'เพื่อไทย' หวาดหวั่น 6 ข้อหา ซ่อนดาบสังหารไว้แนบเนียน วิบากกรรมชั้น14 เป้า 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง'

'เพื่อไทย' หวาดหวั่นออกอาการกลบเกลื่อนคดีล้มล้างการปกครอง 'จตุพร' ระบุคำร้องส่งศาล รธน.ไม่ธรรมดา ประเมิน 6 ข้อหาเหมือนไม่มีอะไร แต่ซ่อนดาบสังหารไว้แนบเนียน พร้อมอ่านทาง ปปช. สอบสวนชั้น 14 เน้นจัดการเจ้าหน้าที่ แล้วไปดักพบเล่นงานเป้า 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง'เหมือนกัน

11ต.ค.2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ระบุว่า เพื่อไทยแสดงอาการปรามาสกลบเกลื่อนดูแคลนคำร้องให้ศาล รธน.ไต่สวนทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยมีพฤติการณ์ล้มการปกครอง หากเชื่อมสถานการณ์ไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สอบสวนกรณีชั้น 14 แล้ว แม้สาระสำนวนเน้นตัวผู้กระทำการแตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์เป้าหมายกลับพุ่งชนไปที่ทักษิณและพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน ดังนั้น คำร้องจึงไม่ธรรมดา

"การสอบสวนกรณีชั้น 14 ของ ปปช.นั้น ได้ออกหนังสือถึง รพ.ตำรวจ 2 ครั้งเพื่อขอเวชทะเบียนหรือบันทึกประวัติทางการแพทย์ของทักษิณ ผู้ป่วยและบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่ได้รับ หากต้องออกหนังสือขอเวชทะเบียนเป็นครั้งที่สามแล้ว เมื่อยังไม่มีคำตอบอีกจะกลายเป็นปัญหาใหญ่"

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นผลจากยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย และรัฐบาลได้ถวายความเห็นประกอบพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า นักโทษทักษิณ เคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับได้ทำความผิดจริง และสำนึกการกระทำแล้ว แต่กลับไม่ติดคุกสักวันเดียว ย่อมเป็นพฤติกรรมส่งผลกระทบต่อพระบรมราชโองการ

สิ่งสำคัญ การสอบสวนของ ปปช. ได้เน้นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์ หากพบความผิดจริง จะถูกส่งฟ้องไปที่ศาลอาญาคดีทุจริต ส่วนนักการเมืองจะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรืออีกอย่างอาจออกคำสั่งให้กรมราชทัณฑ์นำตัวทักษิณกลับไปขังคุกก็ได้ ดังนั้น สถานการณ์ยื่นคำร้องจึงมากด้วยวิบากกรรมให้ทักษิณและเพื่อไทยต้องหวาดผวาและต่อสู้ก้าวข้าม

ส่วนทนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาล รธน.ให้วินิจฉัยทักษิณและพรรคเพื่อไทย มีพฤติการณ์เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองหรึอไม่นั้น นายจตุพร เชื่อว่า ในเบื้องต้น ศาล รธน.จะรับคำร้องไว้ไต่สวน

อีกทั้งกล่าวว่า คำร้องของนายธีรยุทธ ยื่นกล่าวโทษ 6 ข้อหา โดยเนื้อหาสำคัญหลักอยู่ที่ข้อที่ 1 เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยให้รัฐบาลจัดที่พักชั้น 14 รพ.ตำรวจ ให้ทักษิณ เข้าพักระหว่างต้องโทษจำคุก จึงเป็นการบ่อนทำลายพระเกียรติยศสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนข้อที่ 2 ถึง 6 ให้วินิจฉัยพฤติการณ์แวดล้อมกรณีครอบครอง ครอบงำพรรคเพื่อไทยให้ทำตามความต้องการของทักษิณ

นายจตุพร กล่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยบางคนมีอารมณ์สบายใจ โดยปรามาสว่า คำร้องของนายธีรยุทธ เบาหวิว เพราะเหตุแห่งคำร้องไร้น้ำหนักเอาผิดหรือเล่นงานทักษิณและนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยได้ แต่เมื่อพิจารณาเงื่อนเวลาแล้ว คำร้องของนายธีรยุทธ ดูเหมือนสอดรับกับการสอบสวนของ ปปช. ซึ่งอยู่ในขั้นสุดท้าย ใกล้ขมวดปมการไต่สวนกล่าวโทษ ดังนั้น อาจส่อถึงมีผลลัพธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับคำร้องที่ยื่นต่อศาล รธน.

