าน
“น้ำดื่มสิงห์” ร่วมกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ “โออาร์” (OR) ส่งต่อความสดชื่นที่ใช่ เติมพลังใจให้ผู้บริโภคก่อนกลับบ้าน
OR คว้าอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก
OR ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ปี 2024 ในกลุ่มดัชนีการตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) โดยได้รับคะแนนสูงสุดอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retailing) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจบนรากฐานของความยั่งยืนและได้รับการยอมรับในระดับสากล
‘ดิษทัต’ วางรากฐาน OR เสริมแกร่งธุรกิจรอบด้าน เตรียมพร้อมส่งไม้ต่อ
ดิษทัต’ วางรากฐาน OR เสริมแกร่งธุรกิจรอบด้าน เตรียม ส่งไม้ต่อให้ OR ก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
OR เสริมความแกร่งธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดร้าน found & found สาขาที่ 5 ณ ศูนย์การค้าแพชชั่น ช้อปปิ้งเดสติเนชั่น ระยอง
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมด้วย นายไกรพิท เปรมมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์
OR โชว์ศักยภาพดีลเลอร์สุดปัง ! พัฒนาบริการพีทีที สเตชั่น ปั้นเป็นฮีโร่ของชุมชน
สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ที่ดำเนิงานโดยบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ OR นั้น เชื่อว่าหลายคนต้องเข้าไปเคยใช้บริการอย่างแน่นอน
“นภินทร” ยกทัพ พาณิชย์-สสว.ททท. ขึ้นดอยช้าง ช่วย MSME เร่งสร้างแบรนด์สินค้าชุมชน ดึงจุดขายจดสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพิ่มมูลค่า ผลักดันส่งออก
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ณ หมู่บ้านดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมภาครัฐพบกับผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงราย