ทักษิณคิด นายกฯอิ๊งค์ทำ! 'แพทองธาร' นำครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 58 นาที ย้ำ10 ข้อเร่งด่วน สานต่อแนวคิด 'ลุงแม้ว-รบ.เศรษฐา' ปิดท้ายคนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี
12 ก.ย.2567 - เวลา 09.10 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระสำคัญ คณะรัฐมนตรี(ครม.)แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 โดยมีรัฐมนตรีเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียม ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา
โดย น.ส.แพทองธาร แถลงถึงนโยบายเร่งด่วน 10 นโยบาย ดังนี้ 1.การปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถ ช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบและในระบบที่ไม่ขัดต่อวินัยการเงินและไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม 2.ส่งเสริมและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งต่างชาติ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์
3.ออกมาตรการเพื่อลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค ด้วยการปรับโครงสร้างราคาพลังงานและเร่งปรับปรุงกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ทำสัญญาซื้อขายพลังงานโดยตรง พัฒนาระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง สำรวจหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม และเจรจาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา (OCA) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน ด้านขนส่งมวลชนจะกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมในกทม. เพื่อรองรับนโยบายค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย
4.สร้างรายได้ใหม่ด้วยนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี เพื่อจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุขและสาธารณูปโภค 5.เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก 6.ยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย และเร่งเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและราคาพืชผลการเกษตร 7.เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์)
8.แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร 9.เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยเพิ่มการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ช่วยเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างทันท่วงที และ 10.ส่งเสริมศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางคนไร้รัฐไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธุ์
น.ส.แพทองธาร ยังได้แถลงนโยบายการพัฒนาประเทศในระยะกลาง และระยะยาว ว่ารัฐบาลจะต่อยอดการพัฒนาของภาคการผลิตและการบริการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพื่อวางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต โดยปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจและพัฒนาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ดังนี้ สร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิม โดยรัฐบาลจะส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต เร่งดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้มาตั้งฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลจะส่งเสริมการยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมซอฟต์ พาวเวอร์ เช่น อาหารท้องถิ่น ผ้าไทย มวยไทย สุราชุมชน รวมทั้งจะสนับสนุนการสอดแทรกทุนทางวัฒนธรรมในภาพยนต์ไทยและสื่อทุกรูปแบบ
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ส่งเสริมโอกาสในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยรัฐบาลจะส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว ต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลจะวางรากฐานให้คนไทยทุกกลุ่มวัยใช้ปัญญาประดิษฐ์ AIในการพัฒนาตนเอง รัฐบาลจะมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ และบริการทางการแพทย์ โดยต่อยอดจากธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์แผนไทย สนับสนุนการยกระดับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย รวมถึงการใช้กัญชาเพื่อการแทพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจและควบคุมผลกระทบทางสังคมโดยการตรากฎหมาย รัฐบาลจะมุ่งสู่เป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินของโลก โดยรัฐบาลจะผลักดันการยกร่างกฎหมายชุดใหม่ที่มีความเป็นสากล โปร่งใส และเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขยายโอกาส โดยรัฐบาลจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิจัยและนวัตกรรม เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง สร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ยกระดับท่าเรือในการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า พัฒนาสนามบินและเส้นทางการบินใหม่ๆ เช่นสนามบินล้านนา สนามบินอันดามัน เพื่อมุ่งสู่การเป็นศุนย์กลางทางการบิน