นายกฯอิ๊งค์ ยกครม.ลุยช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผุด 'ศปช.' วางกรอบทำงาน 30 วัน

27 ก.ย.2567 - เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ในการเดินทางไปตรวจราชการ ณ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27 - 28 ก.ย.

โดยเวลา 16.20 น. นายกฯเดินทางถึงจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมบูรณาการแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง

โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม

รวมถึงมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง วิดีโอคอนเฟอเรนซ์และรายงานสถานการณ์ ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา จังหวัดสุโขทัย จังหวัดหนองคาย จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย

นายกฯ กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า ที่ผ่านมาได้มีการติดตามข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ทั้งในเรื่องน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม ที่มีปัญหาอยู่ต่อเนื่อง และมีการสั่งการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด รวมไปถึงการเยียวยาฟื้นฟูและสาธารณสุขต่างๆที่ต้องตามมา โดยมีการรับบริจาคเงิน และสิ่งของต่างๆ จากทางภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงภาคประชาชน ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือประชาชนกันอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะขอความช่วยเหลือไปทางไหนก็ตามก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งการปกครอง มั่นคง และอาสาสมัครทั่วประเทศ

นายก​ฯ​ กล่าวว่าตนมาในฐานะเป็นตัวแทนของรัฐบาลมาตรวจราชการและประชุมพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย โดยในช่วงเย็นนี้วันเดียวกันนี้ จะไปให้กำลังใจและไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อนำเสนอในวันที่ 28 ก.ย. ที่ตนจะลงพื้นที่ อำเภอแม่สาย และไปต่อที่จังหวัดเชียงใหม่ เท่าที่ได้คุยกันก่อนหน้านี้และตามที่ประชุมรัฐบาลเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลของน้ำที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่ค่อนข้างหนักอย่างดินโคลนถล่ม เป็นสิ่งที่ประชาชนได้รับความลำบาก

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบให้กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดการจ่ายค่าเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้รับรายงานว่าประชาชนได้รับเงินเยียวยาไปแล้วกว่า 3,000 ครอบครัว และหลังจากนี้จะค่อยๆพิจารณาตามความเหมาะสม และมีอีกหลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกำลังรอการตรวจสอบใช้เวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง ตนขอชื่นชม ส่วนพื้นที่ที่ดินโคลนติดค้างในบ้านเรือนได้มีการระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน แบ่งโซนความรับผิดชอบเพื่อความทั่วถึงและชัดเจนว่าส่วนใดได้รับการดูแลไปแล้วบ้าง แล้วมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นผู้ขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จ และขอให้ส่วนราชการอื่นๆสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือ อัตรากำลังพล เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง

นายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณทางกรุงเทพฯ ที่ส่งเครื่องจักรขนาดใหญ่ ในการช่วยเหลือกำจัดดิน ขณะที่กระทรวงการคลังเตรียมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (solf loan) สำหรับเรื่องการฟื้นฟูกิจการ และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมวงเงิน 50,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายกลุ่ม Micro SME ขึ้นไป รวมไปถึงบุคคลธรรมดา กระทรวงพาณิชย์ได้มีการเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดและซ่อมแซมให้กับผู้ประสบภัยจำนวนมาก รวมถึงสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นได้ สำหรับประชาชนในพื้นที่จังหวัดอื่นๆที่ยังมีน้ำท่วม รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน รวมไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อสรุปสถานการณ์​หาแนวทางเยียวยาฟื้นฟูต่อไป​

ภายหลังการประชุมนายกฯสั่งการว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ภาคเหนือในปัจจุบัน ที่แม้จะมีการคลี่คลายไปบ้างแล้ว แต่ยังต้องการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและใกล้ชิดมากขึ้น และยังต้องมีการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงฟื้นฟูพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ
และต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าหน้าที่ทุกคน อาสาสมัคร พี่น้องประชาชนที่ช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ และขอฝากกำลังใจไปยังพี่น้องชาวหนองคายด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้จัดตั้ง ศปช. ปฎิบัติการส่วนหน้า เพื่อเป็นศูนย์สั่งการและประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยให้ น.ส.ธีรรัตน์ เป็นประธาน และ พล.อ.ณัฐพล เป็นที่ปรึกษา ให้นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษก ให้ประจำที่หน้างานเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าเรามีส่วนกลางอยู่ตรงนี้ช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยให้มีการระดมพลผ่านทางกระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับอาสาสมัครและหน่วยงานเอกชนต่างๆ