"คำร้องของนายธีรยุทธ เป็นคนละกรณีกับการตรวจสอบของ ปปช.ที่เน้นการกระทำผิดของกรมราชทัณฑ์ รพ.ตำรวจ ที่มีผลถึงทักษิณ ส่วนคำร้องยื่นต่อศาล รธน.เป็นกรณีพฤติกรรมของทักษิณและพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามทั้งสองเรื่องดังกล่าวนี้ ล้วนโยงเอกสารผลสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มาเป็นหลักฐานสำคัญเหมือนกัน ดังนั้น ย่อมไม่ซ้ำซ้อนกัน"

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากสบายใจแล้ว ให้ปรามาสและประมาทกันให้มาก แม้สองเรื่องเน้นพฤติการณ์แตกต่างกัน แต่ผลเชิงเป้าหมายมีลักษณะสอดคล้องไปในทางเดียวกัน ตลอดจนสังคมยังคลางแคลงใจกับทักษิณ ไม่ยอมติดคุกสักวันเดียวจึงเป็นสภาพของความเป็นอภิสิทธิชนสองมาตรฐานและทำลายกระบวนยุติธรรม

"เรื่องชั้น 14 มาถึงศาล รธน.ก่อนคำร้องอื่นอีกมากมายที่ยื่นไปแล้ว และเชื่อว่า คำร้องสนามกอล์ฟอัลไพน์คงถูกยื่นต่อศาล รธน.ถัดจากนี้ไปเพื่อให้วินิจฉัยพฤติการณ์นายกฯ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เช่นเดียวกับการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ให้ยุคนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ”

นอกจากนี้ กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบเหลืองเลือกตั้งนายก อบจ. ปทุมธานี ครั้งแรก ยิ่งสำคัญไม่น้อยกว่ากรณีชั้น 14 ดังนั้น ในบรรดาคำร้องจำนวนมากที่ยื่นให้ตรวจสอบ หากมีเพียงคำร้องเดียวถูกวินิจเป็นความผิด ย่อมเกิดความเป็นไปทางการเมืองและส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้อีกครั้ง

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งที่จะเห็นคือ ทักษิณและเพื่อไทยจะมั่นใจแบบคดีนายเศรษฐา ทวีสิน หรือไม่ โดยรอจนกระทั่งมีคำวินิจฉัย และถัดจากนี้ถ้าจะโดนคดีอาญาเข้าไปอีก นายเศรษฐา ย่อมทำหน้าที่ในบริษัทมหาชนซึ่งเกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ เพราะมีข้อห้ามเรื่องจริยธรรม

“คุณอุ๊งอิ๊ง (แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ) ถึงที่สุดต้องตัดสินใจว่า จะเข้าลานประหาร หรือออกก่อนเข้าลานประหาร หมายถึงจะรอคำวินิจฉัยหรือไม่ โดยแต่ละเรื่องไม่ใช่จะรอดกันได้ง่าย ๆ เพราะสำนวนการเขียนของนายธีรยุทธ เน้นอยู่ที่ข้อแรก และกรณีชั้น 14 ยังมีพยาน แสดงถึงมีของในมือแล้ว รวมทั้งพยานในบ้านจันทร์ส่องหล้าด้วย ซึ่งเป็นเรื่องของการครอบงำ ถ้ามีคลิปเสียงสามารถเปิดในชั้นศาลได้ ดังนั้น จึงเป็นลีลาที่ไม่ธรรมดา และไม่ใช่ดาบเดียว แต่มีหลายดาบที่รอประหารกันอยู่”นายจตุพร กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช.แจงยังไม่ชี้มูลปม 'ทักษิณ' ป่วยทิพย์ชั้น 14 เผยอยู่ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น

กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์ว่า ฝ่ายตรวจสอบไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. โดยมีนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน

จับตา! เพื่อไทยเสนอชื่อ 'กิตติรัตน์' เข้าครม. พรรคร่วมรัฐบาลไม่สบายใจ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์กล่าวถึงกรณีแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ช

ระทึก!'ทักษิณ'ขาสั่น 'จตุพร' เผยอนุไต่สวนชั้น 14 มติเอกฉันท์ชี้มูลผิด ยื่น ปปช.ฟ้องศาล

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ระบุถึงความคืบหน้าคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

'สมคิด' เผย 'ทักษิณ' ไปอุบลฯ ให้กำลังใจผู้สมัครนายก อบจ. ไม่ขึ้นเวทีปราศรัย

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะอดีตสส.อุบลราชธานี เปิดเผยว่าการเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลราชธานี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แค่สีสัน! 'เท้ง’ เสียงแข็งไม่หวั่น ‘ทักษิณ’ ลงช่วยผู้สมัคร นายก อบจ.อุบลฯ หาเสียง

หัวหน้าพรรคปชน.มองทักษิณ เป็นสีสัน เป็นสิ่งที่ดีที่มีคนลงมาช่วยหาเสียง ทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจในการเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น

เมื่อตรรกะเพี้ยน ก็อย่าถามถึงแนวคิดนำประเทศ มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี

นายกฯ อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร ตอบคำถามละเลยคนภาคใต้ถูกน้ำท่วม โดยโยงถึงมีสามีเป็นคนใต้ จึงไม่ได้ละเลยคนใต้ ซึ่งเป็นคนละประเด็น