2 ต.ค.2567 - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง และทรงห่วงใยต่อเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเพลิงไหม้ ของเด็กนักเรียนโรงเรียน วัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า บริเวณหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นเหตุให้มีนักเรียนและครูได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อันนำมาซึ่งความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย อย่างไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ต้องประสบกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ดังนี้
เวลา 14.00 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตำรวจตรี ชัยทัต บุญขำ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ปกครองของเด็กหญิงอารดา จิรายุกต์ และเด็กหญิงพิมฐาดา เพ็งไพทูร ที่ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลโดนไฟลวกตามร่างกาย และเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
เวลา 14.30 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ คุณหญิงจันทนี ธนรักษ์ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ปกครองของเด็กหญิงนฤภร รัตนเกาศัลย์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
ในการนี้ ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยไปกล่าวแก่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับผู้บาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิต พระราชทานเพลิงศพแก่ผู้เสียชีวิตเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งพระราชทานเงินช่วยเหลือและพระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของครูที่เสียชีวิตผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ยังความซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงช่วยบรรเทาความทุกข์โศกของผู้ที่ได้รับผลกระทบและสูญเสียอย่างปัจจุบันทันด่วนให้ดีขึ้นตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชวน' ชี้ยกเลิกทัศนศึกษา ไม่ช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุไฟไหม้ แต่อยู่ที่หน่วยงานต้องเข้มงวดจริงจัง
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว่า เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่กรณีนี้กระทบกระเทือนคนมากเป็นพิเศษ เพราะเราต้องสูญเสียทรัพยากรสำคัญที่สุดของชาติคือนักเรียนถึง 23 คนบาดเจ็บรวมทั้งหมด 50 คน
ตร.แถลงคดีรถบัสมรณะ พบติดตั้งถังแก๊ส 11 ถัง ไม่จดแจ้ง 5 ถัง ตั้งข้อหาหนักคนขับ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เป็นประธานแถลงความคืบหน้าคดีอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบัสรับส่งนักเรียนทัศนศึกษา โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1
'สุริยะใส' ชี้ทัศนศึกษายังสำคัญและจำเป็น เปิด 6 ข้อเสนอยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย
ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ทัศนศึกษายังสำคัญและจำเป็น แต่..." โดยมีเนื้อหาดังนี้
ส่งร่างกลับภูมิลำเนา หลังพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลครบ 23 ราย เหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน
ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ .เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง นำขบวนรถมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างเด็กนักเรียน และครูโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม
'ชัยชนะ' จี้ 'คค.-อก.' ต้องคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัย!
'ชัยชนะ' มองเหตุการณ์ไฟไหม้รถโรงเรียน 'คค.-อก.' ต้องสอบมาตรฐานให้ดีขึ้น บอก ทัศนศึกษา ไม่ใช่ต้นเหตุ แต่ต้องควบคุมยานพาหนะเยอะขึ้น
'ดร.สุทธิ' ถอดบทเรียน 'ศูนย์กีฬาเจชอน' ถึง ไฟไหม้รถบัส จี้ปรับปรุงระบบความปลอดภัย
ดร.สุทธิ สุนทรานุรักษ์ เผยพร่บทความ เรื่อง "วัวหายล้อมคอก" ...ต้องรอถอดบทเรียนกันอีกกี่บทเรียนถึงจะยุติการสูญเสีย มีเนื้่อหาดังนี้