30 ก.ค.3567- อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ห้าวิบากจากความลำบากทุกข์ยากบนราชบัลลังก์ของพระมหากษัตริย์ 3 รัชกาลจากราชสกุลมหิดล
……………………………………………………………..
วิบากของราชสกุลมหิดล
ต้นราชสกุลมหิดลคือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช) ซึ่งทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพแต่สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
……………………………………………………………..
วิบากที่หนึ่ง
พระราชโอรสพระองค์โตคือ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ (พระเชษฐาของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช) ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์แรกของสยาม ซึ่งจะเป็นผู้มีสิทธิในการสืบสันตติวงศ์ แต่ทรงสวรรคตตั้งแต่ทรงพระเยาว์
……………………………………………………………..
วิบากที่สอง
หลังจากนั้นพระราชโอรสและพระราชธิดาในสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ก็สิ้นพระชนม์จนหมดสิ้นตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เหลือแต่เพียง 2 พระองค์คือ สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร และ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
……………………………………………………………..
วิบากที่สาม
เกิดคดีฆาตกรรมในหลวงรัชกาลที่ 8 จากสาเหตุทางการเมือง
สมเด็จพระราชชนนีได้ทรงเขียนจดหมาย แจ้งความเป็นอยู่ของลูกทั้งสามถึงสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (สมเด็จย่าของรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9) อยู่เสมอมิได้ขาด รวมถึงเรื่องที่รัฐบาลพยายามโน้มน้าวให้ในหลวงรัชกาลที่ 8 เสด็จกลับประเทศไทยเรื่อยมาตั้งแต่รับขึ้นครองราชย์ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาล
โดยสมเด็จพระราชชนนียังได้ย้ำอีกว่า สกุลมหิดลไม่ต้องการลาภยศใด ๆ หากแต่สิ่งที่มุ่งหวังคือ พระพลานามัย การศึกษา ตลอดจนการเรียนรู้ในช่วงเยาว์วัยของในหลวงรัชกาลที่ 8 คือสิ่งสำคัญที่สุด โดยได้ทรงย้ำกับเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศว่า…“การที่นันทต้องรับเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ก็เพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ต่อบ้านเมือง”
เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า สมเด็จย่า มิได้มีความปรารถนาให้พระราชโอรส เป็นพระมหากษัตริย์ ราชสกุลมหิดลปรารถนาเพียงการอยู่อย่างสงบสุข แต่ที่ต้องยอมรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์เนื่องจากเป็นภาระและหน้าที่ต่อบ้านเมืองเท่านั้น
ช่วงเช้าของวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งมีพระชนมายุ 20 พรรษา ได้ถูกฆาตกรรมและเสด็จสวรรคตอยู่ในห้องบรรทมของพระองค์ในพระที่นั่งบรมพิมาน ภายในพระบรมมหาราชวัง
มีบันทึกว่าเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 8 ซึ่งกำลังศึกษาวิชากฎหมายและนิวัติกลับมาประเทศไทย เคยมีการโต้ตอบกับนักการเมืองผู้กุมอำนาจอยู่หลายครั้ง เนื่องจากพบว่ามีความไม่ชอบมาพากลในการบริหารราชการแผ่นดิน ก่อนจะเกิดคดีสะเทือนขวัญในที่สุด
แต่มีความพยายามของฝ่ายปฏิกษัตริย์นิยมหรือฝ่ายล้มเจ้า บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้ร้ายว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 ถูกสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชลอบปลงพระชนม์ เพราะหวังครองราชสมบัติ
ตำแหน่งพระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ ในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีอำนาจทางการเมือง แต่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทั้งชาติ ไม่เหมือนพระมหากษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่ทรงมีอำนาจทางการเมืองเพียงผู้เดียว ดังนั้นน้องจะฆ่าพี่ทำไม
ยิ่งไปกว่านั้น จากบันทึกประวัติศาสตร์ที่ยกให้ดูข้างต้น รวมทั้งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปอย่างกว้างขวางตลอดมาว่า ราชสกุลมหิดลไม่มีความมุ่งหวังใดๆ ในเรื่องการเมืองและราชบัลลังก์ นอกจากนี้ครอบครัวมหิดลยังรักใคร่กลมเกลียว โดยเฉพาะรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ผูกพันรักใคร่กันตลอดมา ไม่มีเหตุผลจูงใจใดๆ บ่งชี้เลยว่า น้องจะฆ่าพี่เพื่อราชบัลลังก์ที่ไม่มีอำนาจทางการเมืองใดๆ
……………………………………………………………..
วิบากที่สี่
ใจความบางส่วนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่ผู้แทนนิตยสาร NATIONAL GEOGRAPHIC เมื่อปี พ.ศ.2525
“เมื่อข้าพเจ้าจะมารับหน้าที่นี้เมื่อ 36 ปีที่แล้วนั้น ข้าพเจ้าอายุเพียงแค่ 18 ปี ในเวลานั้นทุกอย่างดูทรุดโทรมไปหมด ในวันนั้นเก้าอี้และพรมก็ขาดเป็นรู พื้นแตกคร่ำคร่า วังทั้งวังก็เกือบจะพังลงมา เวลานั้นสงครามโลกเพิ่งสิ้นสุดลง ไม่มีใครสนใจกับอะไรทั้งสิ้น ข้าพเจ้าต้องค่อยๆก่อสร้างทุกๆอย่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ใช้วิธีทุบทิ้ง
ข้าพเจ้าต้องค่อยๆทำไปทีละเล็กทีละน้อย เป็นเวลา 36 ปีเข้าไปแล้ว ดังนั้น เราอาจเรียกรัชกาลนี้กระมังว่า เป็นรัชกาลแห่งการปฏิรูป ขนบธรรมเนียมเก่าแก่ ถูกรักษาไว้และเปลี่ยนแปรมาโดยลำดับ”
จากบทพระราชทานสัมภาษณ์ข้างต้นจะเห็นถึงความยากลำบากในช่วงต้นรัชกาลในแผ่นดินของในหลวงรัชกาลที่ 9
พระองค์ใช้เวลาถึง 36 ปี กว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอย
……………………………………………………………..
วิบากที่ห้า
ในประวัติศาสตร์ชาติไทยหรือของชาติใดๆ ในโลกมีลักษณะคล้ายกันอยู่อย่าง คือเมื่อมีการเปลี่ยนรัชกาลหรือผลัดแผ่นดิน มักเกิดการลองของ หรือความพยายามในการล้มล้างราชบัลลังก์
ดังนั้น นับตั้งวินาทีแรกที่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา ก็คือวินาทีแห่งวิบากกรรมของพระองค์
คงไม่ต้องอธิบายความใดๆ ว่าเกิดเหตุการณ์ใดในความพยายามบั่นทอนพระราชบัลลังก์
และคงไม่ต้องอธิบายว่าพระองค์ได้ประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์ใดต่อชาติและประชาชนมากมายเพียงใด
แต่ต้องใช้เวลามากน้อยเพียงใด ในการรับมือกับการเมือง ยังไม่มีใครบอกได้
……………………………………………………………..
สิ่งที่พวกเราประชาชนผู้จงรักภักดีต้องทำคือ สามัคคี ร่วมกันค้ำบัลลังก์และถวายกำลังใจ ให้พระองค์ ร่วมกันถวายกำลังใจ ถวายชัยมงคล และร่วมกันสรรเสริญพระบารมีราชวงศ์จักรีและราชสกุลมหิดล ให้คงอยู่สถาพรตลอดไป
อ่านทั้งหมดได้ที่ “อัษฎางค์ดอทคอม”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???
'อัษฎางค์' ชี้ระบอบทักษิณค่อยๆจุดไฟเผาตัวเอง
อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ระบุข้อความสั้นๆว่า ทษ.-รพ.ตร.-เอาลูกสาวมาเป็นนา
'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ในหัวข้อ "อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง"
เอ็ดดี้ ข้องใจปม ‘เกาะกูด’ ถาม ‘ทักษิณ’ มีข้อตกลงอะไรกับ ‘ฮุนเซน’ หรือไม่
ทักษิณ ชินวัตร ไร้น้ำยา ไม่สมราคาคุย หรือ ทักษิณ ชินวัตร มีข้อตกลงอะไรกับฮุนเซน หรือไม่ อย่างไร เป็นคำถามที่ค้างคาใจประชาชนคนไทยทั้งชาติ
'เอ็ดดี้' ชำแหละ ขบวนการล้มเจ้าในออสเตรเลีย
อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ เรื่อง”ขบวนการล้มเจ้าในออสเตรเลีย“