'นายกฯอิ๊งค์' ควง 3 รมต. ช่วยน้ำท่วมเชียงราย ห่วงทะลักอีสาน สั่ง มท. เร่งดูแล

‘นายกฯอิ๊งค์’ ควง ‘กลาโหม-คมนาคม-มหาดไทย’ บินเชียงรายช่วยน้ำท่วม ก่อนถกกลางอากาศ เร่งอพยพคนพ้นพื้นที่เสี่ยงทันที สั่ง มท. กำกับใกล้ชิดอีสาน

13 ก.ย. 2567 – เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิช รมช.มหาดไทย และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ ไปจังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

โดยก่อนขึ้นเครื่องบินนายกฯ พร้อมคณะ ได้เดินไปให้กำลังใจตรวจเยี่ยมกำลังพลของกองทัพอากาศ ที่กำลังลำเลียงเรือท้องแบนและอุปกรณ์ไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในภาคเหนือ โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวรายงาน ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า อยากไปเห็นสถานการณ์หน้างาน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร อยากลงไปดูพื้นที่เพื่อจะได้ช่วยเหลือได้ตรงจุด ซึ่งในส่วนของอำเภอแม่สาย ขณะนี้ปริมาณน้ำเริ่มลดลง แต่ปัญหายังมีดินโคลน จึงอยากให้เข้าไปเร่งจัดการในเรื่องดังกล่าว เพราะหากทิ้งไว้จะทำความสะอาดได้ยาก ส่วนสถานการณ์บนดอยสูงที่ยังถูกตัดขาด รวมทั้งการช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ไม่ต้องห่วงในเรื่องของงบประมาณ เพราะเราได้กันงบจากส่วนกลางไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องการให้นำงบประมาณมาช่วยตั้งแต่ขณะนี้ โดยเฉพาะเรื่องของการเยียวยา ไม่ใช่รอให้สถานการณ์คลี่คลายแล้วถึงจะเข้าไปเยียวยา ขอให้ทำทันทีเพราะถ้ารอจะไม่ทัน

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า เรือท้องแบนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่กำลังส่งไปช่วยเหลือที่จังหวัดเชียงรายเป็นของกรมทหารราบ และหน่วยงานต่างๆ อีกทั้งได้มีการนำกำลังพลเข้าไปเพิ่มเติม โดยที่กำลังส่งไปช่วยเหลือมีเรือท้องแบน 6 ลำ และเรือยาง สิ่งสำคัญคือการเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูเพราะน้ำที่ลงมาในขณะนี้เป็นลักษณะน้ำหลาก มาถึงแล้วก็ไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องเร่งเข้าไปดู และตอนนี้ได้มีการส่งอาหารและลำเลียงผู้คนออกมายังที่ปลอดภัย ซึ่งยอมรับว่ามีชาวบ้านบางกลุ่มที่ยังไม่ออกจากพื้นที่ ได้ส่งกำลังพลเข้าไปดูแล หรือคนที่ออกจากบ้านเรือนแล้วก็มีกำลังพลเข้าไปดูแลทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดเชียงราย นายกฯ ได้ใช้เวลาบนเครื่องบินประชุมร่วมกับรัฐมนตรีที่ร่วมคณะ เพื่อติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง รวมถึงเส้นทางการไหลของน้ำจากจังหวัดเชียงรายลงสู่ภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางจังหวัด เช่น จังหวัดเลยและหนองคาย ปริมาณน้ำเริ่มล้นตลิ่งแล้ว โดยนายกฯเน้นย้ำการช่วยเหลือประชาชนให้เร่งออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยต้องการให้มีแผนรับมือเป็นรูปธรรมเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าแม้ออกจากบ้านแล้วก็ยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทรัพย์สินให้ อีกทั้งต้องการให้นำข้อมูลข้อเท็จจริงโดยเฉพาะเรื่องระดับน้ำ ไปเป็นข้อมูลให้ประชาชนนำไปตัดสินใจ

นอกจากนี้นายกฯ ยังได้สอบถามในพื้นที่หนองคาย หลังมีการแจ้งเตือนไป ประชาชนได้ขนของขึ้นที่สูงและอพยพบ้างแล้วหรือยัง รวมทั้งขอให้ทางกระทรวงมหาดไทยสั่งการลงไปในพื้นที่และให้เจ้าหน้าที่ลงไปกำกับดูแลสถานการณ์ใกล้ชิด เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำโขงต่อจากพื้นที่ภาคเหนือ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พยากรณ์อากาศ 10 วันล่วงหน้า มีฝนเพิ่มตกหนัก คนกรุงต้องเฝ้าระวัง!

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า

'ท่านอ้น' ลุยเชียงราย ประกอบอาหารนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

"ท่านอ้น" วัชเรศร วิวัชรวงศ์ ได้เดินทางมาให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนพร้อมกับช่วยประกอบอาหารเพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยที่

กลุ่ม ปตท. เร่งส่งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อเนื่อง

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน ปล่อยรถบรรทุกถุงยังชีพไปยัง จ.เชียงราย

นักวิชาการ กางแผนที่เตือนด่วน 'หนองคาย' น้ำโขงหนุนสูงสุด 16 ก.ย.

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ช่วยกันแชร์ให้พี่น้องชาวหนอง

วิจัยกรุงศรี คาดการณ์อุทกภัยปี 67 เสี่ยงสูงช่วงกันยายน-ตุลาคม แต่ไม่รุนแรงเท่าปี 54

วิจัยกรุงศรี วิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มอุทกภัยในประเทศไทยปี 2567 ชี้ความเสี่ยงเพิ่มสูงในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี โดยเฉพาะเดือนกันยายนและตุลาคม เนื่องจากการเข้าสู่ภาวะลานีญาและอิทธิพลของมรสุม อย่างไรก็ตาม คาดว่าอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในปีนี้จะไม่รุนแรงเท่ามหาอุทกภัยปี 2554