ขับเคลื่อนโครงการแลนบริดจ์ จะเร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภค สนับสนุนให้ประชาชนผลิตกระแสไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เปลี่ยนโครงสร้างทางภาษีครั้งใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้ ศึกษาความเป็นไปได้ของการปฏิรูประบบภาษีไปสู่แบบNegative Income Tax ที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับเงินภาษีคืนเป็นขั้นบันได เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ เร่งจัดทำแผนที่ที่ทันสมัยและใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐและแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน ยุติความขัดแย้งและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะส่งเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม จะยกระดับทักษะและปลดล็อกศักยภาพของคนไทยเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ รัฐบาลจะยกระดับระบบสาธารณสุขให้ดียิ่งกว่าเดิม รัฐบาลนี้จะต่อยอดจากรัฐบาลที่แล้วในการยกระดับระบบสาธารณสุขไทย จาก 30บาทรักษาทุกโรค มาเป็น 30บาทรักษาทุกที่ พัฒนาระบบการแทพย์ทางไกล เพิ่มการเข้าถึงการรักษาและบริการด้านสุขภาพจิตและยาเสพติด รัฐบาลจะส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ในฐานะนายกฯหญิงคนที่2ของประเทศไทย จะส่งเสริมความเท่าเทียมของชายและหญิง นอกจากนี้ รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ยกระดับการบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลจะแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง รัฐบาลจะสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน
นายกฯ กล่าวด้วยว่ารัฐบาลนี้จำเป็นจะต้องพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของทั้งคนไทยและต่างชาติ ด้วยการพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ มีนิติธรรมและความโปร่งใส ดังนี้ รัฐบาลจะเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเร็วที่สุด จะยึดมั่นในหลักนิติธรรมและความโปร่งใส จะปฏิรูประบบราชการและกองทัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ จะยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น
รัฐบาลจะแปลงความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศมหาอำนาจไปสู่ยุทธศาสตร์ที่จะเสริมสร้างโอกาสให้ประเทศไทย โดยจะรักษาจุดยืนของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ จะเดินหน้าสานต่อนโยบายการทูต เศรษฐกิจเชิงรุก และการสร้างซอฟต์ พาวเวอร์
น.ส.แพทองธาร กล่าวทิ้งท้ายว่า คาดว่าประเทศจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับไม่เกินร้อยละ3 ต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะของประเทศใกล้เต็มเพดานที่ร้อยละ70 ของจีดีพีในปี70 จึงเป็นความท้าทายอันยิ่งยวดที่รัฐบาลจะต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของสถาบัน และดำเนินงานตามแนวพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง
“ในนามนายกฯของคนไทยทุกคน ในนามรัฐบาล ขอให้ความมั่นใจกับรัฐสภาแห่งนี้ว่า จะมุ่งมั่นตั้งใจบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมประสานพลังจากทุกภาคส่วน จากทุกช่วงวัย จากทุกความเชี่ยวชาญขับเคลื่อนนโนบายที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งตอบสนองสถานการณ์ปัจจุบันให้สำเร็จพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพื่อนำพาความภูมิใจกลับมาสู่คนไทย และประเทศไทย เพื่อสร้างความหวังและอนาคตที่ดีกว่าให้ประเทศไทย จากวันนี้ไปถึงอนาคต” นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้นายกฯใช้เวลาอ่านคำแถลงนโยบายรัฐบาล รวม 58 นาที.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอ็มโอยู44-เอื้อนายทุน จุดจบรัฐบาลไม่ครบเทอม
หากอ้างอิงข้อมูลจากนิด้าโพลเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ อยู่ครบเทอมหรือไม่ โดยประชาชนมากกว่า 57.71% มองว่าอยู่ไม่ครบเทอม ประกอบด้วยสัดส่วนร้อยละ
'กกร.เชียงใหม่' จ่อชง 'ครม.สัญจร' เยียวยาผู้ประกอบการน้ำท่วม
นายอาคม สุวรรณกันทา ประธานสมาพันธ์ SMEs ไทย จังหวัดเชียงใหม่ และรองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มาหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเชียงใหม่ปีนี้
'นายกฯอิ๊งค์' ยกนิ้วโป้ง! หายป่วย ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด
’นายกฯอิ๊งค์‘ นำคณะลงพื้นที่ร้อยเอ็ด แม้เสียงยังแหบ ยกนิ้วโป้งอาการดีขึ้น เปิดตารางงาน ลุยปัญหายาเสพติด พร้อมพบปะชาวบ้าน ก่อนกลับ กทม. ช่วงเย็น
'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
'ทักษิณ' มาเยี่ยม 'นายกฯอิ๊งค์' หลังป่วยหลอดลมอักเสบ
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาป่วย เนื่องจากแพทย์ตรวจพบว่ามีเชื้อแบคทีเรียในลำคอ ทำให้หลอดลมอักเสบและเสียงแหบนั้น
1พ.ย.นายกฯอิ๊งค์ลงร้อยเอ็ดตามติดนโยบายปราบยาเสพติด
โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯเร่งแก้ปัญหายาเสพติด เตรียมบินร้อยเอ็ด 1 พ.ย. ตรวจการป้องกันและปราบปรามตามนโยบายรัฐบาล