‘สรรเพชญ’ รับเป็นไปได้ อนาคตอาจเห็นรวมพลคนอดีตเลือดสีฟ้า ตั้งพรรคใหม่

สส.ปชป.กลุ่มชวน รับเป็นไปได้ อาจได้เห็นพรรคตั้งใหม่ รวมพลคนอดีตเลือดสีฟ้า จี้ ผู้บริหารปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่  

8 ก.ย..2567- นายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในสี่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่งดออกเสียงตอนโหวตร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระสามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  และลงมติไม่เห็นด้วยที่พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พรรคปชป.หลายสมัย ไปพบนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคปชป.และต่อมานายนิพิฎฐ์บอกว่า นายชวนบอกการตั้งพรรคใหม่มีความชอบธรรม ทำให้นายนิพิฎฐ์ระบุว่า อาจมีการนัดอดีตส.ส.ปชป.ที่ลาออกไปเพื่อคุยเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวว่า ก็เป็นส่วนหนึ่งของความคิดของคนที่เคยผูกพันกับพรรคปชป.มาอย่างยาวนาน เคยต่อสู้ให้กับพรรคปชป. ก็ได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยพรรคปชป.

“อดีตสมาชิกพรรคปชป.หลายคน ก็ยังมีความปรารถนาดีกับพรรคอยู่ เพียงแต่วันนี้ สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้ท่านเหล่านั้นได้กลับเข้ามาที่พรรคปชป. เพราะมีหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ลึกๆ แล้ว ผมเชื่อว่าอุดมการณ์ของทุกคน ยังไม่ได้เปลี่ยนไป คือยังคงเป็นสีฟ้าอยู่ ผมรู้ว่าหลายคนกรีดเลือดออกมาก็ยังเป็นสีฟ้าอยู่ ที่ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะคิดได้ ในการที่จะไปตั้งพรรคการเมืองในแนวทางที่เห็นว่าสมควรเหมาะสม”

นายสรรเพชญ กล่าวว่า แต่การตั้งพรรคการเมือง เราก็ต้องคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะยุคปัจจุบัน และการต้องหาคนที่มีชุดความคิดแบบเดียวกันมาร่วมงานกัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายพอสมควร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยความห่วงใยและยังมีความสามารถที่จะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ หลายคนก็มีความคิดที่สอดคล้องและสอดรับกัน

“ก็มีความเป็นไปได้ในอนาคตที่อาจจะเห็นการก่อตัวขึ้นของพรรคการเมืองแบบนี้ คือเกิดจากชุดความคิดเดียวกัน แต่สำหรับผมในปัจจุบัน ก็ยังเป็นสมาชิกพรรคปชป.อยู่ วันใดวันหนึ่งที่คิดว่าด้วยหลักการ ด้วยอุดมการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไปหรืออย่างไรก็แล้วแต่ในอนาคต ที่ยังไม่อยากพูดถึง แต่ถึงวันนั้น ก็ค่อยตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง”

เมื่อถามว่าหากไม่มีการยุบสภาเสียก่อน ก็ยังมีเวลาอีกสามปีต่อจากนี้ถึงจะมีการเลือกตั้ง คิดว่า ผู้บริหารพรรคปชป.ที่บางคนก็เข้าไปเป็นรัฐมนตรี ควรต้องทำอะไรบ้างกับพรรคปชป.หลังมีคนพูดกันว่า เลือกตั้งรอบหน้า พรรคอาจได้ส.ส.ต่ำสิบหรืออาจสูญพันธุ์ นายสรรเพชญกล่าวว่า อันดับแรก ต้องรับฟังทั้งสองฝั่งคือฝั่งที่เห็นด้วยกับผู้บริหารพรรค และฝั่งที่ไม่เห็นด้วยโดยต้องรับฟังอย่างตรงไปตรงมาและจริงจัง ไม่มีอคติ  ถึงเสียงสะท้อนที่เข้ามา เพื่อจะได้เป็นกระจกส่องสะท้อนตัวเราเองว่าประชาชนมองพรรคอย่างไร

“ผมคิดว่าการเมือง ณ ปัจจุบัน เราต้องมองจากข้างนอกเข้ามา เราอย่ามองจากข้างในออกไปข้างนอกอย่างเดียว เพราะถ้ามองจากข้างในออกไปข้างนอกอย่างเดียว เราจะมองเห็นแต่แบบเดิมๆยกตัวอย่างเช่น หากผมอยู่ท่ามกลางคนที่สนับสนุนผม ผมก็อาจไม่รู้สึกอะไร เหมือนกับเราเป็นส.ส. คนที่อยู่ห้อมล้อมเรา ก็จะบอกว่า ดีๆ ทำถูกต้องแล้ว แต่เรายังไม่ได้ไปฟังคนข้างนอกที่อยู่อีกมุมหนึ่งของสังคม ที่เขามองเราอยู่ ผมคิดว่าต้องให้ความสำคัญกับบุคคลเหล่านั้นเช่นกัน ก็อยากให้มองจากข้างนอกเข้ามาข้างในพรรคด้วย ว่าสิ่งที่ประชาชนคิดเห็นและสะท้อนออกมาเป็นอย่างไร เราจะได้นำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคปชป. ว่าพรรคจะเดินต่อไปอย่างไรในอนาคตในอีกสามปีข้างหน้า พรรคจะมีนโยบายพรรคที่จะออกมาอย่างไรเพื่อดึงฐานเสียงพรรคปชป.กลับคืนมาให้ได้ ดึงความไว้วางใจของประชาชนกลับคืนมาเพื่อให้ประชาชนเลือกพรรคปชป.ในอนาคต”

นายสรรเพชญกล่าวว่า  เราต้องปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ ที่ก็ต้องแล้วแต่มุมมองผู้บริหารพรรค ว่าพอใจที่เห็นพรรคปชป. เป็นอยู่แบบนี้หรือไม่ หรือว่าอยากเห็นพรรคปชป.กลับไปรุ่งเรืองอีกครั้ง เป็นสถาบันการเมือง เป็นสถาบันที่เคยสร้างนักการเมืองมาแล้วนับไม่ถ้วน เป็นสถาบันที่คนซึ่งอยากทำงานการเมืองอยากเข้ามาที่พรรคปชป.จริงๆ ก็ต้องถามผู้บริหารพรรคว่าจะนำพาพรรคปชป.ไปในทิศทางแบบไหน ผมคิดว่าผู้บริหารพรรค ก็มีแนวทางไว้อยู่แล้ว  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.เอ้' เรียก 'ทีมกทม. ปชป.' ประชุมวางยุทธศาสตร์แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบกรุงเทพมหานคร เรียกประชุมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และคณะทำงานพรรคในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมกับเชิญ น.ต. สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรค

'อดีตแม่ยกปชป.' เตือน 'ทักษิณ' พาดพิง 'ชวน' ถือว่าคิดผิด เชื่อใกล้จบอนาคตในเร็ววันนี้

นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่ม ชาวไทยหัวใจรักสงบ อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า

'จุรินทร์' ยึดหลัก 4 ข้อ โหวตแก้รธน. เชื่อ สว. ลงมติมีเหตุผลอยู่แล้ว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประธานรัฐสภา จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภา