'สุริยะใส' กะเทาะบทเรียนแก้รธน. เสียงข้างมากไร้ความชอบธรรม ไม่มีความหมายเสมอไป

“สุริยะใส” กระตุกนักการเมือง บทเรียนแก้รัฐธรรมนูญเสียงข้างมากในสภาที่ไร้ซี่งความชอบธรรม ไม่มีความหมายเสมอไป

29 ก.ย.2567 – ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ บทเรียนนักการเมืองแก้รธน. เสียงข้างมากในสภาไม่มีความหมายเสมอไป

ในที่สุดความพยายามแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญรายมาตราก็กลายเป็นเกมการเมืองในบรรดาพรรคการเมืองด้วยกัน

เพราะพรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย เข้าเกียร์ถอยพับแผนไปก่อน  แล้วรอเพื่อรอจังหวะรุกกลับมาใหม่

ขณะที่พรรคประชาชนลดเพดาน พักการแก้ประเด็นจริยธรรม แต่ยังเดินหน้าในประเด็นการรื้อองค์กรอิสระ ก็ดูเหมือนจะถูกโดดเดี่ยวจากพรรคอื่นๆ

แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคแนวร่วมในการแก้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น

จังหวะก้าวที่ผิดพลาดของพรรคที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญในขณะนี้  น่าจะเกิดจากการชิงเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตรา แทนที่จะรอการแก้ไขทั้งฉบับ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างจริงจังหรือรอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ก่อน

โดยคิดแต่เพียงว่าเมื่อสองพรรคใหญ่จับมือกันทุกอย่างก็น่าจะง่าย

แต่สุดท้ายสังคมจับได้ว่าประเด็นที่แก้ไขเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของนักการเมืองมากกว่าประโยชน์ของประชาชนทำให้ขบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราแทบจะปิดเกมไปในที่สุด

เท่านั้นไม่พอส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบั บอาจจะถูกลากเกมยื้อ ดึงเกมยาวออกไป

โดยเริ่มจากการพิจารณาร่างกฎหมายประชามติของกรรมาธิการวุฒิสภา ที่เห็นต่างจากร่างของสภาผู้แทนราษฎรโดยกรรมาธิการวุฒิสภาแก้ไขให้กลับไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น (double majority) ในการหาข้อยุติของการทำประชามติ ซึ่งเปลี่ยนไปจากร่างแก้ไขของสภาผู้แทนราษฎรที่ให้มีประชามติข้างมากชั้นเดียว

จนทำให้เกิดความเห็นต่างกันระหว่างวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร

ส่งผลได้ขั้นตอนการทำกฎหมายประชามติยืดเยื้อไปอย่างน้อยก็อาจจะทอดยาวไปเป็นปี

รวมทั้งประเด็นการทบทวนบทบาทองค์กรอิสระที่มีหลายพรรคการเมืองเห็นตรงกัน ก็อาจจะแพแตกตามไปด้วย

เพราะล่าสุดคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐถูก กกต. ตีตกไป จึงไม่มีเหตุที่พรรคภูมิใจไทยจะไปแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดศึกกับองค์กรอิสระ

ทำให้การหวังเสียงจาก สว. 1 ใน 3 หรืออย่างน้อย 67 เสียง เพื่อร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญก็แทบจะปิดประตูไปในที่สุด

ทั้งหมดนี้เป็นบทเรียนที่นักการเมืองต้องตระหนักตลอดเวลา   ว่าเสียงข้างมากที่ไร้ซึ่งความชอบธรรม  ไม่มีความหมายเสมอไปในระบบรัฐสภา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' ติง 'ปชน.' หมกมุ่นแต่การเมือง ไม่สนความเดือดร้อนประชาชน

“ธนกร” ติง ปชน.ชง 7 แพ็คเกจสุดซอยจ้องแก้รธน.ทั้งฉบับคู่รายมาตรา มอง อ้างประชาธิปไตยหมกมุ่นแต่การเมือง จนไม่สนความเดือดร้อนประชาชน

หนุน 'ปชน.' ยุติรื้อจริยธรรม ไม่เห็นด้วยยังดันทุรังแก้รธน.รายมาตรา

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เห็นด้วยกับการยุติแก้ไขประมวลจริยธรรมนักการเมือง ของพรรคประชาชน

'รวมไทยสร้างชาติ' จี้ กมธ.นิรโทษกรรม ถอนรายงานล้างผิดคดี 112 ออกจากสภาฯ

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เปิดเผยว่า จากรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา

กูรูปูดอีกแล้ว! สส.เพื่อไทยกว่าร้อยคนผวา ถูกร้องถอดพ้นตำแหน่ง

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าส.สเพื่อไทยกว่าร้อยคนผวา ถูกร้องถอดถอนออกจากตำแหน่งเพราะกระทำการขัดผลประโยชน์ ผิดรัฐธรรมนูญ

อดีตบิ๊กศรภ. อัดแก้รัฐธรรมนูญ อย่ายืนขาสั่น!

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง "แก้รัฐธรรมนูญไป ขาก็สั่นไป" มีเนื้อหาดังนี้