23 ส.ค.2567 - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ พ.ศ. ๒๕๖๗"
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้ตั้งเป็น จำนวน รวมทั้งสิ้น ๑๒๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท จำแนกเป็นรายจ่ายตามที่จะระบุต่อไปในพระราชบัญญัตินี้ จำแนกดังนี้
มาตรา ๔ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมงบกลาง ให้ตั้งเป็นจำนวน ๑๒๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๑) ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็ง ของระบบเศรษฐกิจ ๑๒๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
มาตรา ๕ ให้กระทรวงการคลังมีอำนาจสั่งจ่ายเงินแผ่นดิน ตามรายการและจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือตามที่สำนักงบประมาณจะได้จัดสรร หรือตามที่จะได้มีการโอนเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย
มาตรา ๖ ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ - เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ
๑. โดยที่รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการดำรงชีพ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศรวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อันเป็นกรณีที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน โดยไม่สามารถรองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.พ.ศ. ๒๕๖๘ ได้ จึงต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน ๑๒๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน ๑๒๒,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
๒. ประมาณการเงินที่พึงได้มาสำหรับจ่ายตามงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพ.ศ. ๒๕๖๗ ดังนี้
(๑) ภาษีและรายได้อื่น โดยเป็นแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ทีเดิมไม่ได้กำหนดไว้ในประมาณการ จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) เงินกู้เพื่อขตเขยการขาดดุลประมาณ จำนวน ๑๑๒,๐๐๐๐,๐๐๐๐๐ บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อนายกฯ ลั่นซื้อหนี้ประชาชนต้องเกิดปีนี้ ขอใจเย็นดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นศก.แน่
‘ทักษิณ’ บอก ซื้อหนี้ประชาชนต้องทำ ระบุ เกิดขึ้นปีนี้ เชื่อน่าไปได้ดี พร้อมขอใจเย็นๆ ดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยกระตุ้นศก.แน่
แก๊งคอลฯ ยังทำงาน รัฐบาลเตือน อย่าคลิกข่าวปลอมหลอกเรื่อง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’
รบ.เตือน อย่าคลิกข่าวปลอมหลอกเรื่อง "ดิจิทัลวอลเล็ต" หลังพบแก๊งคอลฯ ยังทำงาน ย้ำไม่กดรับลิงก์ปลอมตามหลัก 4 ไม่
'เท้ง' ถอนหงอก 'แม้ว' พูดคำโต แต่ทำไม่ได้!
หัวหน้าพรรคปชน. ซัด 'ทักษิณ' โชว์วิชั่น 'เศรษฐกิจดิจิทัล' อาจซ้ำรอย 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ที่เคยประกาศแจกพร้อมกันให้เกิดพายุหมุน แต่ต้องแบ่งเป็นเฟส แนะเลิกใช้ภาษีประชาชนแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ลั่นอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจริง ไม่ใช่แค่คำพูดที่ดูโต แต่ทำไม่ได้
'แม้ว' โวสนั่น ดิจิทัลวอลเล็ตเต็มระบบมาแน่ปีนี้ ดันสเตเบิลคอยน์-ดิจิทัลเอ็มบาสซี่ ตั้งไทยเป็น AI ฮับ
‘ทักษิณ ชินวัตร’ ขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์โวเหมือนเดิม ‘ดิจิทัลวอลเล็ตเต็มระบบ’ มาแน่ปีนี้ พร้อมเร่งผลักดัน ‘สเตเบิลคอยน์’ เสร็จใน 3 เดือน ตั้งเป้าดึงดูดนักลงทุน-นักท่องเที่ยว ด้าน AI เตรียมใช้ช่วยแพทย์ หลัง รพ. ขาดบุคลากร แย้มฝันตั้ง ‘ดิจิทัลเอ็มบาสซี่’ กลางกรุงใน 1 ปี
‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ พายุ(ไม่)หมุน เข็น ‘เฟส3’ แจกวัยรุ่นฝ่าเสียงค้าน
“พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” พายุที่รัฐบาลคาดหวังจาก “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet” หรือโครงการแจกเงินหมื่น ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร
'จักรภพ' โผล่ฟอกแจกหมื่นเฟส 3 บอกเป็นแค่ 1 ใน 46 โครงการของรัฐบาล
'จักรภพ' ชี้ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' เป็นเพียง 1 ใน 46 โครงการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล คาดเริ่มเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 2-3 ก่อนขึ้นปีงบประมาณใหม่