'ดร.มานะ' แฉต่างชาติมองไทย ผ่าน 5 เรื่องคอร์รัปชั่น นักโทษชายชั้น 14 โจ่งแจ้ง

หากแต่ว่าวันนี้ประเทศไทยมองทางไหนก็มีคอร์รัปชั่น คนโกงไม่ละอาย คนปราบไม่กล้า ระบบรัฐไม่โปร่งใส การทำผิดกลายเป็นเรื่องง่าย รัฐบาลนี้ก็เอาแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

6 ส.ค.2567 – ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ต่างชาติมองไทย ผ่าน 5 เรื่องคอร์รัปชั่น

ในสายตาของนักธุรกิจต่างชาติและเจ้าหน้าที่ขององค์กรระหว่างประเทศ เขามองว่าอะไรทำให้ประเทศไทย “ล้มเหลว” ในการควบคุมคอร์รัปชั่น ทั้งที่เรามีกฎหมายและหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจมากมายไม่แพ้ชาติใดในโลก … ผมจะเล่าให้ฟังครับ

มี 5 เรื่องใหญ่ที่ชาวต่างชาติสรุปว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมชนิดโจ่งแจ้ง

  1. นักโทษชายชั้น 14
  2. ขุด – ย้ายกากแร่แคดเมียม
  3. แก้ไขสัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ที่เอกชนเรียกร้องเจรจาแบบไม่รู้จบ
  4. ผู้นำองค์กรตำรวจยกพวกตีกันทั้งที่ต่างฝ่ายต่างมีคดีคอร์รัปชันเป็นชนักปักหลังอยู่
  5. ปมปัญหาการบังคับใช้กฎหมายไม่จริงจัง ไม่น่าเชื่อถือ หลายเรื่องที่ชาวต่างชาติตกใจแต่ไม่สงสัยเพราะมีให้เห็นบ่อย โดยตัวอย่างที่พูดกันมากคือ ไม่เคยมีการลงโทษ “บริษัท” ที่ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 176 เลย แม้คดีนั้นเจ้าหน้าที่จะถูกจับติดคุกไปแล้วก็ตาม

เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนว่า ประเทศไทยอ่อนแอและละเลยต่อหลักนิติรัฐ (Rule of Law) แหวกกฎเอาชนะกันทุกอย่างด้วยข้อยกเว้น การตีความและใช้ดุลยพินิจ ไม่ยึดมั่นผลประโยชน์ของบ้านเมือง กล้าทำผิดแม้ค้านสายตาประชาชนหรือขัดแย้งบรรทัดฐานทางจริยธรรมของสังคมเพียงใดก็ตาม

อภิสิทธิ์ชน เส้นสายและพวกพ้อง ทำให้ต่างชาติที่อยากมาลงทุนต้องคิดหนักว่าจะเดินตามเกมโกงของคนไทย ไม่ก็ต้องคอยหาช่องทางตลอดเวลาว่า หากเจอปัญหาจะพึ่งพาใครได้

แน่นอนว่าพวกเขากลัวกฎหมายไทยน้อยกว่ากลัวกฎหมายของประเทศตนเองจะตามมาเล่นงาน เมื่อเขาติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐไทย

การติดต่อราชการยุ่งยากล่าช้า บางครั้งต้องเผชิญกับเจ้าหน้าที่ฉ้อฉลกันเป็นทีม

แม้แต่ “นโยบายของรัฐ” ที่ควรชัดเจนเชื่อถือได้บางทีกลับเปลี่ยนแปลงเมื่อผู้มีอำนาจเปลี่ยนไป

กลายเป็นว่า รัฐบาลพยายามไปชวนให้บริษัทต่างชาติมาลงทุน แต่ปล่อยให้คอร์รัปชันเป็นหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เขาไม่ตัดสินใจมาลงทุนในบ้านเรา

ต่างชาติเขารับรู้มาตลอดว่า คนไทยเองยังไม่เชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมสักเท่าไหร่ ขณะที่กลไกตรวจสอบหรือรับเรื่องร้องเรียนยังปกป้องเขาไม่ได้ พวกเขาจำนวนมากจึงเอาตัวรอดใช้เงินซื้อทุกปัญหา ทั้งจ่ายเองและจ่ายผ่านนายหน้า ทนายความ บริษัทบัญชี หรือผู้รับเหมา ฯลฯ

จะว่าไปแล้วชาวต่างชาติส่วนใหญ่ชื่นชมคนไทย อยากใช้ชีวิตที่มั่นคงในบ้านเรา เพราะผมได้พบกับนักธุรกิจต่างชาติและเจ้าหน้าองค์กรระหว่างประเทศจำนวนมากที่เข้าใจวิกฤตนี้ พยายามช่วยคิด เสนอแนะ ให้ความร่วมมืออย่างจริงใจให้เกิดการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น

หากแต่ว่าวันนี้ประเทศไทยมองทางไหนก็มีคอร์รัปชั่น คนโกงไม่ละอาย คนปราบไม่กล้า ระบบรัฐไม่โปร่งใส การทำผิดกลายเป็นเรื่องง่าย รัฐบาลนี้ก็เอาแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า..

บ้านเมืองเสียหายเพราะคอร์รัปชันขนาดนี้เราคนไทยนิ่งเฉยไม่ได้แล้วครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

ชาวใต้เตะโด่ง ประเคนต่างชาติเช่าที่ดินยาว ฟาดคนไทยยังแทบไม่มีจะอยู่  

ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ เปิดผลสำรวจประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ จี้เศรษฐา หยุดเปิดเช่าอหังสาริมทรัพย์ 99 ปี หวั่นเปิดทางเอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติ – เจ้าของธุรกิจ

‘จตุพร’ ซัด ‘เศรษฐา’ เลอะเทอะเสนอขายคอนโด 75% ให้ต่างชาติ ชี้กระทบมั่นคงประเทศ

‘จตุพร’ตอก’เศรษฐา’ ไอเดียเลอะเทอะเสนอขายคอนโด 75% อยู่นาน 99 ปี ซัดกระทบมั่นคงประเทศ ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่อเป็นอาณานิคมจำแลงย้อนยุค ถามใครได้ประโยชน์ ติงทบทวนอาชีพนักธุรกิจอสังหาก่อนเป็นนายกฯ หวังสังคมติเตียน

ทุกประเทศก็มี! นายกฯ อ้างต่างชาติถือครองคอนโด75%แค่อยู่อาศัย ไม่มีสิทธิ์โหวต

การถือครองคอนโดของชาวต่างชาติในการออกเสียงจาก 49% เป็น 75% ตรงนี้ต้องลงรายละเอียดนิดหนึ่ง คือ คนที่มีสิทธิ์โหวตให้นิติบุคคลทำอะไร