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เขตอำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอแม่สาย ให้กระทรวงมหาดไทย ให้มีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ (zoning) เพื่อให้มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชุมติดตามผลการดำเนินงานและปัญหา อุปสรรค ต่างๆจากหัวหน้าหน่วยที่รับผิดชอบแต่ละโซนทุกวัน เพื่อรายงานไปยัง ศปช. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ต่อไป โดยทางรัฐบาลขอตั้งเป้าหมายในพื้นที่ ที่ได้เริ่มเยียวยาแล้วภายในวันที่ 20 ต.ค.67 นี้ ส่วนในพื้นที่อื่นๆขอให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน และให้ทุกส่วนราชการให้การสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือ บุคลากร ในการดำเนินงาน โดยรายงานไปที่ศูนย์ศปช. และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และอธิบดีกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยทราบด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้หากในการดำเนินการพบว่าเครื่องจักร เครื่องมือมีไม่เพียงพอ เห็นสมควรให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีการจัดจ้างจากเอกชน เพื่อระดมการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมอบหมายให้ กรมบัญชีกลาง พิจารณากระบวนการจัดจ้างให้เกิดความรวดเร็ว โดยไม่ขัดกับระเบียบที่เกี่ยวข้อง และสำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณกับหน่วยงาน ดำเนินการ เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชนต่อไป
ส่วนเรื่องของการอำนวยความสะดวกเพื่อซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน ถนน สะพานเสาไฟฟ้า อ่างเก็บน้ำ ท่อระบายน้ำ ตลอดจนการบริหารจัดการขยะ และโคลน ให้ผ่อนผันเรื่องการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ และที่ราชพัสดุ ที่ส่วนราชการต่างๆใช้อยู่ เช่น พื้นที่ของกองทัพ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอประเด็นดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับระบบเตือนภัย ขอให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเร่งรัดดำเนินการทั้งในพื้นที่นี้ และพื้นที่อื่น ๆที่มีความเสี่ยงให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนปีหน้า และจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กรมเจ้าท่า, กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมทรัพยากรธรณี, กรมป่าไม้, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงมหาดไทย จังหวัดเชียงราย, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ วางแผนการแก้ไข ปัญหาระยะกลาง และระยะยาว เช่น การขุดลอกแม่น้ำสายไม่ให้ตื้นเขิน พิจารณา ขยายสะพานหรือท่อระบายน้ำเพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ การป้องกันการพังทลายของ ตลิ่งและการจัดทำระบบเตือนภัยและสรุปผลเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาโดยด่วนต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในการจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายให้กับราษฎรฯ โดยเร็วที่สุด รวมถึงมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม ที่ทุกภาคส่วนจะเร่งเสนอต่อครม. ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นายกฯใช้รถยนต์ Volkswagen สีดำ ทะเบียน นง9999 เชียงใหม่ ในการปฎิบัติภารกิจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' แจงเหตุส่ง 'ว่าที่ปลัดมท.' ไปเชียงราย ตั้ง 'โชตินรินทร์' รักษาการผู้ว่าฯ

'อนุทิน' แจงเหตุ ส่ง 'อรรษิษฐ์' ว่าที่ปลัดมท.คนใหม่ ลงพื้นที่เชียงราย กำกับดูแลเรื่องเยียวยาน้ำท่วม พร้อมตั้ง 'โชตินรินทร์' รักษาการพ่อเมืองเชียงราย ปชช.เดือดร้อนปล่อยขาดช่วงไม่ได้

ฟ้าหลังฝนสดใส! นครพนมไฟเขียวเรือสำราญล่องน้ำโขง

ระดับน้ำโขงที่ จ.นครพนม ได้ลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 10.97 เมตร ลดจากวานนี้ 13 เซนติเมตร ห่างจากจุดเตือนภัยเฝ้าระวัง ประมาณเมตรเศษ

สัญญาณเปลี่ยนฤดู! มวลอากาศเย็นเริ่มแผ่ปกคลุม ลมแปรปรวนมาก

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 27 ก.ย. - 6 ต.ค.67

เตือนพื้นที่ลุ่มต่ำ! เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำแบบขั้นบันได

สถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา เมื่อเวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2. จ.นครสวรรค์ 1,930 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน (26 ก.ย.) 84 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

'ศปช.' สยบลือว่อนเนต! ยันไม่มีพายุใหญ่ถล่มไทย ทำน้ำท่วมหนักซ้ำปี 54

'ศปช.' สยบข่าวลือว่อนเนต พายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54 ไม่เป็นความจริง ขออย่าแชร์ต่อ เผยสัปดาห์หน้าไทยหลายพื้นที่เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้ว